ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 781
จื่ออันปิดประตูอย่างรวดเร็ว แต่มู่หรงเจี๋ยใช้เท้าหยุดเอาไว้สุดกำลัง “ไม่จำเป็นต้องปิดประตู ข้าจะคอยปกป้องพวกเจ้าอยู่ที่ด้านนอกเอง”
จื่ออันดึงโหรวเหย๋าออกไปและจ้องมองเขา “ท่านจะทำอะไร?”
มู่หรงเจี๋ยพูดอย่างเฉื่อยชา “ไม่ได้จะทำอะไร เจ้าเข้าห้องนี้ได้ ข้าก็เข้าได้เช่นกัน ไม่ใช่ห้องของเจ้าเสียหน่อย”
“เช่นนั้นเราไปเรือนฟังเสียงฝนกันเถอะ” จื่ออันดึงโหรวเหย๋า
“ข้าไปด้วย”
“เรือนฟังเสียงฝนไม่ใช่ที่ของท่าน”
“มันเป็นของอดีตแม่ยายข้า ข้าจะไปเยี่ยมอดีตแม่ยาย คงไม่ต้องขออนุญาติจากเจ้าหรอกใช่หรือไม่?” มู่หรงเจี๋ยพูดอย่างถือดี
จื่ออันพูดด้วยความโกรธเกรี้ยว “พอแล้ว ในเมื่อถามท่านแล้วท่านไม่พูด ข้าก็จะถามโหรวเหย๋าเองไม่ได้หรือไง? ไม่เช่นนั้นท่านก็บอกข้ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้นกับฟางเอ๋อร์กันแน่?”
โหรวเหย๋าตกตะลึง “อะไรนะ? จื่ออันเจ้าพูดว่าอะไรนะ? ฟางเอ๋อร์อย่างนั้นรึ?”
“ใช่ พี่สาวคนโตของเจ้าน่ะสิ” จื่ออันกล่าว
โหรวเหย๋าตะโกนขึ้นมาเสียงดัง “นางไม่ใช่พี่ใหญ่องข้า ไม่มีคนแบบนี้ในตระกูลซุน นางไปตายข้างนอกเสียยังจะดีกว่า อย่าได้กลับมา หากเจอนาง ข้าก็จะไม่มีวันยอมนางแน่”
หลังจากพูดจบก็ผลักจื่ออันออก และวิ่งออกไปทันที
จื่ออันมองไปที่มู่หรงเจี๋ยด้วยความงุนงง “เกิดอะไรขึ้น? โหรวเหย๋าเกลียดนางมากขนาดนี้เชียวรึ?”
มู่หรงเจี๋ยพูดอย่างไร้เดียงสาว่า “ข้าก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน”
จื่ออันกัดฟันด้วยความเกลียดชัง แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรเขาได้ หากเขาไม่อยากพูด แม้จะแงะปากเขาด้วยมีดเขาก็ไม่มีทางพูดออกมา
แต่จื่ออันแน่ใจว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างฟางเอ๋อร์กับเขาแน่ ถึงขั้นถูกไล่ออกจากบ้าน และถูกครอบครัวเกลียดชัง มันต้องเป็นเรื่องที่ร้ายแรงมากเป็นแน่
ในเมื่อไม่สามารถหาข้อมูลจากโหรวเหย๋าได้ จื่ออันจึงวางแผนที่จะถามเซียวท่า แต่เซียวท่าและซูชิงออกไปหาท่านหมอหยวน จนวันนี้ก็ยังไม่กลับมา
ด้วยความสิ้นหวัง นางจึงไม่มีทางเลือกนอกจากไปเปลี่ยนยาให้อ๋องเหลียง
