ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 589

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 589

ไท่หวงไท่โฮ่วให้จื่ออันยืนรออยู่ด้านนอกของประตู นางมีเรื่องที่ต้องพูดคุยกับมู่หรงเจี๋ย

จื่ออันถอยออกไป ป้าอาเฉอก็ยืนอยู่ด้านนอกประตู เมื่อเห็นนางออกมา และมองไปยังแขนที่มีเชือกบ่วงบาศคล้องอยู่ “ของสิ่งนี้ใช้ง่ายยิ่งนัก เจ้าอยากจะให้ข้าสอนว่ามันใช้อย่างไรหรือไม่?”

เมื่อคืนนี้จื่ออันก็ได้เห็นถึงความร้ายกาจของเชือกบ่วงบาศมาแล้ว มาตอนนี้ได้ยินป้าอาเฉอบอกว่ายังมีผลวิเศษอื่นอีก ก็อดไม่ได้ที่ยิ้มออกมา พร้อมเอ่ยขอคำชี้แนะ “ป้าอาเฉอได้โปรดชี้แนะด้วย”

ป้าอาเฉอส่งเสียงอืมออกมา “ข้าทนทุกข์ทรมานมาจากเชือกบ่วงบาศนี้ไม่น้อย ก่อนหน้านั้นหญิงชราก็ใช้มันจัดการกับข้า”

ภายในห้องโถง

ไท่หวงไท่โฮ่วพบว่าสีหน้าของเขาดูไม่ดีนัก ก็ให้เขานั่งลง “เจ้าคิดว่า ข้าเห็นมารดาของเจ้ารังแกเซี่ยจื่ออันแล้วยังไม่ยอมส่งเสียงใดออกมา เป็นเพราะว่าจะช่วยเหลือนาง?”

มู่หรงเจี๋ยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา “มิใช่ นางเองไม่อาจจะรังแกเซี่ยจื่ออันได้”

“รู้ก็ดีแล้ว เซี่ยจื่ออันไม่ได้คุกเข่าให้กับข้า นางกลับเรียกร้องให้เซี่ยจื่ออันคุกเข่าให้กับนาง ตรงจุดนี้ข้าสามารถเอ่ยอะไรช่วยจื่ออันได้จริง ทว่าข้าอยากจะดูว่าเด็กคนนี้จะสามารถอดทนได้เพียงใด ในจวนผู้สำเร็จราชการแห่งนี้ ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้สายตาของนางแล้ว ไม่ง่ายเลย เด็กคนนี้ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาก็คุกเข่าลงไป ตรงจุดนี้ข้าขอชื่นชม เจ้าคิดว่าในใจของนางไม่เคยโกรธเกลียดมารดาของเจ้าอย่างนั้นหรือ? นางโกรธเกลียดอย่างชัดเจน แต่ตอนนี้นางเป็นเพียงผู้น้อย กิริยามารยาทเหล่านี้หากว่าขาดหายไป ภายหน้าก็อาจจะถูกผู้คนว่ากล่าวถึงได้”

มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “หากสำหรับนางแล้ว เสียกิริยามารยาทไปก็ไม่นับว่าเกินไป”

“เจ้าไม่ใส่ใจ เจ้ามู่หรงเจี๋ยมีอะไรต้องใส่ใจกัน? หลายปีมานี้ จากสนามรบสู่เวทีการเมือง จากในจวนไปสู่พระราชวัง คนใหญ่โตอย่างเจ้าเคยกลัวใครบ้างหรือไม่? หวาดกลัวใครบ้าง? รู้หรือไม่ว่าเพราะว่าอะไร? เพราะว่าเจ้ามีความชอบทางทหาร เพราะว่าเจ้ามีอำนาจ เพราะว่าทุกคนต่างก็รู้ดีว่า เจ้ามีองค์จักรพรรดิเป็นที่พึ่งพิง เจ้าได้รับความโปรดปรานจากข้า เจ้ากุมอำนาจเอาไว้ กุมเส้นสายคนเอาไว้ กุมบัลลังก์ของจักรพรรดิที่ทุกคนในต้าโจวใฝ่ฝันถึง เพราะฉะนั้น เจ้าก็เลยไม่จำเป็นต้องใส่ใจ ทว่านางไม่ใช่เจ้า ที่หากนางจะแต่งงานกับเจ้าแล้ว ก็จะสามารถใช้ทุกสิ่งทุกอย่างของเจ้าได้ นางจะตายไปอย่างรวดเร็ว อาเจี๋ย ข้าจะเอ่ยอะไรออกมาให้กับเจ้าสองสามประโยค เพื่ออยากจะเตือนเจ้าเอาไว้ นางไม่ใช่เจ้า หากว่าเจ้ายัดเยียดการกระทำในแบบของเจ้าให้กับนางแล้ว ก็จะเป็นการทำร้ายนาง”

