ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 573
ถึงแม้ว่าอ๋องหลี่จะไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดในใจ ก็ยังมองออกว่าเบื้องหลังของคำพูดหวงไท่โฮ่วนั้นมีเจตนาร้ายอยู่
และแน่นอนว่าหลังจากที่เขามองด้านหลังม่านบังลมนั้นมีคนผู้หนึ่งออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด……ไม่ จ้องมองมายังเขาด้วยความกรุ่นโกรธ “ข้าดุร้าย? หยาบคาย? ไม่งดงามอย่างนั้นหรือ?”
แต่ละคำค่อย ๆ บีบบังคับถาม เสียงระเบิดดังขึ้นในหูของอ๋องหลี่
อ๋องหลี่เอ่ยออกมาอย่างช้า ๆ “ดุนั้นก็ดุอยู่เล็กน้อย แต่ก็ไม่ยินยอมให้ผู้อื่นรังแก นี่เป็นข้อได้เปรียบ ส่วนหยาบคายนั้น ก็ดูหยาบคายอยู่เล็กน้อย แต่ว่าอย่างไรแล้วก็ดีกว่าหญิงสาวที่เสแสร้งอ่อนโยนพวกนั้น ไม่งดงามนั้นเป็นเพราะการตีกรอบเอาไว้ และนี่เป็นเพราะมุมมองที่แตกต่างกันของแต่ละคน เจ้าดูสิ จมูกเป็นจมูก ตาเป็นตา เพียงแต่ผิวดูจะดำคล้ำไปเสียหน่อย ในมุมมองของข้าแล้ว นี่มันงดงามมากแล้ว”
องค์หญิงจากเป่ยอัน พระชายาอาหมานของอ๋องหลี่ ไม่ได้ถือว่างดงามหมดจด และเมื่อมองจากมุมมองความงามของต้าโจวแล้ว ก็ไม่ได้งดงามจริง ๆ เป็นเพราะว่าผิวของนางนั้นค่อนข้างจะดำคล้ำ แต่รูปหน้าและเครื่องหน้านั้นล้วนแต่น่ามอง หากว่าอยู่ในยุคปัจจุบันแล้ว ก็ถือได้ว่าเป็นสาวงามคนหนึ่ง
อาหมานยิ้มเย้ยหยันออกมา “เช่นนั้นแล้ว ชุดอภิเษกของท่านเก็บเอาไว้เพื่อที่จะอภิเษกกับพระชายาคนที่สองอย่างนั้นหรือ? รู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าท่านรังเกียจที่ข้าไม่อาจคลอดบุตรได้ ดี เก็บเอาไว้เถิด วันพรุ่งข้าจะกลับไปยังเป่ยอัน หลีกเลี่ยงให้ไม่ต้องอยู่ที่นี่เพื่อมองเห็นหน้าท่าน”
“ไม่มีทาง ข้าจะให้เจ้าไม่เห็นหน้าได้อย่างไร?” ว่ากันตามตรงแล้ว เป็นเขาที่เอาแต่มองหน้าของนางอยู่ตลอด?
หวงไท่โฮ่วตรัสปลอบโยนออกมา “พวกเจ้าไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว กลับไปเถิด ข้าจะไปหายืมชุดอภิเษกจากคนอื่นแทน”
อ๋องหลี่เอ่ยกล่าวโทษออกมา “จะไปหาคนอื่นอะไรกัน? ข้าไม่ใช่ว่ามีชุดสำเร็จอยู่อย่างนั้นหรือ? ชุดอภิเษกนี้ ตลอดทั้งชีวิตใช้เพียงแค่ครั้งเดียวเท่านั้น เก็บเอาไว้ก็สิ้นเปลืองเปล่า ๆ หวงไท่โฮ่วส่งคนให้ไปเอาจากจวนอ๋องก็พอแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หวงไท่โฮ่วขมวดคิ้วออกมา “เจ้าสามอย่าฝืนใจเลย ข้าไปหายืนจากผู้อื่นเอาได้ หากว่าไม่ได้แล้วจริง ๆ ก็คงต้องให้อาเจี๋ยสวมชุดชินอ๋อง หรือชุดผู้สำเร็จราชการแทนที่ใช้ในยามว่าราชการยามเช้าแทนได้”
อ๋องหลี่เหลือบมองไปยังสายตาของอาหมานที่เต็มไปด้วยความกรุ่นโกรธ “ท่านเอ่ยอันใดออกมากัน? อภิเษกก็ต้องใส่ชุดอภิเษกอยู่แล้ว”
