ยอดหมอหญิงมหัศจรรย์ บทที่ 788
“ใช่ ข้าเห็นเขาแล้ว”
“เฮ้อ ข้าเป็นห่วงเซียวเซียวจริง ๆ ให้คนไปถามไถ่อาการเสียหน่อยคงดีไม่น้อย” เขาเปิดม่านขึ้น “ข้ามีธุระ หยุดก่อน”
“ไม่จำเป็น ท่านอ๋องสบายดี ขับต่อไป” จื่ออันพูดอย่างเศร้าสร้อย
“เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? ข้ามีธุระจริง ๆ” มู่หรงเจี๋ยพูดอย่างจริงจัง
“เรื่องใดก็ไม่ใหญ่เท่าเรื่องที่ข้าพูดถึงอยู่ตอนนี้” จื่ออันกัดฟันและพูด ความอ่อนโยนจางหายไป สีหน้าของนางดุดุร้ายขึ้นในทันที
มู่หรงเจี๋ยโกรธมาก “เจ้าจะมีเรื่องสำคัญอะไรได้? กฎข้อแรกของการเป็นภรรยาคืออย่าก้าวล่วงเรื่องของสามี หยุดรถ แล้วค่อยกลับไปคุยกันในตอนกลางคืน”
“หากท่านไป ตั้งแต่คืนนี้ข้าจะแยกห้องนอน” จื่ออันพูดอย่างเย็นชา
มู่หรงเจี๋ยถอนหายใจและมองนางอย่างผิดหวัง “หญิงฉลาดไม่เคยใช้เรื่องแยกห้องนอนมาบีบบังคับสามี เซี่ยจื่ออัน เดี๋ยวนี้เจ้าไม่รู้จักพอจริง ๆ”
จื่ออันเพียงแค่เปิดม่านหน้าต่างออก “ใช่แล้ว ข้าก็เป็นเช่นนั้น ท่านไปเถอะ คืนนี้ข้าจะกลับไปเก็บข้าวของและย้ายกลับไปที่เรือนฟังเสียงฝน”
มู่หรงเจี๋ยปิดม่านลงและพูดอย่างจริงจัง “สามีภรรยามีเรื่องอะไรที่ไม่สามารถพูดคุยกันดี ๆ ได้? เกิดเรื่องอะไรก็เอาแต่จะกลับบ้าน ช่างเป็นวิธีที่ไม่ฉลาดเอาเสียเลย เจ้าไม่เพียงไม่พูดถึงแต่เรื่องของเจ้าเอง ตัวเองเป็นทุกข์ไม่พอ ยังทำให้ท่านแม่เป็นกังวลไปด้วยอีก”
“ท่านพูดไร้สาระอะไร?” จื่ออันฟังเขาพูดไปเรื่อย เสแสร้งทำเป็นห่วงใย แต่ไม่ยอมเข้าประเด็นเสียที จึงโกรธขึ้นมา “ท่านพูดมาสิ พูดมาสิ!”
