ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 644
กุ้ยไท่เฟย องค์รัชทายาท ราชครู ฮองเฮา อ๋องหนานหวาย เฉินหลิงหลง เซี่ยหว่านเอ๋อร์ สนมรองซุน และยังมีพระสนมอี๋ท่านนั้น เพราะว่าเรื่องนั้นของพระสนมอี๋และองค์รัชทายาทนั้น นางรู้แล้ว
จื่ออันแอบนับคนเหล่านี้อยู่ในใจ บ่นพึมพำและสาปแช่งออกมาลับ ๆ มายังที่นี่ได้ไม่นานนัก กลับสร้างศัตรูเอาไว้ไม่น้อย
“ศัตรูเยอะเกินไปสินะ?” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยล้อเล่นออกมา
จื่ออันหันกลับไปถามนาง “ศัตรูของท่านเล่า มีเยอะหรือไม่?”
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมา “ข้าแทบจะไม่มีศัตรูเลย”
“คนอื่นข้าไม่เอ่ยถึง องค์รัชทายาท ราชครู และฮองเฮาล้วนแต่เกลียดท่านเป็นอย่างมาก”
“พวกเขาไม่นับว่าเป็นศัตรู เป็นตัวตลก” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย
“ระวังตัวตลกพวกนี้ หากมันกระโดดขึ้นมาจริง ๆ แล้วจะเอาชีวิตคน” จื่ออันเอ่ย
“เป็นห่วงข้าหรือ?” มู่หรงเจี๋ยมองยังนางเหมือนกับเด็กน้อย
จื่ออันส่งเสียงออกมา “ห่วงท่านแล้วจะอย่างไร? ระหว่างสามีภรรยา หากว่ามีความสุขก็สุขด้วยกัน หากเจ็บปวดก็เจ็บปวดด้วยกัน ข้าเองก็หวังว่าท่านจะสบายดี และข้าเองก็จะได้มีชีวิตที่สงบสุข”
“อืม ไม่คิดจะให้ข้าได้แต่งพระชายารองหรอกหรือ?” มู่หรงเจี๋ยยิ้มเย็นออกมา
จื่ออันเอ่ย “ข้าพบว่าท่านจะจดจำความแค้นเอาไว้ได้ดีเป็นพิเศษ ข้าเคยเอ่ยออกมาแล้ว ท่านก็ยังเอาแต่เอ่ยถึงมัน หรือจะเป็นท่านเองที่คิดอยากจะแต่งพระชายารอง?”
มู่หรงเจี๋ยส่งเสียงฮึมออกมา “หากว่าเปลี่ยนเป็นข้าที่เอ่ยถึงมันออกมาครั้งหนึ่ง ดูว่าเจ้าจะโกรธแค้นหรือไม่”
“ท่านเอ่ยถึงมันออกมาเอง เอ่ยถึงแล้วก็ต้องช่วยหาให้ข้า หากว่าไม่หา ก็กลายเป็นเด็กน้อย!” จื่ออันเอ่ยตอบกลับมา
มู่หรงเจี๋ยมองยังนาง ทันใดนั้นก็ใช้มือบีบลงบนแก้มของนาง เอ่ยออกมาอย่างร้ายกาจ “แม้แต่คิดเจ้าก็อย่าได้คิด”
จื่ออันเอ่ยถามออกมาพร้อมรอยยิ้ม “ท่านกังวลกับข้ามากขนาดนี้เชียวหรือ คงจะไม่รักข้าไปแล้วหรอกหรือ?”
“ข้าเองก็เป็นกังวลกับสุนัขของบ้านพี่สาม เจ้าที่เป็นห่วงข้า เช่นนั้นเมื่อครู่นี้ ชอบข้าเข้าแล้วสินะ?” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉย
จื่ออันโกรธเกลียดเสียจนต้องกัดฟัน ตั้งแต่แต่งงานมาจนถึงตอนนี้ ก็สองเดือนกว่าแล้ว ถ้าบอกว่าชอบนางไปแล้วจะตายไหม?
