ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 622
อี๋เอ๋อร์เล่า? อี๋เอ๋อร์จะทำอย่างไร? ท่านจะถอดใจจริง ๆ อย่างนั้นหรือ?” จื่ออันบีบบังคับถามออกมา
อ๋องเหลียงมองยังนางด้วยความประหลาดใจ “เจ้ารู้จักอี๋เอ๋อร์? อี๋เอ๋อร์เป็นหญิงสาวที่ดี บางทีนางอาจจะแต่งงานไปแล้วก็เป็นได้ อีกทั้ง ถึงแม้ว่าข้าจะเคยชื่นชอบนาง แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะแต่งงานกับนาง อย่างไรแล้ว นางก็เป็นหญิงสาวจากซีหนาน สถานะภูมิหลังต่ำต้อย ไม่คู่ควรกับข้า”
เขาเอื้อมมือออกมารินชาจอกหนึ่ง จื่ออันมองยังปลายนิ้วมือที่จับจอกนั้นของเขาที่สั่นเทาเล็กน้อย
เขาเสียใจและรู้สึกโกรธ แต่กลับเสแสร้งทำเป็นปลอบโยนคนที่ห่วงใยเขาจริง ๆ
ซูชิงเองก็มองออกว่ามีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง “อ๋องเหลียง ท่านสามารถปฏิเสธออกไปได้ ท่านชื่นชอบอี๋เอ๋อร์เป็นอย่างมาก อีกทั้งอี๋เอ๋อร์ก็อาจจะยังไม่ได้แต่งงาน แล้วทำไมถึงไม่ไปตามหานางกัน?”
“ไม่ตามหาแล้ว มีอะไรให้ต้องหากัน? หญิงสาวสามัญชนเช่นนั้น มีไว้เพียงเพื่อความรื่นเริงเท่านั้น หลังจากที่รื่นเริงไปแล้ว ก็เป็นเหมือนกับขยะที่ต้องโยนทิ้ง”
เขาดื่มชาไปคำโต “เอาล่ะ พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว ข้ายังมีเรื่องที่ต้องจัดการอีก”
เมื่อเอ่ยออกมาจบ ก็เดินมุ่งออกไปด้านนอก
จื่ออันรีบลุกยืนขึ้นมารั้งเขาเอาไว้ “ข้ารู้แล้ว ฮองเฮาจะต้องกลัวว่าท่านจะเป็นภัยคุกคามกับองค์รัชทายาท ก็เลยบอกให้ท่านถอดใจในการรักษาขา กระทั่งยังจัดการการแต่งงานให้กับท่าน ท่านสามารถคัดค้านได้ ท่านไม่จำเป็นต้องฟังคำของนาง”
อ๋องเหลียงมองยังนาง ยิ้มเยาะเย้ยออกมา “ดูสิว่าเจ้าเอ่ยอะไรออกมา? ท่านแม่จะทำกับข้าอย่างนี้ได้อย่างไร? เป็นข้าเองที่ถอดใจไม่รักษา อีกทั้งคุณหนูตระกูลหลินข้าเองก็เคยพบมาก่อน ไม่เลวเลยจริงๆ เป็นข้าที่ตัดสินใจจะแต่งงานเอง เอาล่ะ ไม่ต้องคาดเดาอะไรไร้สาระแล้ว กลับไปเถิด รอดื่มเหล้ามงคลของข้าเถิด”
“อ๋องเหลียง……”
“พอเถิด ไปได้แล้ว อย่ามาขวางทางข้า ข้านัดหมายกับคุณหนูตระกูลหลินเอาไว้ไปชมดอกไม้บ้านมารดานาง” เมื่อเอ่ยจบแล้ว ก็ผลักซูชิงและจื่ออันออกไป
จื่ออันและซูชิงมองสบตากัน ทำได้เพียงแค่จากไปก่อนชั่วคราว
อ๋องเหลียงมองพวกเขาเดินจากไป จากนั้นก็ค่อย ๆ นั่งลงบนบันไดหิน เคาะลงบนขาของตนเองเบา ๆ ยิ้มแล้วเอ่ยออกมา “เช่นนี้ไม่ใช่ดีหรอกหรือ จะแต่งงานแล้ว”
รอยยิ้มของเขา ค่อย ๆ แข็งค้างเปลี่ยนเป็นหิน
“ซินเอ๋อร์ โรคที่หลบซ่อนอยู่ของเจ้าสามารถรักษาจนหายแล้ว แม่เองก็ดีใจยิ่งนัก จนเอ่ยออกมาไม่ได้ แม่ไม่เสียใจเลยที่เจ้ามีชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ไม่เสียใจเลยจริง ๆ”
“แม่หวังว่าจะสามารถมองเห็นขาของเจ้าดีขึ้น กลายเป็นเหมือนคนปกติทั่วไป ไม่ต้องถูกผู้คนเยาะเย้ย ทว่าหากว่าเมื่อเจ้าดีขึ้นมาแล้ว เจ้าเคยคิดบ้างหรือไม่ว่า จะมีคนบางคนที่มีใจคิดแบ่งพรรคพวกพี่เจ้าสองพี่น้อง เจ้าก็จะกลายเป็นอาวุธของผู้อื่น เป็นอาวุธที่ทำร้ายน้องชายของเจ้า เจ้ายินยอมจะทำเช่นนี้จริงๆ หรือ?”
“น้องชายของเจ้าถึงแม้ว่าจะไม่มีอะไรดีนัก แต่ก็เป็นคนบริสุทธิ์โดยธรรมชาติ เป็นห่วงเจ้าเป็นอย่างมาก เจ้าเองก็คงจะทนไม่ได้ที่จะเห็นเขาถูกถอดจากตำแหน่งองค์รัชทายาทใช่หรือไม่? เจ้าเองก็ดูโดดเด่นกว่าเขามาก”
“แม่จัดการงานอภิเษกให้กับเจ้า เป็นหญิงสาวที่มีคุณธรรมคนหนึ่ง เป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลหลิน หลานสาวของหลินซื่อหลาง ก่อนหน้านั้นมหาเสนาบดีเซี่ยก็ชื่นชมนางเป็นอย่างมาก จะต้องกลายเป็นแรงสนับสนุนช่วยเหลือที่ดีให้กับเจ้า และจะต้องไม่รังเกียจที่เจ้าพิการเป็นแน่”
“หากว่าเจ้าไม่เห็นด้วย แม่เองก็คงจะไม่บังคับเจ้า ใช่แล้ว แม่นางอี๋เอ๋อร์คนนั้นยังอยู่ในเมืองหลวงหรือไม่? หญิงสาวเช่นนี้ก็ยังฝันอยากจะเป็นพระชายา ช่างดูฝันกลางวันจนเกินไปแล้ว วางใจเถิด แม่จะช่วยเจ้าจัดการเอง”
นางได้ยินเสียงคุกเข่าของตนเองอย่างชัดเจน “เสด็จแม่ ลูกกลัวเจ็บปวด คงไม่อาจจะทนต่อความเจ็บปวดจากการหักกระดูกแล้วต่อเข้าใหม่ได้ ตรงจุดนี้ ลูกจะบอกกับป้าสะใภ้เอง ส่วนเรื่องอภิเษกนั้น เป็นสิ่งที่ลูกฝันหามาโดยตลอด ขอบพระทัยเสด็จแม่ที่ช่วยจัดการให้ ส่วนอี๋เอ๋อร์นั้น ลูกไม่พบกับนางนานแล้ว เสด็จแม่ไม่จำเป็นต้องตามหานาง”
“อาจิน นำเหล้าเข้ามา ข้ามีเรื่องมงคลจะต้องดื่มฉลองเสียหน่อย!” อ๋องเหลียงร้องตะโกนออกมาเสียงดัง
เขากอดเสากลมลุกขึ้นยืน เอ่ยเย้ยหยันออกมา “เสด็จแม่ อ่า ที่จริงแล้วท่านรู้ดีว่าเป็นเขาที่ผลักข้าออกมา เป็นเขาที่วางแผนทำร้ายข้าให้บาดเจ็บ ทำร้ายจนข้ากลายเป็นคนพิการ ยังจะบริสุทธิ์อยู่อีกหรือ?”
นางรู้ทุกอย่างมาโดยตลอด หลายปีมานี้ ถึงแม้ว่าเขาจะกลายเป็นคนพิการ แต่เขาก็ยังไม่คิดที่จะปล่อยเขาไป
ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ นางล้วนแต่มองเห็นอยู่ในสายตา
นางนำอี๋เอ๋อร์มาอยู่ในสายตา นางรู้ดี มีเพียงแค่หญิงสาวคนนี้เท่านั้นที่มอบความอบอุ่นของโลกใบนี้ให้กับเขา นางใช้อี๋เอ๋อร์มาขมขู่เขา ช่างเป็นแม่ที่ดีจริง ๆ!