ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 681
ต่อมาก็จะมีการพลิกหน้าหนังสือจำนวนมาก เพื่อค้นหาว่าที่ใดมีการบันทึกเกี่ยวกับละมั่งโลหิตเอาไว้บ้าง
อย่างไรก็ตาม พลิกหาไปครึ่งค่อนวัน ก็มองไม่เห็นข้อมูลบันทึกเกี่ยวกับละมั่งโลหิตเลยแม้แต่น้อย ขณะที่กำลังเศร้าหดหู่อยู่นั้น หยวนพ่านก็ออกมาจากวัง
เขาได้ยินถึงละมั่งโลหิต ถึงกับตกตะลึงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง จึงขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิด จากนั้นก็เอ่ยกับมู่หรงเจี๋ยว่า “กระหม่อมได้ยินมาว่าในวังของแคว้นต้าเหลียงมีเขาละมั่งโลหิตอยู่คู่หนึ่ง ในอดีตนั้นเป็นของท่านหมอเวินอี้ ภายหลังมอบให้กับองค์หญิงใหญ่จิงมั่ว ได้ยินมาว่าภายหลังองค์หญิงใหญ่ได้มอบให้กับองค์รัชทายาทของแคว้นต้าเหลียง”
คำพูดของหยวนพ่าน ทำให้ทุกคนเลือดสูบฉีดขึ้นโดยที่ไม่ต้องสงสัย
เพราะว่าคืนวันนี้องค์รัชทายาทของแคว้นต้าเหลียงก็จะมาถึงเมืองหลวงแล้ว หากว่าเขามีเขาของละมั่งโลหิตจริง และยินยอมที่จะให้หยิบยืม ใช้ม้าเร็วรีบไปยังแคว้นต้าเหลียงแล้วกลับมา ก็คงจะประมาณสิบวัน
ตอนนี้แมลงเจ็ดส่วนสามารถอยู่ในร่างกายได้เจ็ดวัน เมื่อนำแมลงเจ็ดส่วนออกมาแล้ว ก็ยังคงฝังเข็มได้อีกครั้ง ก็จะมีเวลาอีกสามวัน รวมกันก็จะเป็นเวลาสิบวัน
องค์รัชทายาทแคว้นต้าเหลียงเคยเสด็จมายังต้าโจวสองครั้ง รวมกับครั้งนี้ก็จะเป็นครั้งที่สามแล้ว
แต่ละครั้งที่มานั้น ล้วนแต่ได้รับการต้อนรับจากต้าโจวอย่างยิ่งใหญ่ ทว่าก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่เทียบเท่าครั้งนี้
เขายังไม่ทันมาถึงประตูเมือง ก็พบคนเข้าแถวยาวอยู่สองข้าง พรมแดงถูกลากยาวกว่าครึ่งลี้จากประตูเมือง สองข้างพรมแดงนั้นมีทหารกองเกียรติยศยืนอยู่ เมื่อมองเห็นรถม้าของเขา ก็เริ่มบรรเลงดนตรี จุดดอกไม้ไฟ และเพราะว่าฟ้ายังไม่ทันมืด จุดดอกไม้ไฟก็ไม่ได้น่ามอง แต่ทำให้องค์รัชทายาทแห่งแคว้นต้าเหลียงซ่งรุ่ยหยางตื่นตกใจเข้า
เมื่อขบวนรถม้าเข้ามาใกล้ เขามองเห็นกลุ่มคนที่ยืนอยู่ในความมืดมิดใต้หอคอยนั้น มองแล้วแยกแยะอย่างระมัดระวัง ก็ดูเหมือนจะมองเห็นสมาชิกในราชวงศ์ อ๋องหลี่ อ๋องอัน ผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิ กษัตริย์ติง อ๋องเหลียง อ๋องเป่ยเซียง ท่านโหวเหลียง จิ้นกั๋วกง และคนอื่น ๆ
เขารีบร้อนหันกลับไปถามคนที่รับใช้ข้างกาย “ราชวงศ์ต้าโจวเกิดอะไรขึ้น? ถึงได้มีทหารกองเกียรติยศใหญ่โตเพียงนี้มาต้อนรับข้า?”