มู่หรงเจี๋ยค่อย ๆ กลั่นกรองความหมายในคำพูดของนาง ก็ค่อนข้างจะเข้าใจขึ้นมา

คำพูดของบรรพชนต้องการจะบอกกับเขาว่า อย่าเป็นเพราะว่ารักนาง แล้วมอบอำนาจมากมายที่เหมือนกันกับเขาให้กับนาง ที่เขามีอยู่นั้น นางไม่จำเป็นที่ต้องมี

ทางด้านนี้ หลังจากที่พูดคุยกับมู่หรงเจี๋ยเสร็จแล้ว ไท่หวงไท่โฮ่วก็ทรงเรียกให้จื่ออันเข้าไปยังหอหรูอี้ เป็นสถานที่ที่นางอาศัยอยู่เป็นการชั่วคราวภายในจวน

อาเฉอรออยู่ด้านนอกไม่ได้ตามเข้าไป อีกทั้งยังปิดประตูลง

ไท่หวงไท่โฮ่วถอดผ้าคลุมลงช้า ๆ เผยให้เห็นพระพักตร์

จื่ออันมองไปยังนางอย่างแทบจะไม่เชื่อสายตาของตนเอง

ใบหน้านั้นจะอ่อนเยาว์เช่นนี้ไปได้อย่างไรกัน? อย่างมากที่สุดก็คืออายุยี่สิบเจ็ด ยี่สิบแปด พอ ๆ กันกับจ้วงจ้วง ทว่าจ้วงจ้วงนั้นเป็นหลานสาวของนาง

“ประหลาดใจมากอย่างนั้นหรือ?” ไท่หวงไท่โฮ่วมองไปยังท่าทางนั้นบนใบหน้าของนาง ตรัสถามออกมาอย่างเรียบเฉย

จื่ออันส่ายศีรษะออกมา และแทบจะหายใจได้อย่างยากลำบาก “นี่ ดูเหมือนว่าค่อนข้างจะประหลาดใจจริง ๆ”

ไท่หวงไท่โฮ่วตรัสออกมาอย่างเรียบเฉย “ไม่มีอะไรให้น่าประหลาดใจ เจ้าทำหน้าที่เป็นตัวแทนมาหลายปี มีอะไรที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อน?”

คราวนี้ขาทั้งสองจื่ออันอ่อนแรงลง จริง ๆ แล้วนางทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ ตื่นตกใจเสียไปกว่าครึ่งค่อนวันก็ไม่อาจจะหุบปากลงได้

“ท่าน……ขอถามว่าท่านรู้ได้อย่างไรกัน?” จื่ออันเอ่ยถามออกมาเสียงสั่นเครือ

ไท่หวงไท่โฮ่วจ้องมองไปยังนางแน่นิ่ง “ตั้งแต่ก่อนหน้าที่เจ้าจะตายไป แล้วมาปรากฏที่แห่งนี้ ข้าล้วนแต่รู้ดี ทุกเรื่องของเจ้า ข้าล้วนแต่มองเห็นอยู่ในสายตา และนี่ก็เป็นสาเหตุที่ข้าทำไมถึงได้ช่วยเจ้าเอาไว้”

จื่ออันตื่นตกใจเป็นอย่างยิ่ง ไท่หวงไท่โฮ่วผู้นี้จริง ๆ แล้วคือใครกันแน่?

“เจ้าจำเป็นต้องรู้เบื้องลึกของข้า เจ้าจำเอาไว้ ในจวนแห่งนี้ก็ดี ภายในวังหลังก็ดี ล้วนแต่เป็นหุบเหวลึก คนที่ไม่มีความสามารถ ล้วนแต่ไม่อาจบุกเข้าไปได้ คนที่ไม่มีความอดทน ก็บุกเข้าไปไม่ได้ คนที่ไม่มีแรงต้านทาน ก็บุกเข้าไปไม่ได้ จำได้แล้วหรือไม่?”

จื่ออันพยักหน้าราวกับตำข้าวออกมา “จำได้แล้วเพคะ”

แม้แต่ที่มาของนางก็รู้อย่างชัดเจน แล้วนางจะกล้าเอ่ยอะไรออกมาได้อย่างนั้นหรือ? อีกทั้ง นางเอ่ยออกมาได้อย่างถูกต้อง และก็เข้าใจได้เป็นอย่างดีว่า ไม่ว่าจะอยู่ในจวนอ๋องหรือว่าวังหลังนั้น ล้วนแต่ต้องระมัดระวังกับทุกเรื่อง

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท