ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 755
ขุนนางที่ชาญฉลาดมากมายต่างก็มองเห็นได้ถึงความตั้งใจที่อยู่เบื้องหลังของมู่หรงเจี๋ย ทันใดนั้นก็ตระหนักรู้ได้ทันที เพราะว่าคุณธรรมของรัชทายาท ทำให้พวกเขามองเห็นอนาคตของต้าโจว สุดท้ายแล้ว หากว่ามอบต้าโจวไว้ในมือคนประเภทนี้แล้ว ช้าเร็วก็ต้องล่มสลายไป
และแน่นอนว่า ทุกคนต่างก็ยังคงเกิดข้อกังขากับอ๋องเหลียง แต่ในเมื่อมู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาว่าทุกอย่างของอ๋องเหลียงที่ทุกคนมองเห็นนั้น มีคนที่จงใจใส่ร้ายป้ายสี เช่นนั้นอ๋องเหลียงที่แท้จริงนั้นเป็นเช่นไร? ทุกคนต่างต้องการจะรู้
มู่หรงเจี๋ยเพิกเฉยต่อความโกรธเกรี้ยวของฮองเฮา ยังคงเอ่ยต่ออย่างเคร่งขรึม “ในตอนที่อ๋องเหลียงอายุสิบสามปีนั้นขาหักไป ทุกคนต่างก็ได้ยินมาว่าเขาไม่ทันระวังล้มจนขาหัก ความจริงนั้นกลับเป็นรัชทายาทที่เป็นคนกระทำ ในตอนนั้นรัชทายาทมีใจคิดเช่นไรถึงได้ทำร้ายอ๋องเหลียงจนได้รับบาดเจ็บ คงจะไม่เอ่ยถึงชั่วคราว ทว่าฮองเฮาทั้ง ๆ ที่รู้ความจริง กลับออกคำสั่งปิดบังเรื่องนี้ คนในวังที่รู้เรื่องนี้ ต่างก็ถูกไล่ออกจากวัง อ๋องเหลียงได้รับบาดเจ็บจนพิการ ไม่นานหลังจากนั้น องค์จักรพรรดิก็แต่งตั้งรัชทายาท มู่หรงเฉียวถูกแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาท ข้าขอถามเชื้อพระวงศ์และขุนนางทุกท่านว่า หากว่าในตอนนั้นอ๋องเหลียงไม่ได้รับบาดเจ็บ ตำแหน่งรัชทายาทจะเป็นของใครกัน?”
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาเช่นนี้ แทบจะไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก่อนหน้านี้เขามักจะเอ่ยสิ่งเดียวกัน ทว่าเห็นได้ชัดว่าวันนี้เขาจงใจที่จะเล่าเรื่องนี้ออกมาในรูปแบบเรื่องเล่า ประโยคท้ายที่สุดที่เอ่ยถามอออกมา ทำให้รัชทายาทกรุ่นโกรธขึ้นมา เขาเอ่ยออกมาเสียงดัง “มู่หรงเจี๋ย ท่านอย่าได้คิดเอ่ยคำไร้สาระ ในตอนนั้นเขาล้มลงขาหักเอง แล้วไปเกี่ยวข้องอะไรกันกับข้า? อีกทั้งเสด็จแม่ก็มิได้ทรงลำเอียง ในตอนนั้นเสด็จพ่อรู้สึกว่าเขามีคุณธรรมไม่เพียงพอ ถึงได้ไม่แต่งตั้งให้เขาเป็นรัชทายาท ท่านเอ่ยออกมาเช่นนี้ หรือว่าจะสงสัยในพระปรีชาของเสด็จพ่อ? ท่านนี้ช่างบังอาจโดยแท้”
ราชครูเหลียงก็เอ่ยออกมาอย่างเย็นชา “ที่แท้วันนี้ท่านก็อาศัยการกล่าวโทษเพื่อมาเอ่ยคำไร้สาระ กระทำการใหญ่โตทั้งเอ่ยว่ารัชทายาททำลายความสัมพันธ์ทางการทูต ทั้งยังบอกว่ารัชทายาทอกตัญญู แต่กลับรื้อฟื้นถึงเรื่องเก่า เรื่องราวที่ผ่านไปนานหลายปีแล้ว จริงหรือเท็จใครจะรู้กัน?”
มู่หรงเจี๋ยมองไปยังฮองเฮา “ฮองเฮา ข้าพูดจาไร้สาระอย่างนั้นหรือ?”
สีหน้าของฮองเฮาซีดขาว ตรัสออกมาด้วยน้ำเสียงโศกเศร้า “ท่านอ๋องทั้ง ๆ ที่รู้ว่าข้าในใจของข้าเจ็บปวดยิ่งนัก แต่กลับไม่ลังเลที่จะเปิดเผยมันออกมาต่อหน้าของเชื้อพระวงศ์และขุนนางทั้งหลาย ถึงแม้ว่าจะผ่านไปนานหลายปี ทว่าแต่ละคำของท่านอ๋องในวันนี้ ล้วนแต่เหมือนปลายมีดแหลมที่ทิ่มแทงลงบนใจของข้า”
มู่หรงเจี๋ยยิ้มออกมาช้า ๆ “อย่างนั้นหรือ? ฮองเฮาปวดใจด้วยอย่างนั้นหรือ ก็พิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่มารดาที่ไม่ได้เฉยเมย ทว่าที่ท่านทำลงไปนั้นคือเรื่องอะไรกัน? ในตอนนั้น เมื่อจะตรวจสอบหาความจริงขึ้นมานั้น กลับไม่อนุญาติ ฮองเฮาคิดว่าบนโลกนี้จะไม่มีพยานอยู่แล้วอย่างนั้นหรือ?”
สองมือของฮองเฮากำที่วางแขนเก้าอี้ไว้แน่น เล็บมือแทบจะจิกแน่นลงไป ใบหน้าซีดขาวเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำ
หวงไท่โฮ่วตรัสออกมาเสียงดัง “อาเจี๋ย เอ่ยต่อไป!”