ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 652
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังนั้น คงไม่อาจจะคาดเดาได้
เดิมทีจื่ออันคิดที่จะเอ่ยอะไรออกมา แต่เมื่อเห็นว่าท่าทีของมู่หรงเจี๋ยดูไม่ดีนัก ทันใดนางก็รู้สึกขึ้นมาได้ว่า ครั้งนี้ไม่ใช่ว่าจะพุ่งโจมตีเขาหรอกหรือ?
เขาเคารพรักเสด็จพี่ของเขามาโดยตลอด
นางกุมมือเขาเอาไว้ ทั้งสิบนิ้วพันเข้าด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
มู่หรงเจี๋ยเอนหลังซุกศีรษะเข้ากับหมอนอ่อนนุ่มเบื้องหลัง “หากว่าเรื่องนี้ถูกเปิดเผยออกไป จะต้องกระทบต่อชื่อเสียงขององค์จักรพรรดิอย่างแน่นอน”
“ท่านคิดจะทำอย่างไรต่อไป?” จื่ออันเอ่ยถามเสียงเบา
“ทางด้านของจ้วงจ้วง อย่างไรเสียก็บอกกับนางเสียเล็กน้อยเถิด อย่างน้อยให้นางรู้ว่า เซียวเซียวไม่ใช่ว่าไม่รักนาง เพียงแต่ถูกบีบบังคับจนทำอะไรไม่ได้ ข้าเชื่อว่านางสามารถทนรับเรื่องนี้เอาไว้ได้ นางจะต้องเข้าใจว่าชีวิตคนเรามีเรื่องราวมากมาย ต่อให้เจ้าไม่ต้องการจะแบกรับเอาไว้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ต้องทนรับมัน”
จื่ออันพยักหน้าอย่างเงียบ ๆ ใช่แล้ว จ้วงจ้วงก็อายุไม่น้อยแล้ว นางมีประสบการณ์มากมาย ก็คงจะแบกรับเรื่องนี้ได้
เพียงแต่ว่าบนโลกนี้เป็นไปได้อย่างไรกัน? เรื่องในราชวงศ์หากว่าถูกเปิดเผยออกไป ก็คงจะทำให้ผู้คนรู้สึกว่าโหดร้ายอย่างยิ่ง
บางทีจ้วงจ้วงอาจจะรับได้ เพราะอย่างไรแล้ว ในปีนั้นนางก็ทนรับมามากแล้ว คนที่นางรักมากที่สุดแต่งงานกับสาวใช้ที่นางไว้ใจที่สุด นางก็ยังทนรับได้ มีอะไรที่ทนรับไม่ได้กัน? แต่ไม่ได้หมายความว่านางจะทนได้ และก็ทำร้ายนางได้อย่างไร้ยางอาย
และก็เพียงแค่สาวใช้คนหนึ่งเท่านั้น หญิงสาวที่ไม่มีบิดามารดา
จื่ออันรู้สึกห่วงจ้วงจ้วงมาก
วันถัดมา นางก็ไปหาจ้วงจ้วง นำเรื่องราวที่หานชิงชิวเอ่ยออกมาบอกกับจ้วงจ้วงไป
หลังจากที่จ้วงจ้วงฟังแล้ว ก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา
เนิ่นนาน นางถึงได้เงยหน้าขึ้นมา ยิ้มออกมาอย่างอนาถใจ “เรื่องนี้ ให้เจ้าเจ็ดเก็บเป็นความลับไว้ก่อน ใครก็ห้ามเอ่ยออกมา”
“จ้วงจ้วง เรื่องนี้หากว่าถูกเปิดเผยออกไป ทุกคนล้วนแต่ช่วยเหลือท่าน ท่านมีพระราชโองการของจักรพรรดิฮุ่ย ไม่มีใครสามารถบีบบังคับให้ท่านทำในสิ่งที่ไม่ยินยอมได้ องค์จักรพรรดิปฏิบัติตามพระราชโองการ มาใช้ทำร้ายท่าน……”
