ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ – บทที่ 740

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 740

มู่หรงเจี๋ยขมวดคิ้วออกมา “ทั้ง ๆ ที่เป็นคนเดียว ทำไมถึงได้พูดกันไม่เหมือนกัน? เสี้ยนจู้จะวาดออกมาได้อย่างไร?”

หยวนฉุ่ยยวี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย “ไม่ต้องกังวลไป ผสานเข้าด้วยกันก็พอแล้ว”

อันที่จริงแล้ว ทั้งสามคนต่างเอ่ยออกมาเหมือนกัน เพียงแต่มีปัญหาทางการแสดงออกเท่านั้น ก่อนหน้านั้นหยวนฉุ่ยยวี่เคยวาดภาพเหมือนของคนมาระยะหนึ่ง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้จับพู่กันมานานมากแล้ว แต่ก็ยังคงไหลลื่น

เห็นเพียงนางขีด ๆ เขียน ๆ พู่กันลากเป็นโครงร่างออกมา เพียงโครงร่างนั้นก็รู้แล้วว่าไม่ผิดแน่ เพราะทั้งสามคนต่างก็บอกว่ามีใบหน้ารูปเหลี่ยม คิ้ว ดวงตา จมูก ปาก ทั้งสามคนบอกออกมาต่างกันออกไป เช่น หลิวเย่ว์บอกตาเขามีดวงตาโต แต่เสี่ยวเอ้อร์กลับบอกว่าไม่ใหญ่ เพราะว่าเขาในทุกวันนั้นพบเจอคนมากมาย จะต้องพบเจอกับคนที่มีดวงตาใหญ่โตมามาก เพราะฉะนั้น เขาจึงคิดว่าดวงตาของหลี่ฉีไม่ถือว่าใหญ่มากนัก

หลังจากที่วาดจนเรียบร้อยแล้ว หยวนฉุ่ยยวี่ก็นำภาพเหมือนส่งให้กับเซียวท่า เซียวท่าเปิดออกมาต่อหน้าของทั้งสามคน ทั้งสามคนอึ้งตะลึง ชี้ไปยังภาพเหมือนนั้นแล้วเอ่ยออกมา “ไม่ผิด เป็นเขา เหมือนราวกับแกะ”

ทันในนั้นหลิวเย่วก็ตกตะลึงกับหยวนฉุ่ยยวี่ทันที นางเอ่ยชื่นชมออกมา “ท่านไม่แม้แต่จะพบเขามาก่อน แล้ววาดออกมาเหมือนเช่นนี้ได้อย่างไรกัน?”

หยวนฉุ่ยยวี่ยิ้มออกมาเล็กน้อย “คนธรรมดาทั่วไป แตกต่างกันเพียงแค่ขนาด ไม่ประหลาดที่สามารถวาดออกมาได้”

เซียวท่านำรูปเหมือนมอบให้กับหัวหน้าหน่วย มู่หรงเจี๋ยออกคำสั่ง “ต่อให้จะต้องขุดดินลงไปอีกสามฟุต จะต้องหาตัวคนผู้นี้มาให้ได้ อย่างเร่งด่วน”

“พ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋อง!” หัวหน้าหน่วยรับคำสั่งจากไป

มู่หรงเจี๋ยออกคำสั่งด้วยตนเอง ศาลาว่าการไม่กล้าชักช้า นอกจากศาลาว่าการแล้ว ยังมีทหารลาดตระเวนที่ลงมือพร้อมกัน จะต้องตามหาคนผู้นี้ให้ได้ในระยะเวลาอันสั้น

และแน่นอนว่า วันที่สองก็มีข่าวคราวแล้ว

หัวหน้าหน่วยจับตัวคนผู้นี้เข้ามา หลิวเย่ว์เพียงแค่มองก็จำได้แล้ว “เป็นเขา!”

คนผู้นี้มีรอยบาดแผลบนใบหน้า คงจะถูกลงโทษมา หัวหน้าหน่วยเอ่ยรายงาน คนผู้นี้ชื่อว่าจางฉี ที่ถูกเนรเทศจากตลาด เขาสารภาพออกมาแล้วว่า เป็นเขาที่ขโมยเขาละมั่งโลหิตไป ทว่าได้มอบเขาละมั่งโลหิตนี้ให้กับผู้สั่งการแล้ว

“ใครเป็นคนบงการให้เจ้าไปขโมยเขาละมั่งโลหิตมา?” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยถามอย่างเย็นชา

จางฉีคุกเข่าลงบนพื้น กายสั่นเทาร้องขอชีวิต “ท่านอ๋องไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อยเพียงแต่รับเงินมาจากผู้อื่น ข้าน้อยไม่รู้จักเขา หลายวันก่อนเขามาหาข้าน้อย อีกทั้งยังมอบหนังสือรับรองให้ข้าน้อยชุดหนึ่ง ให้ข้าน้อยเข้าพักในโรงเตี้ยม จากนั้นรอโอกาสเข้าไปขโมยเขาละมั่งมาจากห้องข้าง ๆ หลังจากที่เรื่องสำเร็จแล้ว ก็มอบเงินให้ข้าน้อยหนึ่งร้อยตำลึง ข้าน้อยหลงละโมบไปชั่วขณะหนึ่ง จึงได้ตอบตกลงไป”