อ๋องเหลียงไข้ลดลงมากแล้ว แต่ยังมีไข้ต่ำ ๆ อยู่ ยังคงมีบาดแผลอักเสบ การฆ่าเชื้อนั้นทั่วถึงไม่เพียงพอ แต่สำหรับจื่ออันแล้วนั้น การที่ไม่เกิดบาดทะยักก็ ก็สามารถเซ่นไหว้หมูเพื่อขอบคุณเทพเจ้าได้แล้ว
อ๋องเหลียงสามารถขยับร่างกายได้เล็กน้อย จื่ออันตรวจดูกระดูกของเขา เขาคร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด อี๋เอ๋อร์มองดูอย่างกระวนกระวายใจและพึมพำว่า “พระชายา เบาหน่อยเถิดเพคะ…”
จื่ออันยิ้มและพูดขึ้นว่า “ความเจ็บปวดเป็นสิ่งที่ดี อย่างน้อยมันก็บอกได้ว่าเส้นประสาทนั้นยังรับรู้ความรู้สึกได้”
อี๋เอ๋อร์ไม่เข้าใจและนางพึมพำอีกครั้ง “ความเจ็บปวดจะเป็นสิ่งที่ดีได้อย่างไร? ความเจ็บปวดเป็นสิ่งไม่ดีต่างหาก”
กระดูกตรงโคนขาหักและกระดูกต้นขาก็หักด้วย จื่ออันถอนหายใจเบา ๆ “อ๋องเหลียง ข้าไม่รู้ว่าการที่ถูกตีครั้งนี้เป็นโชคดีหรือโชคร้ายกัน แต่อย่างน้อย ข้าก็ไม่ต้องหักเท้าของท่านอีกแล้ว”
อ๋องเหลียงกัดฟันฝืนความเจ็บปวดและถามว่า “หมายความว่าอย่างไร?”
“เสด็จแม่ของท่านทำมันจนหักเรียบร้อยแล้ว และบังเอิญตรงกับจุดที่ท่านเคยได้รับบาดเจ็บจนแตกหักมาก่อน ดังนั้นเมื่ออาการบาดเจ็บของท่านดีขึ้น ก็จะสามารถรักษามันได้เลย” จื่ออันกล่าว
อ๋องเหลียงนิ่งเงียบ คิ้วของเขาขมวดแน่น
จื่ออันขึ้นเสียง “ท่านยังไม่ตัดสินใจที่จะรักษาขาของท่านอีกหรือ? หรือว่าท่านกำลังคิดที่จะยอมแพ้?”
อ๋องเหลียงส่ายศีรษะเล็กน้อย “ไม่ จื่ออัน ไม่ว่าด้วยวิธีใด จงช่วยรักษาข้าให้หายดีด้วย”
“ดีมาก” จื่ออันถอนหายใจด้วยความโล่งอก กลัวจริง ๆ ว่าเขาจะยอมแพ้ไปแบบนั้น
อี๋เอ๋อร์มองที่จื่ออันและถามขึ้นเบา ๆ “พระชายา ตอนนี้เขาพ้นขีดอันตรายแล้วหรือยังเพคะ?”
จื่ออันตอบ “สถานการณ์เป็นไปด้วยดี แต่มียังอาการอักเสบอยู่ ข้ากลัวที่สุดว่าจะทำให้ไข้ขึ้นสูงอีกครั้ง อี๋เอ๋อร์ เจ้าจงเฝ้าดูแลเขาอย่างระมัดระวัง และถ้ามีอะไรก็เรียกหาข้าได้ทันที”
“เพคะ” อี๋เอ๋อร์ยังคงถามอย่างกระวนกระวาย “เช่นนั้นจะยังเป็นอันตรายอยู่หรือไม่?”
จื่ออันมองไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางที่ขมวดคิ้ว และอดที่จะรู้สึกเป็นกังวลไปด้วยเสียไม่ได้ นางจึงพูดขึ้นว่า “ตราบใดที่มันยังคงดำเนินไปได้ด้วยดีเช่นนี้ โดยทั่วไปแล้วก็ไม่มีอันตรายอันใดแล้ว”
“นั่นก็ยังไม่สามารถยืนยันแน่ชัดได้นี่เพคะ!” อี๋เอ๋อร์กล่าว
อ๋องเหลียงกล่าวว่า “อี๋เอ๋อร์ ข้าไม่เป็นอะไรหรอก”