“ได้ มาคุยเรื่องสำคัญของเจ้ากัน”
“อ๋องเยี่ยเป็นน้องชายคนที่เก้าของท่านใช่หรือไม่” จื่ออันเริ่มถาม
“ข้าไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ เขาดูไม่เหมือนข้าเท่าไหร่ อีกอย่างเสด็จพ่อไม่ชอบเขา ข้าเองก็เคยสงสัยว่าเขาถูกเก็บมาเลี้ยงหรือไม่”
“ได้ เก็บมาเลี้ยง แต่เขาสนิทกับท่านที่สุดใชหรือไม่?” จื่ออันอดทนและถามต่อไป
“ก็คงเป็นเช่นนั้น ตอนเด็ก ๆ เขามักจะฉกฉวยเอาของจากข้าไป เขามีเพื่อนมากมาย และเข้ากับเพื่อนได้ดี”
“ข้าหมายถึงในบรรดาพี่น้องทั้งหลาย เขาสนิทกับท่านมากที่สุดใช่หรือไม่ ?” จื่ออันยังคงอดทน แต่น้ำเสียงของนางร้อนรนมากแล้ว
มู่หรงเจี๋ยนั่งตัวตรง “พูดถึงพี่น้อง เขามีกลุ่มพี่น้องร่วมสาบาน หลายคนเป็นผู้เชี่ยวชาญจากต่างแคว้น ได้ยินมาว่าผู้นำทางด้านศิลปะการต่อสู้ก็เป็นพี่น้องร่วมสาบานของเขาเช่นกัน พี่ชายอย่างข้าไม่ได้สำคัญอะไรกับเขาขนาดนั้น”
จื่ออันขยี้ตาอย่างแรง อย่าโกรธ อย่าโกรธ หากโกรธขึ้นมามันจะต้องระเบิดเป็นแน่
“เจ้าสั่งให้เขาพาข้าไปใช่หรือไม่? เจ้าปล่อยให้เขาโยนข้าลงไปในหล่ม?” จื่ออันถามอย่างโกรธเคือง
“จะเป็นไปได้อย่างไร…” มู่หรงเจี๋ยตะโกนเมื่อถูกปรักปรำ และจื่ออันก็พูดขึ้นอย่างเย็นชา “พูดมาตามตรง ข้าจะยกโทษให้ท่าน หากท่านกล้าทำแต่ไม่กล้ารับ ข้าจะกลับบ้านแม่ทันที”
มู่หรงเจี๋ยก้มหัว “ใช่ข้าเป็นคนสั่งเอง แต่… ” ทันใดนั้นเขาก็เงยหน้าขึ้น ดวงตาของเขาดุร้าย “แต่ข้าทำอะไรผิดงั้นรึ? ตอนนั้นข้าไม่รู้ว่าหญิงสาวในเกี้ยวนั้นคือเจ้า หรือว่าเจ้าอยากจะเห็นข้าแต่งกับหญิงอื่นหรือถึงจะพอใจ? เช่นนั้นใช่หรือไม่?”
เมื่อเห็นว่าเขายอมสารภาพ จื่ออันที่กำลังคิดหาวิธีทรมานเขาอยู่เป็นร้อยวิธี แต่เมื่อเห็นเขาจู่ ๆ ก็บ้าคลั่งขึ้นมา แถมความบ้าคลั่งนี้ค่อนข้ามีเหตุผลเสียด้วย…
“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น…”
“แล้วเจ้าหมายความว่าอย่างไร? หากคนในเกี้ยวไม่ใช่เจ้า แต่เป็นหญิงอื่น เจ้าอยากให้ข้าทำเช่นไร? ต้องแต่งงานกับนางอย่างมีความสุข หรือโยนนางลงโถส้วมกัน? เจ้าพูดมา” มู่หรงเจี๋ยฟื้นคืนศักดิ์ศรีของเขา และถามอย่างเฉียบแหลม
“นั่น…”
“อย่ามัวอึกอัก พูดมาเร็ว ๆ”
จื่ออันรู้สึกกลัดกลุ้ม เมื่อพบว่าตัวเองเป็นรองเขาอยู่
“ว่ามาสิ” มู่หรงเจี๋ยไม่ยอมปล่อยและกดดันนางต่อไป “ที่ข้าทำเช่นนั้นก็เพื่อเจ้า ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าการแต่งงานนั้นได้รับมอบจากบรรพบุรุษ แต่ก็ยังต่อต้านคำสั่ง และทิ้งเจ้าสาวที่พระองค์แต่งตั้งขึ้น หากเป็นเจ้า เจ้ากล้าทำเช่นนั้นหรือไม่? เจ้ายังมาบ่นข้าอีก? ข้ายอมเสี่ยงเช่นนี้ เพียงเพื่อให้แน่ใจว่าคนที่ข้าแต่งงานด้วยคือเจ้า แต่เจ้ายังตามหาตัวคนบงการ เจ้าเห็นถึงความอุตสาหะของข้าบ้างหรือไม่?”
จื่ออันเปิดม่านออก “อาหลู่ ช้าลงหน่อย ข้ามีเรื่องที่ต้องทำ!”
คนขับรถม้าพูดด้วยเสียงต่ำ “ช้าอะไรกัน? พวกท่านแค่ทะเลาะกัน ยังไม่ได้เริ่มการต่อสู้เสียหน่อย”