ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 779
หลังจากที่จัดการเรื่องนี้แล้ว จื่ออันก็เริ่มอธิบายออกไปถึงเรื่องที่ไปหาใต้เท้าเหลียงเมื่อคืน
“ก็หมายความว่า หลังจากที่พระชายาพูดคุยกับหานชิงชิวแล้วก็จากไป?”
“ใช่แล้ว สาวใช้สามารถเป็นพยานได้”
“สาวใช้เอ่ยออกมาเช่นนี้ หลังจากที่พระชายาจากไปแล้ว หานชิงชิวยังคงมีสติอยู่ ยังไม่มีร่องรอยของการโดนลักพา อีกทั้งยังพูดคุยกับสาวใช้อยู่ชั่วครู่หนึ่ง สาวใช้บอกว่านางเต็มไปด้วยอารมณ์ ร้องไห้ไปยกใหญ่” ใต้เท้าเหลียงเอ่ยออกมา
หวงไท่โฮ่วขัดขึ้นมาเบา ๆ “หรือจะเป็นนางที่กินเข้าไปเพื่อฆ่าตัวตาย?”
“ตามคำของไท่โฮ่ว นี่ก็อาจจะเป็นไปได้พ่ะย่ะค่ะ ทว่าหลังจากที่ค้นหาไปทั่วห้องแล้ว ก็ไม่พบยาพิษหลงเหลืออยู่ และก็ไม่พบกับกระดาษห่อยาพิษ”
“เช่นนั้น หากว่าเป็นเม็ดยาไม่ใช่ผงยาเล่า ซ่อนเอาไว้ในแขนเสื้อ ก็ไม่จำเป็นต้องใช้หีบห่อ” หวงไท่โฮ่วตรัสออกมา
ใต้เท้าเหลียงแน่นอนย่อมต้องสงสัยถึงจุดนี้ ทว่าเมื่อได้ยินหวงไท่โฮ่วตรัสออกมาแล้ว ก็คิดที่ใช้เหตุนี้ปิดคดี เพราะอย่างไรแล้ว คนของตระกูลเซียวแทบจะไม่ค่อยสนใจ ยิ่งไม่สืบหาต่อ เรื่องนี้มีเพียงแค่หวงไท่โฮ่วเท่านั้นที่ให้สืบความ ตอนนี้แม้แต่นางก็เอ่ยออกมาเช่นนี้ เขาก็ยิ่งยินดีที่ยิ่งไม่ต้องกังวลไป
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “เพียงแต่คดีนี้จะต้องมอบให้กรมอาญา เช่นนั้นกระหม่อมจะต้องทำอย่างไร…”
มู่หรงเจี๋ยขัดจังหวะเขาอย่างใจเย็น “คืนวานนี้หานชิงชิวไปยังจวนองค์หญิงดึกดื่น และยังร้องไห้น้ำตานองหน้าต่อหน้าคนของจวนองค์หญิง บอกว่านางผิดต่อองค์หญิง ข้าคาดว่านางคงจะเป็นเพราะว่ารู้สึกผิดถึงได้กินยาพิษฆ่าตัวตายไป”
ใต้เท้าเหลียงเช็ดเหงื่อตรงหน้าผาก “ที่ท่านอ๋องว่ามามีเหตุผล หากว่าเป็นเพราะสำนึกผิดกินยาฆ่าตัวตายไป บวกกับเรื่องของจดหมายปลดภรรยา การฆ่าตัวตายก็เป็นเรื่องที่มีเหตุผล”
“อืม ไปเถิด!” มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมา
ใต้เท้าเหลียงรีบร้อนลาออกไป เรื่องนี้เดิมคิดว่าคงจะจัดการได้ยาก เพราะอย่างไรแล้วหานชิงชิวเป็นถึงฮูหยินแม่ทัพใหญ่ ไม่คิดว่าจะง่ายดายถึงเพียงนี้
หวงไท่โฮ่วเองก็ไม่คิดที่จะได้ยินคดีของหานชิงชิวอีก คิดเพียงแต่จะไปตรัสอย่างไรดีให้ท่านโหวยินยอม
มู่หรงเจี๋ยและจื่ออันออกจากวังไป ปล่อยให้นางได้ครุ่นคิดโดยลำพัง
ระหว่างทาง จื่ออันนำเรื่องที่ตาวเหล่าต้าเห็นเมื่อคืนนี้เอ่ยออกมา “ผู้หญิงคนนี้ เสี่ยวตาวบอกว่าไม่เคยพบมาก่อน นางนำปิ่นปักผมออกมา พิสูจน์ได้ว่าหยิบออกมาจากจวนอ๋อง เป็นคนของจวนอ๋องอย่างนั้นหรือ?”
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมา “เป็นฟางเอ๋อร์หรือเจ้าแปดกลับมาแล้ว”
“ฟางเอ๋อร์? ฟางเอ๋อร์เป็นใคร?” ก่อนหน้านั้นจื่ออันไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
“ฟางเอ๋อร์เป็นน้องสาวของโหยวเหย๋า เกิดจากพระสนม ซ้ำยังถูกไล่ออกจากตระกูลไป ภายหลังก็ติดตามเจ้าแปดไปยังทางใต้ของแคว้น”
“ฟังแล้วดูเหมือนเรื่องเล่า นั่นไม่ใช่ว่าญาติผู้น้องของท่านหรือ? ทำไมถึงได้ถูกขับไล่ออกจากตระกูลกัน?” จื่ออันเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ
“สาเหตุที่แน่ชัดนั้นยังไม่แน่ ทว่ามีคนบอกว่าเกี่ยวข้องกับข้า” มู่หรงเจี๋ยมองไปยังด้านนอกหน้าต่าง เอ่ยออกมาด้วยใบหน้าบริสุทธิ์
“เกี่ยวข้องกับท่าน? ใครบอกว่าเกี่ยวกับท่าน?”
“อืม ทุกคนต่างก็เอ่ยออกมาเช่นนี้”
“ท่านไล่นางออกไป? เป็นไปไม่ได้? ท่านเองก็ไม่ใช่คนที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องในครอบครัวของผู้อื่น เรื่องนี้ท้ายที่สุดแล้วมันเป็นอย่างไรกัน ท่านอย่าเอ่ยออกมาบางส่วนแล้วแล้วเก็บกลืนไปบางส่วน รีบเอ่ยออกมา” จื่ออันยิ่งประหลาดใจ
มู่หรงเจี๋ยเอ่ยออกมาช้า ๆ “นางชอบข้า”
ทันใดนั้นผมของจื่ออันก็ตั้งชันขึ้น เอ่ยอย่างมาอย่างระมัดระวัง “นางชอบท่าน? นางเองก็ชอบท่าน? ไม่ใช่ว่าก่อนหน้านั้นโหรวเหย๋าชื่นชอบท่านอย่างนั้นหรือ?” ได้ยินตาวเหล่าต้าเอ่ยออกมา นั่นคือหญิงสาวที่เขาเคยพบเห็นมาตลอดชีวิตนี้ งดงามมากที่สุดแล้ว
มู่หรงเจี๋ยถอนหายใจออกมาอย่างเศร้าเสียใจ ใช้สายตาลึกล้ำมองไปยังจื่ออัน “ใช่แล้ว จะมีวิธีอะไรกันได้เล่า? ข้าเกิดมาก็ดึงดูดให้หญิงสาวชื่นชอบ”
“ไป ท้ายที่สุดแล้วมันเรื่องอะไรกันแน่ เอ่ยออกมาให้ชัดเจน!” จื่ออันโกรธจัดขึ้นมา จู่ ๆ ก็มีคู่แข่งทางความรักขึ้นมา อีกทั้งยังเข้ามาโดยที่ไม่มีการเตือนล่วงหน้า