คนรับใช้ค่อนข้างที่จะประหลาดใจ “บ่าวเองก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นพ่ะย่ะค่ะ คนอื่นนั้นช่างมันเถิด ทว่าผู้สำเร็จราชการแทนออกจากเมืองมาต้อนรับด้วยตนเองเช่นนี้ ดูจะไม่ปกติเสียแล้ว”
จะต้องรู้ว่าผู้สำเร็จราชการแทนในตอนนี้นั้นเทียบเท่ากับผู้ปกครองแคว้น การต้อนรับรัชทายาทต่างแคว้นท่านนี้ ไม่จำเป็นต้องให้เขาลงแรง อีกทั้งต่อให้เขาต้องการจะออกมาต้อนรับ ก็ไม่ควรที่จะมาถึงประตูเมืองเช่นนี้
ล้อรถหยุดลงอย่างช้า ๆ องค์รัชทายาทแคว้นต้าเหลียงซ่งรุ่ยหยางกระโดดลงจากรถมา กายสวมชุดคลุมสีขาวพลิ้วไหวไปท่ามกลางสายลม ถึงแม้ว่าจะอายุสามสิบหก สามสิบเจ็ดไปแล้ว แต่ก็ยังคงหล่อเหลาดังเดิม
ใต้หล้านี้รู้กันดีว่าราชวงศ์ต้าเหลียงนี้ได้ให้กำเนิดคนงาม องค์รัชทายาทท่านนี้ของแคว้นต้าเหลียงเองก็ได้รับบางส่วนมากจากจักรพรรดิของต้าเหลียง และก็เป็นสิ่งที่ซ่งรุ่ยหยางได้รับสืบทอดมาจากท่านปู่ของเขา ซ่งฉงโหลวมา
ซ่งรุ่ยหยางเดินนำคณะทูตไปยังเบื้องหน้า มู่หรงเจี๋ยเองก็ก้าวไปยังเบื้องหน้า และไม่รอให้เหล่าคณะทูตได้เอ่ยทำความเคารพ มู่หรงเจี๋ยจับมือของซ่งรุ่ยหยางเอาไว้ ด้วยท่าทีที่คุ้นเคย “พี่ซ่ง ลำบากมาตลอดทางเลย? ข้าจัดงานเลี้ยงรอเอาไว้ในจวนอ๋อง เพื่อรับรองท่านทั้งหลายแล้ว”
คำว่าพี่ซ่ง ทำให้ลูกตาของซ่งรุ่ยหยางแทบจะหลุดลงมา เขามองไปยังมู่หรงเจี๋ย ท่าทีดูมึนงง “ท่านอ๋อง นี่…” เขาหันกลับไปมอง ก็พบว่าคณะทูตทยอยกันทำความเคารพออกมา
“โอ๋ว!” มู่หรงเจี๋ยเหมือนราวกับเพิ่งจะนึกถึงเรื่องของการทำความเคารพกันขึ้นมาได้ ก็โบกมือออกไป
”พวกเราต้าโจวและต้าเหลียงก็เป็นเหมือนกับพี่น้องกัน ระหว่างพี่น้อง ไม่จำเป็นต้องสุภาพกันเช่นนี้ ตามสบายเถิด รีบตามสบายกันเถิด!”
“ขอบพระทัยผู้สำเร็จราชการแทนองค์จักรพรรดิพ่ะย่ะค่ะ” เหล่าทูตเอ่ยออกมา
ซ่งรุ่ยหยางมาถึงยังจวนอ๋องภายใต้ความตื่นตกใจ เมื่อลงจากรถม้า ก็พบทหารกองเกียรติยศจวนอ๋องที่เอกเกริก ประตูประดับตกแต่งไว้ด้วยโคมไฟ ดูครื้นเครง เขาเพิ่งจะเข้าไป ก็ได้ยินเสียง “ครึกโครม” ดังขึ้น เขาที่ไม่ทันได้ตั้งตัว ก็ตื่นตกใจเสียจนใบหน้าซีดขาว
ไม่มีแม้แต่เวลาที่จะกล่าวทักทาย ก็ถูกดึงเข้าไปในห้องจัดเลี้ยง ท่านอ๋องทั้งหลายต่างก็ผลัดกันมาคารวะสุรา หลังจากที่ดื่มไปรอบนี้ เขาก็ดื่มไปแล้วถึงเจ็ดแปดจอก
มีทูตคนหนึ่งต้องการจะเข้าไปช่วยเขาดื่มเหล้า มู่หรงเจี๋ยกลับถือจอกเหล้า แม้แต่ทูตคนนั้นเองก็ถูกคารวะสุราด้วย มู่หรงเจี๋ยคารวะสุราด้วย แม้แต่ท่านอ๋องคนอื่น ๆ ก็เข้ามาคารวะสุราด้วย ทูตคนนี้เพียงแต่ต้องการเพียงช่วยองค์รัชทายาทดื่มเพียงจอกเดียว สุดท้ายตนเองถูกคารวะสุราให้ดื่มไปถึงเจ็ดแปดจอก อีกทั้งตำแหน่งของเขาต่ำกว่า เมื่อท่านอ๋องทุกท่านมาคารวะสุราเขาแล้ว เมื่อดื่มเสร็จตนเองยังต้องดื่มกลับไปอีกสามจอก เพื่อแสดงถึงความเคารพ ทูตเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนที่ดื่มเก่ง เพราะอย่างไรแล้วก็เพื่อความรื่นเริงในทางการทูต อย่างไรแล้วก็ต้องดื่มสุราได้ดี แต่เมื่อดื่มไปเจ็ดแปดจอก เขาก็เมาไปแล้วเจ็ดแปดส่วน แม้แต่จะเดินก็ยังไม่มั่นคง
คืนนี้จื่ออันเองก็อยู่ในงานด้วย ไม่น่าแปลกใจที่มู่หรงเจี๋ยถึงได้กระทำการอย่างน่าตื่นตกใจเช่นนี้ เพราะว่า เวลานั้นเหลือน้อยเต็มทีแล้ว