ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 713
ท่านอ๋องกวางตงเมื่อเห็นว่ามู่หรงเจี๋ยไม่ส่งเสียงใด ยังคิดว่าเขาไม่เชื่อในคำพูดของตน จึงได้เอ่ยออกมาต่อ “เจ้าน่ะ อย่าได้ไร้เดียงสาเกินไป ยังจะมีความคิดที่ดีกับเสด็จแม่และน้องชายของเจ้าอีก เขาไม่คิดที่จะเหลือเส้นทางให้เจ้าได้มีชีวิตอยู่ต่อ อ๋องหนานหวายไม่ได้หยุดที่จะรวบรวมกองกำลังทางชายแดนตอนใต้ ได้ยินมาว่าทางด้านตอนใต้นั้น เมื่อมีอายุครบสิบเจ็ดปีแล้ว ก็จะถูกบังคับให้เข้ากองทหาร ต่อให้เป็นลูกชายเพียงคนเดียวก็ไม่ได้รับการยกเว้น ราชสำนักไม่สิทธิ์อำนาจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการเกณฑ์ทหารของเขา เขาทำเช่นนี้เพื่ออะไร? อีกทั้งหลายปีมานี้เขายังพัฒนาเหมืองเหล็กอย่างมาก เพื่อหลอมรวมอาวุธ และยังซื้อแร่เหล็กจากทางด้านเป่ยโม่ ส่วนเสด็จแม่ของเจ้านั้นกลับไม่หยุดลอบสะสมกองกำลังในเมืองหลวง เอาชนะเหล่าขุนนาง แย่งชิงแรงสนับสนุน แน่นอนว่า เจ้าอาจจะคิดว่าอาศัยเพียงแค่หญิงสาวอย่างนางจะสามารถทำอะไรได้บ้าง? เหล่าขุนนางเองก็อาจจะไม่ถูกนางทำให้สับสนได้ ทว่าเจ้าคิดเช่นนี้ผิดแล้ว จากที่ข้ารู้มา หลายปีมานี้นางไม่หยุดที่จะส่งสายลับออกมา แทบจะหลบซ่อนแอบอยู่ใต้เตียงของผู้อื่น เพื่อคอยฟังเรื่องลับส่วนตัว กลุ่มขุนนางในต้าโจว จะมีสักกี่คนที่สะอาดบริสุทธิ์? หากว่าถูกนางจับจุดอ่อนได้แล้วจะทำอะไรได้? หากว่าไม่อยากสูญเสียหน้าที่การงานไป ก็ทำได้เพียงแค่ต้องติดตามนาง”
คำพูดนี้ของท่านอ๋องกวางตง ไม่ใช่เอ่ยออกมาลอย ๆ เขาผ่านการสืบและตรวจสอบมาแล้ว
มู่หรงเจี๋ยยังไม่ส่งเสียงใดออกมา เมื่อท่านอ๋องกวางตงเห็นเข้า ก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา “เจ้าไม่เชื่อก็ช่างมันเถิด มาตอนนี้ราชสำนักมีเจ้าที่กุมอำนาจอยู่ เจ้าป้องกันราชครูเหลียง แต่กลับไม่รู้ว่าชายแดนกำแพงกลับกำลังเกิดหายนะขึ้นอย่างเงียบ ๆ”
มู่หรงเจี๋ยเงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วเอ่ยออกมาอย่างสงบนิ่ง “เสด็จลุง ที่ท่านเอ่ยออกมานั้น ข้ารู้ทุกอย่าง อีกทั้งยังรู้มากกว่าท่านเสียอีก”
ท่านอ๋องกวางตงตะลึงไป “เจ้ารู้แล้ว?”
“ข้าไม่ได้ตาบอด”
ท่านอ๋องกวางตงยิ้มออกมา ในรอยยิ้มนั้นมีความเห็นใจอยู่ “เจ้านี่นะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมองค์จักรพรรดิถึงได้มอบอำนาจให้เจ้ามากถึงขนาดนี้ มีเกราะป้องกันอย่างเจ้า เขาสามารถวางใจไปได้แล้วจริง ๆ ครึ่งหนึ่ง”
ทำได้เพียงวางใจไปครึ่งหนึ่ง นี่หมายความว่า ท่านอ๋องกวางตงคิดว่ากุ้ยไท่เฟยนั้นอย่างที่จะรับมือได้ แผนการในใจของนางนั้นไม่ใช่สิ่งที่หญิงสาวทั่วไปจะเทียบได้ วิธีการที่รัดกุม จุดประสงค์ชัดแจ้ง และเพื่อจุดประสงค์นี้ ก็ไม่เสียดายอะไรทั้งสิ้น
ผู้ชายหลายคนล้วนแต่ไม่อาจทำได้อย่างเช่นที่นางทำ คนเช่นนี้ หากว่าเกิดเป็นชายหนุ่มแล้ว จะต้องกลายเป็นวีรบุรุษอย่างแน่นอน
ทั้งสองคนกลับมายังจวนองค์หญิง จื่ออันไม่อยู่ ออกไปตามหาอี๋เอ๋อร์กับอ๋องเหลียงอีกครั้ง
แน่นอนว่าย่อมกลับมาอย่างเปล่าประโยชน์
เมื่ออ๋องเหลียงส่งจื่ออันกลับมายังจวนแล้ว เอ่ยออกมา “ท่านช่วยข้าตามหาอี๋เอ๋อร์ต่อไป หากว่าตามหานางจนเจอแล้ว บอกกับนางว่า ข้าอยากจะแต่งงานกับนาง”
“ท่านจะเข้าวัง?” จื่ออันเอ่ยถาม
“ใช่แล้ว ข้าบอกไปแล้ว ว่าจะเข้าวังไปขอรับโทษ!” ใบหน้าของอ๋องเหลียงดูมืดมน
“จะให้เสด็จลุงของเจ้าไปเป็นเพื่อนหรือไม่?” จื่ออันยังคงไม่วางใจที่จะให้เขาไป
อ๋องเหลียงเงยหน้าขึ้นมา แล้วยิ้มออกมาอย่างสังเวชใจครู่หนึ่ง “หลายปีมานี้ มีอะไรที่ข้าทนรับไม่ได้บ้าง?”
จื่ออันคิดไปมา จริงด้วย เขาล้วนแต่ใช้ชีวิตผ่านมาเช่นนี้ เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องปวดใจ
อ๋องเหลียงนำต้าจินองค์รักษ์ของเขาขี่ม้าออกจากจวนองค์หญิงไป
วันนี้ฮองเฮาละเว้นไม่ให้เหล่าพระสนมมาถวายพระพร ล้วนแต่ไล่ออกไป ราชครูรู้เรื่องที่องค์รัชทายาทได้รับบาดเจ็บ หลังจากเลิกจากราชการแล้วจึงได้รีบมาถามไถ่ นางยังไม่ยอมให้เขาสอดมือเข้ามาข้องเกี่ยว
นางหวังว่าเขาจะรู้ผิด
“ฮองเฮาเพคะ อ๋องเหลียงเสด็จมาแล้วเพคะ” นางกำนัลเขามารายงาน
“ฮองเฮาค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น มองเขาที่เดินกะโผลกกะเผลกเข้ามา ก่อนหน้า เมื่อนางมองเห็นท่าทางการเดินของเขา ในใจก็จะต้องเกิดความเจ็บปวดขึ้นมา และคิดว่าหากเขาดีขึ้นมาก็คงจะดีไม่น้อย
ซินเอ๋อร์ที่เชื่อฟังมาโดยตลอด ถูกเซี่ยจื่ออันสอนจนนิสัยเสียไปแล้ว