ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 710
เมื่อเผชิญหน้ากับความผ่าเผยของหลิวหลิ่วแล้ว เซียวท่าก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย เมื่อคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก็เงยหน้าขึ้นถามกับหลิวหลิ่ว “หลังจากแต่งงานไปแล้ว เจ้าจะคอยควบคุมข้าหรือไม่?”
“ตามหลักการแล้วไม่มีทาง” หลิวหลิ่วเอ่ย
“เช่นนั้นเจ้าจะเอาเงินของข้าไป แล้วไม่ยอมให้ข้าดื่มเหล้าหรือไม่?”
“ไม่มีทาง”
“เช่นนั้นเจ้าจะทุบตีข้าหรือไม่? ศิลปะการต่อสู้ของข้าดีกว่าเจ้า แต่ข้าไม่มีทางทุบตีผู้หญิง” เซียวท่าเอ่ยออกมาอย่างไม่พอใจ
หลิวหลิ่วส่ายศีรษะออกมา “หากว่าไม่มีอะไรแล้ว ข้าจะทุบตีเจ้าเพื่ออะไร? ทุบตีเจ้าก็สิ้นเปลืองแรงข้าเช่นกัน”
เซียวท่าส่งเสียงอืมออกมา เผยความโล่งใจออกมาเล็กน้อย แต่ก็ยังคงลังเลอยู่ “เช่นนั้น หลังจากที่แต่งงานไปแล้ว พวกเราจะใช้ชีวิตกันอย่างไร? เจ้าว่าจู่ ๆ ก็แต่งงานเช่นนี้ ช่างไม่คุ้นเคยเอาเสียเลย?”
“ข้าเองก็ไม่รู้เช่นกัน ข้าไม่เคยแต่งงานมาก่อน ทว่าท่านอ๋องและจื่ออันเองก่อนหน้านั้น ก็ไม่เคยแต่งงานมาก่อน แต่ก็อยู่ด้วยกันเป็นอย่างดี”
เซียวท่าถอนหายใจออกมา “หลิวหลิ่ว ในใจของข้ามักจะรู้สึกแปลก ๆ”
“เช่นนั้น…” หลิวหลิ่วคิดอยู่ครู่หนึ่ง “หรือว่า เจ้ากลับไปคิดทบทวนสักสองวัน?”
เซียวท่าถอนหายใจอย่างโล่งอก “แต่ท่านย่าและพี่ชายของเจ้าจะยินยอมให้ข้าได้คิดทบทวนหรือไม่?”
หลิวหลิ่วยิ้มออกมาเล็กน้อย “ยินยอม ขอเพียงแค่ข้าเอ่ยออกมา พวกเขาจะต้องยินยอม”
เซียวท่ามองไปยังนางด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า “หลิวหลิ่ว อันที่จริง เจ้าเองก็เป็นคนที่เข้าใจผู้อื่นดีจริง ๆ”
หลิวหลิ่วเองก็ยิ้มออกมา กระโดดออกไปเปิดประตู กดเสียงต่ำใบหน้าดุร้ายเอ่ยออกไปกับสิบสามคนด้านนอก “ข้าไม่สนใจว่าพวกท่านจะใช้วิธีการอะไร จะต้องให้เขามาสู่ขออย่างเป็นทางการในวันพรุ่งนี้เช้า”
ก่อนหน้านั้นเป็นเพราะว่านางคิดว่าเขาถูกบีบบังคับมา ทว่าเป็นเพราะเขาที่มาด้วยความสมัครใจ เห็นได้ว่าเป็นเพราะว่ามีใจให้กับนาง เพียงแต่ยังคงลังเล และอาจจะล้มเหลวได้ นางจะต้องโหมกองไฟให้ลุกโชนขึ้นให้ได้
ใบหน้าของทั้งสิบสามคนตกตะลึงไปครู่หนึ่ง ยังไม่ทันได้มีการตอบสนองกลับ หลิวหลิ่วก็เอ่ยเสียงสูงออกมา “พวกท่านอย่าได้บีบบังคับเซียวท่า ปล่อยให้เขากลับไปครุ่นคิดให้กระจ่างเสียก่อน”
ทั้งครอบครัวจิตใจเชื่อมโยงกัน พยักหน้าออกมาอย่างพร้อมเพรียง “ตกลง!”
เซียวท่ามองไปยังหลิวหลิ่วอย่างตื่นตันใจ เริ่มรู้สึกว่าหลิวหลิ่วข่าวแสนดีจริง ๆ
ในตอนที่เซียวท่าจะจากไปนั้น เฉินหลงเอ่ยออกมา “ใช่แล้ว เซียวท่า ได้ยินมาว่าเจ้าหลงใหลอาวุธเป็นอย่างมาก ข้าจะพาเจ้าไปดูคลังอาวุธ มีสมบัติล้ำค่าอยู่ไม่น้อยเชียว”
นี่มันเป็นการใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของเซียวท่า เซียวท่าชื่นชอบดื่มเหล้า ชื่นชอบอาวุธ ทุกคนในเมืองหลวงต่างก็รู้ดี ข้อเสนอแนะนี้ของเฉินหลง เซียวท่าไม่มีเหตุผลใดให้ต้องปฏิเสธ
เมื่อมาถึงยังคลังอาวุธของตระกูลเฉินแล้ว ปากของเซียวท่าก็ไม่อาจปิดลงได้
ศิลปะการต่อสู้สิบแปดชนิดสอดคล้องกับอาวุธทั้งสิบแปด มีด หอก ดาบ ง้าว ขวาน ขวานรบ ตะขอ ส้อม แส้ กระบอง ค้อน กรงเล็บ พลั่ว ไม้เท้า หอก กระบอง ไม้ค้ำและค้อนดาวตก ตระกูลเฉินนี่เป็นโจรหรืออย่างไรกัน? ถึงได้มีสมบัติล้ำค่ามากมายเพียงนี้
“ดาบสีมรกตเล่มนี้ เป็นอาวุธข้างกายของผู้นำศิลปะการต่อสู้ในอดีต สร้างขึ้นจากเหล็กดำ หยกที่ด้ามดาบนั้นแข็งเป็นอย่างยิ่ง เมื่อมันเปื้อนเลือดแล้ว ก็จะมีรอยเลือดเพิ่มขึ้นมาเส้นหนึ่ง เจ้าลองดูบนมรกตนี้มีร่องรอยของเลือดอยู่มากมาย”
เฉินหลงแนะนำออกมา
จนเซียวท่าเกือบจะน้ำลายไหลออกมาแล้ว
“ค้อนดาวตกชิ้นนี้ เป็นอาวุธประจำกายของหัวหน้าพรรคเซียงซีกุ่ย ทำจากทองคำบริสุทธิ์ หนักถึงสามสิบสองกิโล เมื่อค้อนนี้กระแทกลงไป หัวของศัตรูจะต้องกระเด็นลอยไปอย่างแน่นอน”
“ตระกูลเฉินของพวกท่านมีสมบัติล้ำค่ามากถึงเพียงนี้? ไปตามหามาจากที่ใดกัน?” เซียวท่าเช็ดน้ำลายออก ดันนัยน์ตาที่ยื่นออกไปกลับมา แล้วเอ่ยถามออกไปอย่างไม่อาจปิดบังความริษยาและอิจฉาที่มีได้
เฉินหลงส่งเสียงหัวเราะดังออกมา “นี่นับว่ามากแล้วอย่างนั้นหรือ? ยังมีคลังอาวุธใหญ่อีกแห่งหนึ่งที่เจ้ายังไม่เคยพบเห็น แน่นอนว่า คงไม่อาจจะปล่อยให้ใครเข้าไปง่าย ๆ จะต้องเป็นคนตระกูลเฉินของพวกเราถึงจะเข้าไปได้ อาวุธทั้งสิบแปดชนิดที่นี้นั้น จัดเตรียมเอาไว้ให้เป็นสินเดิมแก่หลิวหลิ่ว!”
“สินเดิม?”
“ใช่แล้ว รอเมื่อหลิวหลิ่วแต่งงานออกไปแล้ว ของเหล่านี้ก็จะแต่งเป็นสินเดิมไปยังบ้านของชายหนุ่ม” เฉินหลงเอ่ย