หวงไท่โฮ่วถึงได้ยิ้มออกมา “ดี ซุนกงกง ส่งคนตามท่านอ๋องกลับเอาชุดอภิเษก”
อาหมานย่อกายลง “เสด็จแม่ พวกเราทูลลาเพคะ”
นางจ้องมองไปยังอ๋องหลี่อย่างดุร้าย ก่อนจะเดินออกไปก่อน
อ๋องหลี่ประสานมือเข้าด้วยกันช้า ๆ ก่อนที่จะก้าวเดินออกไปอย่างสง่างาม เมื่อถึงหน้าประตูแล้ว เขาก็หมุนกายก่อนจะวิ่งออกไป ปากก็ร้องตะโกนออกมา “ภรรยา รอก่อน รอข้าก่อน”
หวงไท่โฮ่วยิ้มออกมา ซุนกงกงเอ่ย “หวงไท่โฮ่ว คราวนี้เกรงว่าท่านอ๋องจะต้องโกรธแค้นท่านเป็นแน่แล้ว”
“ไม่เป็นไร กลับไปค่อยชดใช้โทษให้เขาดี ๆ เขาก็จะยกโทษให้ข้าเอง เขาเข้าใจหลักเหตุผลดี หากว่าอีกฝ่ายขอโทษ เขาไม่ยกโทษให้ เขาเองก็รู้สึกลำบาก และก็ลำบากกับอาหมานที่จะรับมือกับคนเช่นเขาได้”
“บ่าวรู้สึกว่าอ๋องหลี่และพระชายานั้นรักกันเป็นอย่างยิ่งนะพ่ะย่ะค่ะ” ซุนกงกงเอ่ยออกมา
“รักกันจริง ในตอนนั้นถึงแม้จะกล่าวว่างานอิเษกนี้จะเป็นการเชื่อมสัมพันธ์ แต่บรรพชนท่านเอ่ยเอาไว้แล้วว่า อาหมานจะเป็นคนปราบเขา เจ้าสามตั้งแต่เล็กเติบโตมากับบรรพชน แต่ไม่ได้เรียนรู้อารมณ์ที่ร้ายกาจของบรรพชนมาแม้แต่น้อย แต่กลับยิ่งดูจริงจังมากกว่า”
ขณะที่นางเอ่ยออกมาพร้อมกลับถอนหายใจเบา ๆ “น่าเสียดายเพียงแค่อย่างเดียวก็คือ อาหมานตอนนี้ยังไม่อาจที่จะให้กำเนิดบุตรออกมาได้ จิ่นไท่เฟยเคยเอ่ยออกมาต่อหน้าข้าหลายครั้งแล้วว่า อยากจะหาพระชายารองให้กับเขา แต่ว่าเขาไม่เห็นด้วย ให้ข้าออกหน้าไปพูดให้ แต่ข้าไม่ใช่คนที่จะไปทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสามีภรรยาเช่นนั้น”
ซุนกงกงเอ่ย “ไม่รู้ว่า หากคุณหนูใหญ่ยังไม่ตายแล้ว จะสามารถรักษาอาการตั้งครรภ์ยากของพระชายาได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
“ข้าก็ไม่รู้เช่นกัน น่าเสียดายที่นางไม่อยู่แล้ว” หวงไท่โฮ่วอดที่จะรู้สึกเสียใจไม่ได้ “เจ้าเจ็ดน่าสงสารมากที่สุดแล้ว ข้ายังนึกว่าเขาสามารถตามหาคนที่เหมาะกับใจได้แล้ว หวังก็แต่ว่างานอภิเษกในคราวนี้ที่บรรพชนทรงประทานมานั้น อีกฝ่ายจะเป็นหญิงสาวที่ดี”
“สายพระเนตรของไท่หวงไท่โฮ่วนั้นดีมาตลอด”
หวงไท่โฮ่วส่งเสียงอืมออกมา “ช่วงนี้กุ้ยไท่เฟยมีความเคลื่อนไหวใดบ้างหรือไม่?”
ซุนกงกงเอ่ย “หลายวันมานี้ก็ไม่พบว่านางจะเข้าวังมาถวายพระพรเลยพ่ะย่ะค่ะ”
“หวังว่านางจะเป็นเช่นที่นางเคยเอ่ยเอาไว้ ว่าความคิดเปลี่ยนไปแล้ว”
ซุนกงกงมองมายังนาง “แต่ไท่โฮ่วท่านเองก็ยังไม่ทรงเชื่อ ใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ?”
หวงไท่โฮ่วหมุนลูกปัดในมือ “ข้าอยากจะเชื่อ แต่ว่าข้าเข้าใจนางเป็นอย่างดี ตั้งแต่เล็กนางก็แข็งกระด้างมาโดยตลอด”
นางมองไปทะลุปรุโปร่ง แต่ว่าก็ยังหวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น