ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 689
เหล่าไท่จวินเมื่อเอ่ยแล้วก็ทำตามนั้น เมื่อจื่ออันเพิ่งจะจากไป นางก็สั่งคนให้เตรียมรถม้าไปจวนโหว
การกระทำที่กล้าหาญบางคราวก็ดูน่ากลัว โดยเฉพาะคนที่เคยอยู่ในสนามรบมาก่อน
จื่ออันกลับมายังจวนองค์หญิง ระยะนี้นางถือว่าจวนองค์หญิงนั้นเป็นบ้านของตนเองเสียแล้ว
เข้าจวนมาก็ถามกับหมอหลวง “ที่แม่นางคนนั้นนำมาเป็นเขาละมั่งโลหิตหรือไม่?”
หมอหลวงเอ่ย “ทูลพระชายา นางไม่ได้นำมา เพียงแต่บอกว่ามารดาของนางมีเขาละมั่งโลหิต ภายหลังให้นางดูรูปภาพ นางบอกว่าสีไม่ถูกต้อง เช่นนั้นก็คงจะไม่ถูกต้องแล้ว”
“สีไม่ถูกต้อง? นางบอกว่าสีมันเป็นอย่างไร?” จื่ออันเอ่ยถาม
“นางบอกว่าเป็นสีเหลือง ที่มีร่องรอยของสีโลหิต” หมอหลวงเอ่ยตอบกลับ
จื่ออันคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาละมั่งโลหิตเป็นเพราะปัญหาทางด้านการจัดเก็บ ก็อาจจะทำให้เกิดสถานการณ์ของการเปลี่ยนสีขึ้น ควรจะตรวจสอบสักเล็กน้อยจะเป็นการดี “นางทิ้งที่อยู่เอาไว้หรือไม่? จะต้องไปดูด้วยตนเอง”
หมอหลวงเอ่ย “ไม่มีพ่ะย่ะค่ะ แต่รู้ชื่อของนาง เหมือนจะเรียกว่าหวังอี๋เอ๋อร์”
หวังอี๋เอ๋อร์? ชื่อนี้ช่างคุ้นเคยนัก
เซียวท่าที่เพิ่งจะเดินเข้ามา เมื่อได้ยินคำของหมอหลวง เขาก็รีบร้อนเอ่ยถาม “หวังอี๋เอ๋อร์? ท่านบอกว่าวันนี้มีคนที่ชื่อว่าหวังอี๋เอ๋อร์มาอย่างนั้นหรือ?”
“ใช่แล้ว แม่นางที่วันนี้มาบอกว่าที่บ้านมีเขาละมั่งโลหิต” หมอหลวงเอ่ย
เซียวท่ามองไปยังอ๋องเหลียง เอ่ยออกมาด้วยความโมโห “วันข้าบอกกับท่านว่าเหมือนจะเห็นอี๋เอ๋อร์เข้า ท่านกลับไปเอ่ยอะไรออกมา? ท่านไม่ยอมบอกว่าอี๋เอ๋อร์เข้ามาก่อนแล้ว”
อ๋องเหลี่ยงนั่งอยู่บนเก้าอี้ ท่าทีดูเฉยเมย “มาแล้วจะอย่างไร?”
“นางขึ้นรถม้าขององค์รัชทายาทไป!” เซียวท่าร้อนรนเสียจนกระวนกระวาย
อ๋องเหลียงลุกขึ้นมาในทันที “เจ้าว่าอะไรนะ?”
“ข้าเห็นนางขึ้นรถม้าขององค์รัชทายาทด้วยตาของตนเอง?”
อ๋องเหลียงโกรธเกรี้ยวเสียจนเส้นเลือดปูดโปนขึ้นมา “ทำไมเจ้าถึงไม่เอ่ยให้เร็วกว่านี้?”
เซียวท่าเอ่ย “ข้าเข้ามาก็บอกแล้วว่า เหมือนจะมองเห็นอี๋เอ๋อร์ ท่านกลับไม่สนใจ ข้าคิดว่าตนเองมองผิดไป คิดว่าอี๋เอ๋อร์จะมาที่นี่ได้อย่างไรกัน?”
อ๋องเหลียงกัดฟันเอ่ยออกมา “เจ้านี่มันโง่จริง ๆ!”
เมื่อเอ่ยจบแล้วก็ออกไปราวกับลมพายุ
เซียวท่าตะลึงไปครู่หนึ่ง
ท่าทีของจื่ออันดูเคร่งขรึม อี๋เอ๋อร์ผู้นี้คงจะเป็นคนในใจของอ๋องเหลียง แต่ทว่าทำไมถึงได้ขึ้นรถม้าขององค์รัชทายาทกัน?
ทั้งสองคนออกไปราวหนึ่งชั่วยามแล้วจึงกลับมา
อ๋องเหลียงเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “ตกลงแล้วเจ้ามองเห็นชัดเจนหรือไม่?”
“ข้าเพียงแต่รู้สึกว่าค่อนข้างเหมือน ใครจะรู้ว่าใช่หรือไม่ใช่กัน?” เซียวท่าดูไม่ค่อยแน่ใจ
จื่ออันรีบร้อนเอ่ยถาม “ตามหาองค์รัชทายาทเจอแล้วหรือยัง? ไม่ใช่ว่าเขาพาอี๋เอ๋อร์ไปหรอกหรือ?”
อ๋องเหลียงเอ่ย “เขาฟังดนตรีอยู่ในหอหลานฟาง กอดหญิงสาวเอาไว้ หญิงสาวคนนั้นสวมใส่เสื้อผ้าสีเดียวกันกับอี๋เอ๋อร์ เขาบอกว่าเป็นหญิงสาวคนนั้นที่เซียวท่าเจอตรงประตูจวนองค์หญิง”
“บังเอิญเพียงนี้เชียว?” จื่ออันอดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมา
เซียวท่าบอกว่า “องค์รัชทายาทผู้นี้มีอุปนิสัยไปที่ใดก็มักจะนำนักร้องไปด้วยเสมอ ครั้งนี้จะนำหญิงสาวมายังจวนองค์หญิงก็ไม่แปลกอะไร อีกทั้งเขาก็ไม่มีเหตุผลให้ลักพาตัวอี๋เอ๋อร์ไป เขาไม่รู้จักอี๋เอ๋อร์เลยแม้แต่น้อย”
ทันใดนั้นจื่ออันก็นึกขึ้นมาได้ว่า ก่อนหน้านั้นเซียวท่าเคยบอกเอาไว้ว่าไม่เคยพบกับอี๋เอ๋อร์มาก่อน จึงได้ถามออกไป “ข้าจำได้ว่าก่อนหน้านั้นเจ้าบอกว่า เจ้าไม่เคยพบอี๋เอ๋อร์มาก่อน ทำไมเจ้าถึงจำนางได้?”
เซียวท่าเกาศีรษะ “ข้าเคยเอ่ยเช่นนี้หรือ? แต่ว่าหากจะเอ่ยเช่นนี้ก็ไม่แปลก ข้าพบเพียงแค่ครั้งเดียว เป็นตอนที่พวกเขารู้จักกัน”