ดี เขาไม่ยอมเอ่ยออกมา ก็อย่าคิดว่านางจะเอ่ย
“ไม่ได้เป็นห่วงท่าน แต่กลัวว่าท่านจะทำความลำบากให้ข้า”
ทั้งสองคนมองไปยังด้านนอกพร้อมกัน ล้วนแต่ไม่ต้องการจะสนใจกับอีกฝ่าย
ผ่านไปไม่นาน จื่ออันถึงได้เอ่ยถาม “ท่านว่าเซียวเซียวจะไปที่ใดกัน?”
มู่หรงเจี๋ยเอ่ย “ไม่ไปหลบซ่อนอยู่ใกล้ ๆ กับประตูจวนองค์หญิง แล้วจะไปที่ใดได้?”
“เขามักจะไปยังประตูจวนองค์หญิงหรือ? ที่จริงแล้วในใจของเขานั้นรักจ้วงจ้วงมาก ในปีนั้นตกลงแล้วเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”
มู่หรงเจี๋ยลังเลที่จะเอ่ยออกมา สุดท้ายก็เอ่ยว่า “ไม่รู้”
จื่ออันมองไปยังสีหน้าของเขา “ท่านรู้อะไรใช่หรือไม่?”
มู่หรงเจี๋ยส่ายศีรษะออกมา “ไม่รู้ เพียงแต่สงสัยบางเรื่องในใจ ทว่าก็ไม่อาจที่จะยืนยันเรื่องจริงได้”
“สงสัยอะไรกัน? บอกให้ข้าฟังหน่อย บางทีเรื่องที่ท่านสงสัย กับข้าสงสัยอาจจะเหมือนกันก็ได้”
มู่หรงเจี๋ยมองยังนาง “เจ้าบอกมาก่อนสิว่าเจ้าสงสัยอะไรกัน”
จื่ออันนั่งตัวตรงเอ่ยว่า “วันนี้จ้วงจ้วงบอกเรื่องของพวกเขากับข้า วันนั้นในตอนที่นางอายุสิบหกปี เซียวเซียวบอกว่าจะไปขอนางแต่งงาน แต่วันนั้นจริง ๆ แล้วก็ไปพบกับองค์จักรพรรดิด้วย แต่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่ได้ไปพบกับจ้วงจ้วง แต่กลับตรงออกจากวังไป วันถัดมา สาวใช้ของจ้วงจ้วง เหยาจื่อและหานชิงชิวไปสืบข่าวมา จากนั้นก็ไปตามหาเซียวเซียว เหยาจื่อตายไปนอกวัง ส่วนหานชิงชิวนั้นกับเซียวเซียวกลับมีอะไรกัน ถึงวันที่สี่ หานชิงชิวกลับไปบอกเรื่องของนางกับจ้วงจ้วง เซียวเซียวเองก็เข้าว่าไปบอกกับองค์จักรพรรดิว่าจะแต่งงานกับหานชิงชิว องค์จักรพรรดิทรงโกรธเกรี้ยวจนทุบตีเขาเสียยกใหญ่ เป็นจิ้งกั๋วกงที่ไปร้องขอต่อหวงไท่โฮ่ว หวงไท่โฮ่วประทานงานสมรสออกมา ในเรื่องนี้ ข้ามีข้อสงสัยอยู่สองข้อ ข้อที่หนึ่ง เซียวเซียวไปหาองค์จักรพรรดิเพื่อสู่ขอ องค์จักรพรรดิเห็นด้วยหรือว่าไม่เห็นด้วย? หากว่าเห็นด้วยแล้วเขาก็คงต้องไปหาจ้วงจ้วงในทันที หากว่าไม่เห็นด้วย ทำไมองค์จักรพรรดิถึงได้ไม่เห็นด้วยกัน?”
“อืม ข้อที่สองเล่า?” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยถาม