ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 764
จื่ออัน พวกเขารอการกลับมาของมู่หรงเจี๋ยที่จวนอ๋องเหลียง ข่าวคราวจากในวังได้แพร่กระจายมาแล้ว หวงไท่โฮ่วได้ออกคำสั่งให้ปลดฮองเฮา ข่าวคราวนี้เป็นซ่งรุ่ยหยางและอี๋เอ๋อร์ที่กลับมาเอ่ยถึง
ข่าวนี้แน่นอนว่าย่อมต้องทำให้คนตื่นเต้น อย่างน้อยก็โล่งใจให้กับอ๋องเหลียงแล้ว
ทว่าทุกคนก็ยังไม่อาจยินดีขึ้นมาได้จริง ๆ เพราะว่าเขาละมั่งโลหิตหายไปแล้ว
อีกทั้งอ๋องเหลียงถึงจะลดไข้ไปแล้ว แต่ก็ยังไม่พ้นจากช่วงระยะอันตราย ทุกคนยังคงเป็นกังวล เพราะเกรงว่าจะเกิดเหตุการณ์บางอย่างเข้า
หลังจากที่อี๋เอ๋อร์กลับมาแล้วก็เข้าไปอยู่เป็นเพื่อน นางยิ้มแย้มแจ่มใสบอกกับอ๋องเหลียงว่านางได้พบกับหวงไท่โฮ่วแล้ว
อ๋องเหลียงที่ได้สติ แต่จิตใจยังคงไม่ชัดเจนนัก ทว่าเขาชื่นชอบได้ยินเสียงอี๋เอ๋อร์เอ่ยออกมา และชอบมองนาง ฉะนั้นก็คอยดึงสติพูดคุยกับนาง
หลิวเย่ว์ที่นั่งอยู่ตรงหน้าระเบียง ได้ยินจื่ออันและเฉินหลิวหลิ่วเอ่ยกัน เมื่อได้ยินถึงเขาละมั่งโลหิต นางก้มศีรษะลงอย่างเศร้าเสียใจ หากว่านางมอบเขาละมั่งโลหิตให้จื่ออันไปก่อนแล้ว ก็คงไม่อันตรายถึงชีวิตขององค์หญิงใหญ่
ซ่งรุ่ยหยางนั่งลงข้างกายนาง “คิดอะไรอยู่?”
“คิดถึงเขาละมั่งโลหิตที่ถูกขโมยไป” หลิวเย่วเอ่ยออกมาอย่างเศร้าสร้อย
“เอากลับมาก็ได้ คิดมากไปก็ไร้ประโยชน์” ซ่งรุ่ยหยางเอ่ยปลอบ
หลิวเย่ว์หันหน้าไปมองเขา “ก่อนหน้านั้นไม่รู้ว่าของสิ่งนี้จะมีค่าถึงเพียงนี้ มิฉะนั้นแล้วก็คงจะไม่ขโมยท่านไป”
“เจ้าขโมยมันไปทำไม?” ซ่งรุ่ยหยางประหลาดใจอย่างมาก ในตอนนั้น “เรื่องสำคัญ” เสร็จแล้ว ก็ขโมยเขาละมั่งโลหิตไป
“เพราะคิดว่าไม่มีราคา ข้าก็เลยคิดเพียงแต่จะนำของเล็กน้อยติดไป ถือว่าให้เป็นความทรงจำกับตนเอง”
“ความทรงจำอะไรกัน? เจ้ายังจะคิดถึงมัน? หากว่าคิดถึงเจ้าก็คงจะไม่หนีไป” สายตาของซ่งรุ่ยหยางมีชีวิตชีวา
หลิวเย่ว์เอ่ยออกมาอย่างสลดใจ “ในตอนนั้นก็คิดเช่นนี้ ใครจะรู้กันว่าทำไมถึงได้คิดเช่นนี้?”
นางมองออกไป ก็เห็นว่าจื่ออันและหลิวหลิ่วมีใบหน้าเศร้าสลดใจ นางถอนหายใจออกมาเบา ๆ “หากว่าในตอนนั้นข้าไม่แพ้พนันอีกข้างหนึ่งไป ต่อให้จะถูกขโมยไปหนึ่งข้าง ก็ยังมีอีกข้างหนึ่งอยู่ ต้องโทษที่ข้าชอบพนัน”
ซ่งรุ่ยหยางจับไหล่นางทันที “เจ้าถูกขโมยไปเพียงแค่ข้างเดียวหรือ?”
“ใช่แล้ว อีกข้างหนึ่งแพ้พนันไปเมื่อปีที่แล้ว” หลิวเย่ว์เอ่ยออกมา
จื่ออันและหลิวหลิ่วเมื่อได้ยินคำนี้ ก็รีบร้อนเดินเข้ามา “แพ้ให้กับใคร?”
“ท่านหมอของสำนักจงเซิง ข้าติดเงินเข้าอยู่สิบตำลึงเงิน ก็เลยใช้เขาละมั่งโลหิตชำระหนี้ไป”
“เจ้านี่มันโง่จริง ๆ” จื่ออันอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความโมโห “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเขาละมั่งโลหิตนั้นมีมูลค่าเท่าใดกัน? แค่สิบตำลึงเงินเจ้าก็ขายมันไปแล้ว?”
“ตอนนี้ข้ารู้แล้ว ป้ายประกาศของจักรพรรดิบอกเอาไว้ว่ามูลค่าถึงพันตำลึงทอง” หลิวเย่ว์เอ่ยออกมาด้วยความหดหู่ นางขายขาดทุนไปแล้วจริง ๆ แต่ใครให้นางแพ้เงินไปกัน?
“ซูชิง!” จื่ออันตะโกนออกมาเสียงดัง
“พ่ะย่ะค่ะ!” ซูชิงรีบร้อนเดินเข้ามา ในมือคว้ายามา “เกิดอะไรขึ้น?”
“เจ้ารีบไปยังสำนักจงเซิง หาคนผู้หนึ่ง…” จื่ออันมองไปยังหลิวเย่ว์ “ท่านหมอชื่อว่าอะไร?”
“หยวนกั๋วจู้!” หลิวเย่ว์รีบร้อนเอ่ยออกมา “ทว่าเจ้าไม่จำต้องตามหาแล้ว สำนักจงเซิงนี้ไม่ได้เปิดแล้ว ท่านหมอหยวนเองก็ไม่รู้ว่าไปที่ใด หากว่าเขาอยู่ในเมืองหลวง มองเห็นประกาศขององค์จักรพรรดิแล้ว ยังจะไม่รีบนำเขาละมั่งโลหิตมาแลกเปลี่ยนอีกหรือ”
“จำเป็นต้องไป!” ซูชิงโยนยาออกไป รีบร้อนวิ่งออกไป