“คนที่บงการเจ้าเป็นใคร?” มู่หรงเจี๋ยราวกับว่าไม่ได้ยินคำแก้ตัวของเขา เอ่ยถามออกมาอย่างเย็นชาอีกครั้ง

“ข้าน้อยบอกไปแล้วว่าข้าน้อยไม่รู้จักเขา เป็นเขาที่มาหาถึงหน้าประตู” จางฉีเอ่ยอธิบายออกมา

มู่หรงเจี๋ยค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น มุมปากยกโค้งขึ้นอย่างเย็นชา “นำเขาไปห้องลงอาญา ตัดนิ้วมือเขาออกเสียก่อน หากว่ายังไม่ยอมบอกออกมา ก็ค่อยตัดนิ้วเท้าออกทีละนิ้ว”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

จางฉีตื่นตกใจจนต้องรีบโขกศีรษะคำนับ “ท่านอ๋องไว้ชีวิตด้วย ข้าน้อยไม่รู้จริง ๆ ข้าน้อยไม่เคยพบกับคนผู้นี้มาก่อน ท่านไว้ชีวิตข้าน้อยด้วยเถิด”

“นำตัวออกไป!” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาเสียงดัง

เซียวท่าลากจางฉีลงไปทันที จางฉีหันกลับไปร้องขอชีวิต ดูเหมือนว่าคงจะผิดแล้วจริง ๆ

หลิวหลิ่วอดไม่ได้จนต้องเอ่ยออกมา “ท่านอ๋อง บางทีเขาอาจจะไม่รู้จริง ๆ ก็ได้”

มู่หรงเจี๋ยยังไม่ทันได้เอ่ยออกมา หลิวเย่ว์ก็เอ่ย “เจ้าหมอนี่จะต้องรู้เขากำลังโกหกอยู่”

หลิวหลิ่วเอ่ยถาม “ท่านรู้ได้อย่างไรว่าเขากำลังโกหก?”

หลิวเย่ว์ฮึมฮัมเอ่ยออกมา “เพียงแค่มองก็รู้แล้ว หากว่าเขาไม่รู้จักคนผู้นี้ ทำไมหนังสือรับรองนั้นถึงได้ต่างกันเพียงแค่ตัวเดียว? พิสูจน์ได้ว่า คนที่ปลอมแปลงกับเขานั้นรู้จักกันมานานแล้ว รู้ชื่อของเขา แน่นอนว่า นี่ก็สามารถบอกได้ว่าอีกฝ่ายก็รู้จักเขา ทว่าเขาไม่รู้จักอีกฝ่าย อย่างไรก็ตาม เขาหลบตา ใบหน้ารู้สึกผิด เห็นได้ชัดว่าเขามีอะไรซ่อนอยู่ ข้ามองคนได้แม่นยำนัก จุดนี้ไม่มีทางผิดอย่างแน่นอน เชื่อว่าท่านอ๋องเองก็คิดเช่นนี้”

มู่หรงเจี๋ยพยักหน้า มองมายังหลิวเย่ว์ด้วยความชื่นชม “ไม่ผิด ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของหัวหน้าพรรคนั้นไม่ได้เล่าลือแต่อย่างเดียว”

จื่ออันยิ้มออกมา ชายผู้นี้ หากว่าเป็นเรื่องชีวิตส่วนตัวแล้วช่างดูงี่เง่ายิ่งนัก แต่เมื่อต้องกระทำเรื่องทางการแล้ว ช่างดูเก่งฉกาจยิ่งกว่าใคร

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์

Status: Ongoing
แพทย์ทหารสายลับกลับกลายเป็นลูกสาวคนแรกของเสนาบดีที่ต้องทนรับการถูกข่มเหงรังแกจากพ่อและแม่เลี้ยง และต้องแต่งงานกับผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เผชิญกับหลุมพรางและแผนการร้ายมากมายด้วยทักษะการแพทย์ของเธอทำให้เธอสามารถต่อสู้ผ่านศึกสังหารระหว่างวัง แก้ปัญหาระหว่างรัฐได้ด้วยดี ลงโทษองค์รัชทายาทที่กระทำความผิด ช่วยชีวิตองค์จักรพรรดิเหลียง และกำจัดโรคระบาดที่รุนแรงจากบุตรสาวเสนาบดีที่ขี้ขลาดแปรเปลี่ยนเป็นผู้หญิงที่จิตใจแน่วแน่สามารถต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับองค์จักรพรรดิได้ “ถ้าเจ้าแอบหนีออกมาอีก ข้าจะตามไปขัดขวางเจ้า มีที่ไหนพระชายาที่กำลังตั้งครรภ์แล้วยังวิ่งไปทั่ว?”“เจียงตงเกิดโรคระบาด ข้าในฐานะหมอหลวงต้องรีบไปช่วยเป็นธรรมดา ถ้าท่านขัดขวางข้าโรคจะระบาดจะไปถึงเมืองหลวง” อ้อมแขนอันแข็งแกร่งโอบกอดพระชายาที่พูดไม่หยุด ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สเด็จกลับมาและกราบทูลว่า “ฮึ่ม หมอหลวงมีจำนวนมากพอแล้ว” ถ้าคุณตั้งครรภ์อยู่จะออกไปไหม? จิตใจดั่งพระโพธิสัตว์หรือไม่? หรือยืนหยัดต่อสู้กับโรคระบาดที่ร้ายแรงตอนนั้น

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท