ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 263 ทำร้ายผู้อื่น
โชคไม่ดีที่สิ่งต่าง ๆ ไม่ได้เป็นไปตามที่ต้องการเสมอไป
ความสัมพันธ์บางอย่างเริ่มห่างเหินเมื่อเวลาผ่านพ้นไป
หลังจากที่ทักทายตอบโต้กับท่านผู้หญิงโจนส์แล้ว เนลล์ก็ไม่ได้พูดคุยอะไรต่อและขอตัวออกมา
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ชายวัยกลางคนผู้นั้นที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพวกเขาก็พูดขึ้น
“คุณคือ คุณเจนนิงส์ใช่ไหม?”
เนลล์แปลกใจและหันกลับไป
มีรอยยิ้มที่อบอุ่นบนใบหน้าอันสุขุมของเขา มันเป็นรอยยิ้มประเภทที่บุคคลที่มีอำนาจส่งต่อไปยังประชาชนของเขาด้วยอย่างงดงาม
หญิงสาวพยักหน้ารับ “ค่ะ”
“ผมมีโอกาสได้ชมการแสดงของคุณ และการแสดงของคุณนั้นโดดเด่นมาก ผมได้ยินมาว่าคุณร้องเพลงประกอบซีรี่ส์ด้วยใช่ไหม? ผมชอบเพลงนั้นเป็นพิเศษ คุณจะกรุณาช่วยร้องเพลงนั้นให้ผมฟังในคืนนี้ได้ไหม?”
เนลล์รู้สึกสงสัย
‘การนำทางของคนไร้ค่า’ เป็นเว็บซีรี่ส์ที่ผลิตด้วยงบประมาณไม่มาก เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่าย ทิม คูมบส์ จึงไม่ได้จ้างนักร้องอาชีพ
ครั้งหนึ่ง เขาบังเอิญพบว่าเนลล์สามารถร้องเพลงได้ ดังนั้นเขาจึงจัดการให้เธอไปร้องเพลงประกอบซีรี่ส์ช่วงเปิดตัว
เธอคาดไม่ถึงว่าชายวัยกลางคนผู้นี้จะฟังมัน
เนลล์รู้สึกเขินอายนิดหน่อย และม้วนผมที่ข้างหูของเธอ
“อืม… ฉันคิดว่ามันไม่ใช่ความคิดที่ดีนะคะ พวกคุณกำลังประชุมกันที่นี่…”
“ไม่เป็นไร เพลงนี้แค่ฟังดูคล้ายกับเพลงที่เพื่อนเก่าของผมที่แต่งขึ้นมา เมื่อผมได้ยินมัน มันทำให้ผมรู้สึกแบบนั้น ตอนนี้คุณอยู่ที่นี่ ผมแค่ปรารถนาที่จะได้ฟังมันสักครั้งหนึ่งด้วยตัวของผมเอง ความจริงแล้ว คำขอของผมนั้นก็ออกจะกะทันหันจนเกินไป”
เขากล่าวเบา ๆ ด้วยรอยยิ้ม
เป็นความจริงที่ว่าในฐานะคนแปลกหน้าคำขอร้องของเขานั้นค่อนข้างกะทันหันจนเกินไป
แต่ถึงอย่างไร ผู้ชายคนนี้ให้บรรยากาศของสุภาพและมีเมตตาแผ่ออกมาจากตัวของเขา มากไปกว่านั้นน้ำเสียงของเขายังฟังดูจริงใจ ซึ่งทำให้เธอเชื่อว่าเขาแค่อยากฟังเพลงแทนที่จะใช้เธอเป็นส่วนหนึ่งของความบันเทิง
เนลล์ไม่ใช่คนใจร้าย เธอเห็นว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดา
นอกจากนั้นเขายังดูเป็นคนจริงใจและไม่ถือตัว เพลงนั้นต้องมีความหมายบางอย่างเป็นพิเศษสำหรับเขาเป็นแน่
อย่างไรก็ตาม เธอไม่ต้องการเข้าสังคมต่อกับผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ ไม่ใช่ว่าเธอร้องเพลงไม่ได้
เมื่อเธอลองไตร่ตรองดูแล้ว และเหลีอบไปเห็นท่านผู้หญิงโจนส์
ท่านผู้หญิงมองมาที่เธอพร้อมกับพยักหน้า
เนลล์เม้มริมฝีปากของเธอ ในที่สุดเธอก็ตอบออกไป “ตกลงค่ะ”
ห้องส่วนตัวพร้อมด้วยระบบเสียงที่ทันสมัย มันอาจจะไม่ซับซ้อนเท่าอุปกรณ์ที่ใช้ในสตูดิโอบันทึกเสียง แต่อุปกรณ์ที่ใช้ในหอประชุมเซียนสุ่ยนั้นมีคุณภาพที่ยอดเยี่ยมโดยไม่ต้องสงสัย
เนลล์ขอให้ใครสักคนช่วยเลือกเพลงให้กับเธอ จากนั้นเธอก็หยิบไมโครโฟนขึ้นมาและเริ่มร้องเพลง
ตามความเป็นจริงแล้ว ทุกครั้งเมื่อเธอร้องเพลง เธอจะดื่มด่ำกับมัน และในครั้งนี้ก็ไม่ต่างกัน
เมื่อโน๊ตแรกดำเนินมาถึง เนลล์ก็พาจิตวิญญาณของเธอเข้าไปสู่โลกแห่งดนตรี
ว่ากันว่าเพลงนี้เขียนขึ้นมาโดยนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียง เขาเขียนเกี่ยวกับผู้หญิงที่เขาเคยรัก ผู้ที่เสียชีวิตกะทันหันด้วยอุบัติเหตุ เขาคิดถึงเธอมาก และหวังว่าพวกเขาทั้งสองจะได้พบกันอีกครั้งในชีวิตหลังความตาย
แม้ว่าเพลงนี้จะแสดงถึงความรักและความสูญเสีย ทว่าองค์ประกอบของเพลงไม่ได้จมอยู่กับความโศกเศร้า ถึงอย่างนั้นมันก็ถูกแต่งแต้มด้วยความอาลัยอาวรณ์อย่างเป็นนัย ๆ อาจจะกล่าวได้ว่าเพลงนี้เป็นตัวอย่างที่ดีของความรู้สึกเศร้าเสียใจ ทว่าไม่มีใครปล่อยให้ความโศกเศร้าแผดเผาเขาไปได้
เนลล์สื่ออารมณ์ของเธอลงไปในเพลง ในขณะเดียวกันนั้นเองชายวันกลางคนผู้นั้นก็ตกตะลึงเมื่อเธอเปิดปากขึ้นร้องเพลงเป็นครั้งแรก
ท่าทางของเขาเปลี่ยนไปจากอบอุ่นและมีเมตตา เป็นใครสักคนที่ไม่เชื่อและประหลาดใจเป็นที่สุด
ในที่สุดการฟังแพลงจากการร้องสดนั้นแตกต่างจากการฟังทางโทรทัศน์
เขายังคงกลัวการแสดงของเธอบนโทรทัศน์ ทว่าในไม่ช้าเขาก็กลับมามีสติอีกครั้งและรู้ว่าเนลล์ไม่ได้ยืนอยู่ตรงหน้าของเขา
เวอร์ชั่นการแสดงสดให้ประสบการณ์ที่แตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
นักร้องอยู่ตรงหน้าของคุณ สามารถเห็นท่าทางการแสดงของเธอที่มีชีวิตชีวา การเคลื่อนไหวที่อ่อนช้อย และฟังเสียงอันไพเราะของเธอ…
ราวกับเพื่อนเก่าของเขายังคงมีชีวิตอยู่
เมื่อเธอร้องเพลงนั้นจบ เนลล์ก็พาตัวเองกลับสู่โลกแห่งความจริงและยิ้มออกมา “ขออภัยด้วยนะคะ”
หลังจากนั้น เธอก็สังเกตได้ว่าชายวัยกลางคนมองมาที่เธอด้วยสายตาที่นิ่งเฉย แทนที่จะมีปฏิกิริยาใด ๆ
เนลล์กลืนน้ำ
มีปัญหาอะไรหรือเปล่านะ?
ท่านผู้หญิงโจนส์รู้สึกถึงความผิดปกติได้เช่นกัน ด้วยเหตุนั้นเธอจึงปรบมือขึ้นและร้องเชียร์ “ช่างเป็นการแสดงที่งดงามจริง ๆ เนลลี่! คุณเห็นด้วยไหมคุณการ์เร็ตต์?”
ชายที่รู้จักกันชื่อคุณการ์เร็ตต์มีการตอบสนองขึ้น เขาทำตัวเงอะงะเล็กน้อยและพยักหน้า “ครับ มันวิเศษมาก”
เนลล์รู้สึกว่าปฏิกิริยาตอบสนองของเขาแปลก ๆ แต่เธอก็ไม่ได้คิดมากอีกต่อไป เธอวางไมโครโฟนลงและพูดขึ้น “คุณยายทูนหัว ฉันต้องไปแล้วนะคะ”
ท่านผู้หญิงโจนส์ระบายยิ้ม “เอาล่ะ ไปเถอะ! ให้นายน้อยมอร์ตันไปเป็นเพื่อนคุณ”
ในตอนแรก เนลล์อยากจะปฏิเสธ แต่เจสันมาถึงตรงประตูแล้ว มันคงจะไม่เหมาะสมที่เธอจะปฏิเสธข้อเสนอ ดังนั้นเธอจึงเลือกที่จะเงียบ
หลังจากออกจากห้อง เจสันก็ยิ้ม “เมื่อสักครู่นี้คุณร้องเพลงดีจริง ๆ ดีกว่าเวอร์ชั่นในทีวีด้วยซ้ำ”
เนลล์เลิกคิ้วขึ้น “แล้วถ้าเทียบกับเซลีนล่ะ?”
