ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 753
หวงไท่โฮ่วที่นั่งอยู่ด้านหลังฮองเฮา เมื่อมองเห็นปลายนิ้วของนางสั่นเทา ก็ทรงถอนหายใจออกมาในใจ ช่างผิดบาปโดยแท้
รัชทายาทเงยหน้าขึ้นมองมู่หรงเจี๋ย “ถึงแม้ว่าจ้าจะขโมยเขาละมั่งโลหิตไป แต่ก็เป็นเพียงการแย่งชิงระหว่างพี่น้องกับอ๋องเหลียง แล้วจะบอกว่าข้าอกตัญญูได้อย่างไร? หากว่าความหมายของเสด็จลุงคือการที่ข้าถูกเขาแทงเข้าสามสิบแปดครั้งแล้ว ยังจะสามารถนึกถึงว่าเขาเป็นพี่ชาย แล้วยังจะสามารถกตัญญูต่อเขาได้อีก เช่นนั้นก็ขออภัยด้วยที่ข้าไม่ใช่พระโพธิสัตย์ ข้าทำไม่ได้ เสด็จลุงจะจัดการเช่นไรก็ทรงจัดการเช่นนั้นเถิด”
ใต้เท้าชุยเอ่ยออกมา “รัชทายาทพ่ะย่ะค่ะ คนที่ต้องการเขาละมั่งโลหิตนั้นไม่ใช่อ๋องเหลียง แต่เป็นองค์หญิงเจิ้นกั๋ว”
รัชทายาทตกตะลึงไป แล้วหันไปมองยังเหลียงซู่หลินที่ประตูอย่างไม่รู้ตัว เหลียงซู่หลินก้มศีรษะลงต่ำ ไม่ได้มองเข้าไปด้านในห้องโถง
“นี่…เรื่องนี้ข้าไม่รู้” รัชทายาทเอ่ยอธิบายออกมา ในใจกลับโกรธเกลียดเสียจนอยากจะฉีกเหลียงซู่หลินให้เป็นชิ้น ๆ
มู่หรงเจี๋ยเองก็ตบลงยังพนักแขนเก้าอี้ ตะเบ็งเอ่ยเสียงดัง “เพียงแค่คำเดียวว่าไม่รู้ก็จะสามารถหลบเลี่ยงไปได้หรือ? ตอนนี้องค์หญิงเจิ้นกั๋ว เป็นเพราะว่าเจ้าขโมยเขาละมั่งโลหิตไปถึงได้ตกอยู่ในอันตราย เจ้าจึงได้ชื่อว่ากระทำความผิดอกตัญญู มีสถานะเป็นถึงรัชทายาท เรื่องถูกต้องไม่กระทำ กลับกระทำเรื่องไม่ถูกต้องเพื่อความคับข้องใจส่วนตน เจ้าคิดว่าเขาละมั่งโลหิตเป็นเพียงโอกาสรอดชีวิตเดียวของอ๋องเหลียง จึงได้สั่งคนให้ขโมยไปเพื่อตัดทางรอดชีวิตเขา ไม่ว่าเขาละมั่งโลหิตจะเป็นใครใช้ เจ้าก็ล้วนแต่มีความผิดจากการฆ่าคนตาย”
ราชครูลุกขึ้นอีกครั้ง เอ่ยตอบโต้กลับ “ท่านอ๋อง คำพูดนี้ของท่านดูจะไม่ถูกต้อง รัชทายาทบอกว่าเขาตั้งใจที่จะขโมยละมั่งโลหิตไปเพื่อข่มขู่อ๋องเหลียง และไม่รู้ว่าบ่าวจะทำหายไป นี่ถือเป็นความผิดที่ไม่ได้ตั้งใจ ถึงแม้ว่าจะมีความผิด แต่ก็สามารถอภัยให้ได้ ส่วนที่รัชทายาททำเช่นนี้ ก็เพราะว่ามีเรื่องกันก่อนหน้านั้น อ๋องเหลียงเพียงเพื่อหญิงชาวบ้านคนหนึ่งถึงขั้นที่บุกเข้าวัง ไม่คำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้อง เริ่มทำร้ายรัชทายาทก่อน ถึงแม้ว่าการแก้แค้นของรัชทายาทจะดูไม่มีเหตุผล แต่ก็สามารถอภัยได้ อีกทั้งอาการบาดเจ็บสาหัสของอ๋องเหลียงก็มิใช่รัชทายาทที่กระทำ ท่านบอกว่าเขามีความผิดฐานฆ่าคนตายก็ดูไม่สมเหตุสมผล ข้าคิดว่าไม่ถูกต้อง มากสุดคือการแก้แค้นส่วนตัว ส่วนเรื่องที่องค์หญิงใหญ่ต้องการเขาละมั่งโลหิตเพื่อช่วยชีวิตนั้น เขาไม่รู้เรื่องด้วย โทษทัณฑ์อกตัญญูนั้น ไม่อาจกล่าวโทษเขาได้”
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “ผู้ที่ไม่รู้ไม่มีความผิด? ข้าอยากจะถามเชื้อพระวงศ์ในราชวงศ์ และขุนนางในราชสำนักทุกคน พวกท่านรู้หรือไม่ว่าเขาละมั่งโลหิตใช้เพื่อช่วยชีวิตองค์หญิง?”
ทุกคนเคร่งขรึมไปครู่หนึ่ง ต่างก็บอกกันว่ารู้ เพราะว่าได้ติดประกาศบนประกาศของจักรพรรดิว่าต้องการตามหาเขาละมั่งโลหิต แล้วทำไมถึงได้ไม่รู้กัน?
“ข้าติดประกาศไว้บนประกาศของจักรพรรดิ ให้เงินรางวัลจำนวนมากเพื่อตามหาเขาละมั่งโลหิต หากว่าคนที่เป็นห่วงองค์หญิงต่างก็รู้เรื่องนี้ รัชทายาทกลับบอกว่าไม่รู้ ช่างเป็นคำพูดไร้สาระ ก่อนหน้านั้นเจ้าไปเยี่ยมยังจวนองค์หญิงมากี่ครั้ง ทำไมถึงได้ไม่รู้เรื่องนี้?”
รัชทายาทเอ่ยออกมาด้วยความโมโห “ท่านอย่าพูดจาไร้สาระ ข้าเพียงไม่รู้ ข้าเป็นห่วงองค์หญิงใหญ่ แต่ก็ไม่ใช่ท่านหมอ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าต้องใช้ยาอะไร? อีกอย่างหนึ่ง ทำให้องค์หญิงใหญ่ตายไปแล้วจะมีข้อดีอะไรกับข้า? อย่างไรแล้ว ข้าก็คงต้องมีแรงจูงใจบ้าง?”
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยอย่างเย็นชา “ในวันนั้นเจ้าไปยังหน้าประตูจวนองค์หญิงใหญ่ มีคนได้ยินเจ้าถามหน้าประตูว่า องค์หญิงต้องการเขาละมั่งเพื่อช่วยชีวิตอย่างนั้นหรือ หน้าประตูก็บอกเจ้าว่าใช่ เจ้ายังเอ่ยพึมพำออกมาว่า ข้าจะต้องได้เขาละมั่งโลหิตมา มีหน้าประตูเป็นพยาน เจ้ายังจะไม่ยอมรับอีกหรือ?”
รัชทายาทเมื่อได้ยินว่าถูกใส่ร้ายเช่นนี้ก็โกรธเกรี้ยวขึ้นมา “ท่านใส่ร้ายผู้อื่น ข้าไปถึงประตูจวนองค์หญิง ยังไม่ได้เอ่ยอะไรกับหน้าประตู ก็พบคนชั้นต่ำนั่นออกมา ถึงได้รู้ว่าเป็นคนในใจของอ๋องเหลียงเศษสวะนั่น จึงได้สั่งคนให้จับตัวไป ไม่ได้รั้งอยู่ที่นั่นแม้แต่เค่อเดียว ดีนี่มู่หรงเจี๋ย ท่านอยากจะกล่าวโทษข้าก็ต้องนำหลักฐานที่รัดกุมออกมา ไม่ใช่อาศัยเพียงการว่าร้าย”
“หุบปาก!” ทั่วทั้งกายฮองเฮาสั่นเทิ้ม ลุกขึ้นมาอย่างกะทันหัน “หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว”
รัชทายาทตกตะลึงไป แล้วมองไปยังฮองเฮาด้วยความมึนงง ไม่รู้ว่าตนเองเอ่ยอะไรผิดไป
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยด้วยใบหน้ามืดดำ “ก่อนหน้านั้นเขาบอกว่าเจ้าจับตัวหวังอี๋เอ๋อร์ไป เพราะว่านางเอ่ยคำยั่วยุ ดูหมิ่นเจ้า เจ้าโมโหขึ้นมาในทันทีก็เลยจับตัวนางไป ทว่าตอนนี้ก็บอกว่าเมื่อพบนางออกมา ถึงได้รู้ว่านางเป็นคนในใจของอ๋องเหลียง จึงได้จับตัวนางไปทันที ท้ายที่สุดแล้วที่เจ้าเอ่ยออกมาประโยคใดเป็นความจริงกันแน่?”