ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 674
เซี่ยหลินเงยหน้าขึ้นมา เมื่อมองเห็นจื่ออัน เขาก็รีบพุ่งเข้ามากอดจื่ออันเอาไว้แน่น “พี่ใหญ่!”
มู่หรงเจี๋ย อ๋องอัน และคนอื่น ๆ ต่างเดินออกมา เมื่อมองเห็นฉากนี้ ต่างก็พากันตื่นตกใจ เซี่ยหลินผู้นั้นไม่ใช่ว่าตายไปแล้วหรอกหรือ? ทำไมถึงได้ยังมีชีวิตอยู่อีก?
ไม่ง่ายเลยที่สองพี่น้องจะกอดกันจนพอใจ มู่หรงเจี๋ยถึงได้เดินมาข้างหน้า “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
จื่ออันเช็ดน้ำตาออกไป แล้วมองไปยังเซี่ยหลิน “ใช่แล้ว ตกลงแล้วมันเกิดอะไรขึ้น? เจ้าออกจากวังมาได้อย่างไร? ใครช่วยเจ้าเอาไว้?”
เซี่ยหลินส่ายศีรษะออกมาอย่างตรงไปตรงมา “ข้าไม่รู้ว่าใครช่วยข้าไว้”
พั่งจื่อฟันหักส่งเสียงมืดมนออกมา “อาสุ่ย เป็นอากงที่ช่วยเจ้าเอาไว้ บอกกับเจ้าไปตั้งหลายครั้งก็ไม่ยอมจำเอาไว้”
เซี่ยหลินดูเหมือนว่าจะจำได้ขึ้นมาในทันที จึงแลบลิ้นออกมาอย่างเขินอาย “ใช่แล้ว เป็นอากงที่ช่วยข้าเอาไว้ พวกเขาล้วนแต่บอกมาเช่นนี้”
“อากง?” จื่ออันมองไปยังพั่งจื่อฟันหัก “เป็นท่านอ๋องอันหรานอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว” พั่งจื่อฟันหักพยักหน้าเอ่ยออกมา
มู่หรงเจี๋ยรู้สึกสับสนเล็กน้อย “เขาเรียกเจ้าว่าอาสุ่ย หรือว่าคนที่ท่านอ๋องบอกว่าสามารถถอนพิษได้เมื่อวานนี้จะเป็นเจ้า?”
ทุกคนต่างก็มองไปยังพั่งจื่อฟันหัก พั่งจื่อฟันหักฉีกยิ้มออกมา “ใช่แล้ว เป็นเขา เขาร่ำเรียนตำราพิษมาก่อน”
ถึงแม้ว่าจะอดที่จะรู้สึกเศร้าสลดใจไม่ได้ อาสุ่ยผู้นี้ก็คือเซี่ยหลิน? นี่มันยิ่งทำให้คนผิดหวังเสียยิ่งกว่าเมื่อวานนี้อีก
ไม่ต้องพูดถึงคนที่มีปัญหาทางสมอง แต่ต่อให้จะเป็นคนที่ฉลาดศึกษามาเพียงแค่หนึ่งเดือน ก็อาจจะไม่ได้เรียนรู้ถึงแก่นสาระได้
เดิมทีเซี่ยหลินเป็นคนสติปัญญาไม่ดี ดูท่าทีของในตอนนี้ ดูสับสนมึนงง จะไปเหมือนคนที่ร่ำเรียนการแพทย์มาได้อย่างไร?
ทุกคนต่างก็รู้สึกว่าท่านอ๋องอันหรานหลอกลวงกันมากจนเกินไปแล้ว ไม่สู้ ไม่จำเป็นต้องมอบความหวังให้จะดีกว่า
จื่ออันเองก็ผิดหวังเป็นอย่างมาก ทว่ามื่อเห็นว่าเซี่ยหลินกลับมา ก็พอจะบรรเทาความโศกเศร้าในใจไปได้บ้าง
แต่นางก็ยังคงมีข้อสงสัย “ข้าจำได้ว่าในตอนนั้นเจ้าได้รับบาดเจ็บสาหัส อีกทั้งยังสิ้นลมไปแล้ว ทำไมถึงได้?”
มู่หรงเจี๋ยเอ่ย “หรือว่าผลการตรวจของเจ้าจะผิดพลาด? บางทีเขาอาจจะยังไม่ตาย ก่อนหน้านั้นข้าเองก็เคยได้ยินมาก่อนว่า มีคนผู้หนึ่งถูกวินิจฉัยว่าตายไปแล้ว แต่หลังจากนั้นเพียงสองวันก็มีชีวิตขึ้นมา นี่ไม่ใช่การตายที่แท้จริง”
“ข้าเป็นแพทย์ทหารมาแปดปี ท่านคิดว่าแม้แต่การตรวจวินิจฉัยของข้าก็ผิดพลาดได้หรือ?” จื่ออันเอ่ยถามกลับมาอย่างไม่ลังเล
ดวงตาของมู่หรงเจี๋ยเกิดร่องรอยของความประหลาดใจแวบผ่านมา มองมายังนาง “เจ้าเป็นแพทย์ทหารมาแปดปี?”
จื่ออันแทบอยากจะตบปากตัวเองสักสองที คืนวานนี้ไม่ได้นอน ทั้งกังวลและเศร้าใจ บวกกับความยินดีที่ได้พบกับเซี่ยหลิน ทำให้อารมณ์ของนางดูมึนงง เดิมทีคำพูดเหล่านี้ควรที่จะทิ้งเอาไว้ในท้อง กลับเปิดเผยออกมาโดยที่ไม่มีสัญญาณเตือนใด
“ในตอนนั้นข้าแน่ใจว่าเซี่ยหลินตายไปแล้ว” จื่ออันรีบเปลี่ยนหัวข้าการสนทนาอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ตอบคำถามของมู่หรงเจี๋ย
มู่หรงเจี๋ยและอ๋องอันมองสบตากัน ทว่ารอบกายนั้นมีคนอยู่ คงไม่ดีนักที่จะไล่ถามต่อไป
พั่งจื่อฟันหักเอ่ยออกมา “ตายไปแล้วน่ะสิ ในตอนที่อากงช่วยเขานั้น เขาตายไปแล้ว”
“ตายไปแล้วยังจะสามารถช่วยกลับมาได้อีก?” จื่ออันตื่นตะลึงเป็นอย่างมาก “เช่นนั้นเซียวเซียวยังไม่ตาย ทำไมเขาถึงบอกว่ามีความมั่นใจเพียงแค่ส่วนเดียวกัน?”
พั่งจื่อฟันหักเอ่ยออกมา “เซียวเซียวเองก็ตายไปแล้ว!”
“อะไรนะ?” มู่หรงเจี๋ยและอ๋องอันส่งเสียงคำรามออกมาพร้อมกัน จากนั้นมู่หรงเจี๋ยก็คว้าคอเสื้อของพั่งเสี่ยวจื่อเอาไว้ “เจ้าว่าอะไรนะ? เซียวเซียวตายแล้ว?”
พั่งจื่อฟันหักนั้นเดิมทีก็มีอายุเพียงแค่สิบสาม สิบสี่ปีเท่านั้น ติดตามอ๋องอันหรานมาโดยตลอด ไม่เคยถูกใช้ความรุนแรงเช่นนี้มาก่อน มาตอนนี้มู่หรงเจี๋ยลากเขาไว้อย่างรุนแรง ชั่วร้าย จึงตะลึงไปอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ส่งเสียงร้องไห้ออกมา
จื่ออันผลักพวกเขาออกไปทันที แล้วเอ่ยดุด่าออกมา “ดูผู้ใหญ่อย่างพวกท่านสิ ทำจนเด็กน้อยร้องไห้ออกมาแล้ว”
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาด้วยความเขินอาย “ใครจะรู้ว่าเขาจะกลัวหรือไม่!”