จ้วงจ้วงเงยหน้าขึ้นมา ขัดคำพูดของนาง “ไม่แล้ว ไม่จำต้องเอ่ย ข้ารู้ก็พอแล้ว หากว่าเรื่องนี้ถูกพูดออกมา ก็จะทำร้ายชื่อเสียงของเขา ไม่มีความจำเป็นนี้”
จื่ออันรู้สึกแย่ขึ้นมา “ท่านยังคงคำนึงถึงเขา? เขาทำกับท่านเช่นนี้แล้ว”
จ้วงจ้วงถอนหายใจออกมาเบา ๆ “ข้าจำได้ ในปีนั้นก่อนที่เสด็จย่าจะออกจากวังไป นางพูดกับข้ามากมาย ในตอนนั้นข้าอายุยังน้อย ไม่รู้ว่าสิ่งที่นางเอ่ยออกมานั้นหมายความว่าอย่างไร มาตอนนี้เข้าใจแล้ว นางบอกกับข้าว่า จ้วงจ้วง อ่า เจ้ามีสถานะเป็นบุตรสาวในตระกูลราชวงศ์ เจ้าได้รับความรุ่งโรจน์มั่งคั่งอย่างที่ผู้อื่นไม่ได้รับ นี่ก็หมายความว่าเจ้าอาจจะสูญเสียบางสิ่งไปบ้าง ชีวิตคนเรานั้นไม่มีสิ่งที่สมบูรณ์แบบ เจ้าจะต้องเรียนรู้ยอมรับการสูญเสียไป เรียนยอมรับความโหดร้าย เรียนรู้ที่จะยอมรับว่าชีวิตคนเรานั้น มีสิ่งที่หมดหนทางมากมาย เจ้ามีชาติกำเนิดดีกว่าผู้อื่น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าสวรรค์จะดูแลเส้นทางระหว่างชีวิตของเจ้าเป็นพิเศษ ยังมีราชวงศ์ภักดีต่ออำนาจมาโดยตลอด เจ้าที่อยู่ในนั้น ภายหน้าก็อาจจะถูกคนใช้ประโยชน์ บางทีอาจจะถูกทำร้าย บางทีก็ถูกคนทิ่มแทงเข้าอย่างแรง และคนที่ทำสิ่งเหล่านี้ บางทีก็อาจจะเป็นคนที่รักมากที่สุด หากว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเจ้า เจ้าก็ลองคิดให้ดี ๆ คนที่ทำร้ายเจ้านั้น เขาได้อำนาจทางการปกครองหรือไม่ เขาทำดีต่อราษฎรหรือไม่ หากเขามีอย่างใดอย่างหนึ่ง หากเป็นไปได้ การกล้ำกลืนคำพูดนี้ลงไป เจ้าก็กลืนไปเสียเถิด เพราะว่าเจ้าเป็นบุตรสาวในตระกูลราชวงศ์”
จื่ออันตะลึงไป “ไท่หวงไท่โฮ่วก่อนหน้านั้นก็เคยเอ่ยกับท่านเช่นนี้มาก่อน? หรือว่านางจะคาดการณ์ไว้แล้วว่า ภายหน้าองค์จักรพรรดิจะทำร้ายท่าน?”
“ไท่หวงไท่โฮ่วมีความชำนาญในการทำนายทางการแพทย์และโหราศาสตร์ ภาพวาดเช่นนี้ไม่เคยผิดพลาดมาก่อน บางทีเรื่องราวมากมายก็ถูกกำหนดเอาไว้นานแล้ว” จ้วงจ้วงถอนหายใจออกมา มองไปยังจื่ออัน “อันที่จริงแล้ว สิ่งเหล่านี้ที่เจ้าเอ่ยออกมานั้น ข้าก็เคยคิดเอาไว้ก่อนแล้ว เพียงแต่ยังคงหลอกลวงตัวเอง ก่อนที่องค์จักรพรรดิจะล้มป่วยไปนั้น ก็ดูแลข้าดีมาโดยตลอด ความดีความเมตตาเช่นนี้ ดูเหมือนว่าจะเป็นการชดเชย ข้ามองออกได้”