ในฐานะคนที่มีชื่อเสียงที่มีความสามารถหลากหลาย คนที่เคยถ่ายภาพยนตร์ร่วมกัน เซลีนเองก็เคยร้องเพลงหลายเพลงในช่วงเวลาที่ผ่านมาเหมือนกัน!
ท่าทางของเจสันดูเกร็งขึ้น
เขาถามเจื่อน ๆ “คุณพูดถึงเธอทำไม?”
เธอหยุดเดินและมองเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่เย็นชา “เจสัน มอร์ตัน ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ เพราะฉะนั้นอย่างแกล้งโง่ต่อหน้าฉัน”
“ตระกูลเจนนิงส์เคยนำโดยซิลเวีย เซลีนและแม่ของเธอ คุณประจบประแจงซิลเวียและเอาอกเอาใจเซลีน ทั้งหมดนั้นเพราะคุณต้องการรวมเจนนิงส์เข้ากับพวกมอร์ตัน”
“ตอนนี้ซิลเวียกำลังมีปัญหาและไม่มีประโยชน์สำหรับคุณ ขณะที่เซลีนและแซลลี่มีคดีความค้างคาอยู่กับพวกเขา คุณกลัวว่าจะเป็นปัญหากับตัวคุณและตระกูลมอร์ตัน เช่นนั้นคุณจึงตัดสินใจผลักเซลีนออกไปและมองมาที่ฉันแทน เจสันคุณคิดว่าคนอื่นจะโง่เหมือนเธอเหรอ? เพื่อให้เป็นของเล่นของคุณและโกหกเหรอ?”
เจสันอารมณ์เสีย
“คุณเข้าใจแบบนั้นเหรอ? ผมเป็นคนแบบนั้นมันสำคัญกับคุณใช่ไหม? ผมยอมรับว่าความสัมพันธ์กับเซลีนตอนนี้มันแย่มาก แต่มันก็แย่อยู่แล้วก่อนที่เธอจะมีปัญหาอีก ผมพยายามจะไม่เอาเปรียบเธอด้วยสถานการณ์ในตอนนี้และทำอันตรายต่อคนอื่น!”
เนลล์รู้สึกรำคาญกับคำตอบของเขาจนเธอหัวเราะออกมา
“ไม่เอาเปรียบเธอในสถานการณ์ตอนนี้ของเธอเหรอ? ทำอันตรายต่อคนอื่นเหรอ? เจสัน มอร์ตัน คุณเชื่อในสิ่งที่คุณพูดออกมาเหรอ?! ฉันจะบอกอะไรให้นะ ถ้าคุณยังสามารถสนับสนุนเซลีนอย่างที่เป็นอยู่ ฉันคงจะมีความนับถือต่อคุณอยู่บ้าง แต่คุณทำหรือไม่? ก็ไม่!”
“พูดง่าย ๆ คือ คุณสนใจแต่ตัวเอง และคนเดียวที่คุณรักก็คือตัวคุณเอง ดังนั้นไม่ต้องเสแสร้งต่อหน้าฉัน สิ่งที่คุณแสดงออกมาทำให้ฉันขยะแขยง”
“นอกจากนี้ ตั้งแต่คุณได้เลือกเซลีน คุณควรจะยืดอกและรับผิดชอบ ไม่อย่างนั้นฉันจะยิ่งเกลียดคุณ และดูถูกคุณมากยิ่งขึ้นไปอีก!”
เมื่อเธอพูดจบ เธอก็หันหลังกลับและเดินออกไป
เจสันไม่คาดคิดว่าเธอต่อว่าเขาด้วยความเกลียดชังเช่นนี้
เขาถูกครอบงำไปด้วยความโกรธเคือง
ในที่สุด เขาก็ไม่สามารถระงับความโกรธของเขาลงได้และร้องออกมา “เนลล์ เจนนิงส์! เธอจะต้องเสียใจที่กับสิ่งที่พูดกับฉันในวันนี้!”
เนลล์ไม่ได้หันกลับไปมอง
ด้วยสิ่งนี้ทำให้เจสันบ้าคลั่ง
เขาจ้องมองและเดินไปหาเธอโดยปราศจากการเตือนล่วงหน้า เขาจับแขนของเธอ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มเข้มว่า “เดี๋ยว ผมมีความลับ จะฟังผมไหม?”
เนลล์มองไปที่เขา และเผยรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา “ฉันจะไม่ฟังคุณแม้ว่าคุณจะมีความลับเป็นร้อยก็ตาม! ปล่อยฉัน!”
“ผมพูดจริง ๆ ! ผมต้องทำอย่างไรให้คุณเชื่อผม? ใช่ ผมยอมรับว่าผมเคยทำผิดพลาดมากมายตลอดเวลาที่ผ่านมาและทำเรื่องเลว ๆ มากมาย บางทีผมก็ทำร้ายคุณเช่นกัน แต่อย่างน้อยตอนนี้ผมก็อยากจะขอโทษคุณด้วยความจริงใจ ทำไมคุณถึงไม่ให้โอกาสผมบ้างล่ะ?”