ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 575
ราษฎรในเมืองหลวงพากันกรุ่นโกรธกับการที่มู่หรงเจี๋ยจะแต่งงาน
เป็นเพราะว่าก่อนหน้านั้นเขามีสัญญาหมั้นหมายอยู่กับเซี่ยจื่ออัน มาตอนนี้ศพของเซี่ยจื่ออันยังตามหาไม่พบ เขาก็จะแต่งงานเสียแล้ว
ทว่ามู่หรงเจี๋ยเองก็มีความชอบที่จัดการกับโรคผีดิบนี้ลงได้ เพราะฉะนั้นทุกคนเองก็อดทนที่จะไม่ตำหนิเขา และก็มีคนที่เริ่มจะเอ่ยปกป้องเขา บอกว่าเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้ เป็นงานอภิเษกที่ไท่หวงไท่โฮ่วทรงประทานให้ เขาจะขัดขืนได้อย่างไร?
สายตาของเหล่าราษฎรเองก็พากันเปลี่ยนไป ไท่หวงไท่โฮ่วที่ถูกประกาศออกมาแล้วว่าสิ้นพระชนม์ไปแล้วกลับมีชีวิตขึ้นมา ทำให้ทุกคนต่างก็พากันรู้สึกประหลาดใจอย่างมาก
ทว่าผู้เฒ่าผู้แก่บางคนบอกออกมาว่า หากว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับหลงไท่โฮ่วนั้น ก็ไม่นับว่าเป็นเรื่องแปลกประหลาดใด เรื่องแปลกประหลาดเช่นนี้ขอเพียงแค่เกิดขึ้นกับนางแล้ว ล้วนแต่ถือว่าสมเหตุสมผล
อย่างไรเสีย ท่ามกลางเสียงต่าง ๆ มู่หรงเจี๋ยก็ต้องแต่งงานแล้ว
มู่หรงจ้วงจ้วงและเฉินหลิวหลิ่วต่างก็พากันเรียกร้องความยุติธรรมให้กับจื่ออัน แต่แล้วจะทำอย่างไรได้?
เฉินหลิวหลิ่วบ่นออกมากับเฉินไท่จวิน “ท่านย่า ก่อนหน้านี้ท่านเคยบอกว่า ให้เหล่าพี่ชายไปช่วยคุ้มครองจื่ออัน สุดท้ายแล้วจื่ออันก็ไม่ได้กลับมา พวกพี่ชายเองก็ไม่รู้ว่าไปที่ใด ตกลงแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เฉินไท่จวินยิ้มออกมา “เด็กโง่ ต้องสงบสติอารมณ์ให้ได้ เรื่องใหญ่ถึงจะสำเร็จ บางทีสุดท้ายแล้ว ทุกอย่างก็อาจจะเป็นตามปรารถนา?”
“นอกจากว่าจื่ออันจะกลับมา แล้วจะสมปรารถนาได้อย่างไร? ข้าไม่เชื่อ”
“บางทีอาจจะกลับมาก็เป็นได้?”
เฉินหลิวหลิ่วส่งเสียงออกมา “ท่านย่า ท่านรู้อะไรมาใช่หรือไม่ แต่ว่าไม่อาจเอ่ยออกมาได้?”
เฉินไท่จวินยิ้ม แต่ไม่เอ่ยออกมา
เฉินหลิวหลิ่วมองไปยังนาง และเมื่อใดที่นางเผยท่าทีเช่นนี้ออกมา ก็หมายความว่าจะต้องมีบางอย่าง
ในวันงานอภิเษก เมืองหลวงเต็มไปด้วยความคึกคัก
เพราะว่าตั้งแต่เช้าตรู่ก็มีประกาศจากองค์จักรพรรดิ ซึ่งป่าวประกาศต่อใต้หล้าว่า ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิกำลังจะอภิเษกสมรสแล้ว เกษตรกรทุกคนล้วนแต่ได้รับการยกเว้นภาษีไปครึ่งปี พ่อค้าต่างได้รับการลดภาษีและค่าธรรมเนียมลงครึ่งปี
ประโยชน์ก็คือ ทำให้ชาวบ้านพากันสงบใจ ข้อเรียงร้องของราษฎรนั้นง่ายดายมาก นอกเสียจากให้เงินหรืออย่าแย่งเงินของข้าไปเพียงเท่านั้น
เมื่อการกระทำนี้ของไท่หวงไท่โฮ่วออกมาแล้ว เสียงต่าง ๆ ก็เงียบสงบลง ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าเงินทองนั้นเป็นของที่ง่ายต่อการใช้งาน โดยเฉพาะแล้ว ไม่ใช่เงินทองของตนเอง
และจากคำอธิบาย ให้ใต้เท้าทุกท่านนำของขวัญล้ำค่าไปอวยพร ของขวัญล้ำค่านี้นั้นหมายถึงอะไรกัน? ก็ไม่ได้จำเพาะเอาไว้ แต่ถ้าหากว่าเจ้านำไก่หรือเหล้าไปขวดหนึ่ง ก็คงจะไม่เพียงพอแล้ว
ก็เท่ากับว่าเป็นการตบลงบนในหน้าของไท่หวงไท่โฮ่ว
และมีขุนนางบางส่วนที่ไม่รู้ ก็ไปขอคำแนะนำของเหล่าไท่จวิน เพราะอย่างไรแล้ว เหล่าไท่จวินนั้นเป็นแม่ทัพหญิงคนหนึ่งที่ไท่หวงไท่โฮ่วทรงปลุกปั้นขึ้นมา นางจะรู้ลักษณะนิสัยของไท่หวงไท่โฮ่วเป้นอย่างดี
เหล่าไท่จวินเอ่ยออกมาอย่างช้า ๆ “ที่พวกเจ้าจะมอบนั้น ข้าเองก็คงไม่อาจจะเอ่ยออกมาได้ แต่ข้านั้นมอบเงินไปให้”
“เงิน?”
เหล่าไท่จวินพยักหน้า “ไม่ผิด เงินเป็นสิ่งที่มีประโยชน์มากที่สุด และตามที่ข้ารู้มา ไท่หวงไท่โฮ่วนั้นเป็นคนที่จริงจังเป็นอย่างมาก นางเองก็ไม่ได้ชอบของขวัญที่หรูหรามาก”
“เช่นนั้น ก่อนหน้านั้นที่มอบของขวัญ ล้วนแต่มอบเงินอย่างนั้นหรือ? แล้วมอบเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสมกัน?”
แววตาของเหล่าไท่จวินเกิดลำแสงชั่วร้ายออกมา “หากว่าจะถามถึงความเหมาะสมแล้ว มอบเท่าไหร่ก็เหมาะสม สตางค์หนึ่งก็เหมาะสม หนึ่งเหรียญก็เหมาะสม หนึ่งร้อยตำลึงก็เหมาะสม หากว่าถึงหนึ่งพันตำลึงก็ยิ่งเหมาะสม”
“เข้าใจ เข้าใจแล้ว” เหล่าขุนนางต่างก็พากันทยอยกลับออกไป
นอกจากจะมีการเชิญเหล่าขุนนางแล้ว ยังเชิญเหล่าผู้มั่งคั่งในเมืองหลวงอีกด้วย