ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก – บทที่ 336 แต่งงานกันแล้ว

ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก

ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก บทที่ 336 แต่งงานกันแล้ว

เขาพยักหน้าและมองไปที่เธอ เจเน็ตควบคุมตัวเองไว้และบ่นออกมา “การขอแต่งงานครั้งนี้ไม่เห็นจะโรแมนติกเอาซะเลย งานแต่งงานก็ไม่มี ดังนั้นฉันจะไม่ยอมรับมันหรอก อย่ามาเพ้อฝันไปหน่อยเลย”

เลียมตอบด้วยการยักไหล่อย่างไม่สนใจไยดี “ไม่เป็นไร ตราบใดที่กฎหมายยังรองรับอยู่”

เจเน็ตพูดอะไรไม่ออก

ในไม่ช้า รถก็มาถึงสนามบิน

เจเน็ตรู้สึกลังเลเมื่อเห็นตั๋วเครื่องบินที่เลียมเตรียมเอาไว้ให้เธอ

เธอนึกถึงปฏิกิริยาของพ่อของเธอเมื่อเขากลับถึงบ้าน และรู้เรื่องที่เกิดขึ้น สุดท้ายแล้ว เธอก็ยังคงไปขึ้นเครื่องบินกับเลียม

เธอรู้ว่าไม่สามารถหันหลังกลับไปได้แล้วหลังจากตัดสินใจเรื่องนี้

แม้ว่าเธอจะพูดว่าเธอปฏิเสธที่จะยอมรับการแต่งงาน ทว่าลึก ๆ แล้วเธอเองก็เห็นด้วย

เธอเห็นด้วยกับการจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้อง และเธอก็เต็มใจเซ็นชื่อของเธอลงไป เธอยอมรับในเสียงที่ซ่อนอยู่ในส่วนลึกของหัวใจของเธอเช่นกัน

เป็นเวลา 16:00 น.แล้ว ตามเวลาที่พวกเขามาถึงที่เมืองหลวง

เจเน็ตไม่ได้รับโทรศัพท์ใด ๆ บนเครื่องเนื่องจากเธอปิดโทรศัพท์

อย่างไรก็ตาม โทรศัพท์ของเธอเริ่มดังไม่หยุดเมื่อเธอลงจากเครื่องบิน

เป็นทั้งอีธานและอัลริกที่โทรเข้ามา

เธอลังเล แล้วรับสายจากพี่ชายของเธอ แทนที่จะรับสายจากพ่อของเธอ

ทันทีที่เธอยอมรับสายก็สามารถได้ยินเสียงของอัลริกที่เต็มไปด้วยความโมโห

“เจเน็ต! เธอเป็นบ้าหรือไง? เธอรู้ไหมว่าคุณพ่อไม่เห็นด้วยกับความสัมพันธ์ของเธอกับผู้ชายคนนั้น แต่แล้วเธอกลับพาเขามาที่บ้านอย่างนั้นเหรอ?! ตอนนี้เธออยู่ที่ไหน? กลับบ้านเดี๋ยวนี้!”

เจเน็ตนั่งอยู่ในรถโดยที่ศีรษะของเธอก้มลง เธอเล่นรอยขาดบนกางเกงยีนส์ของเธออย่างไร้อารมณ์

“เราแต่งงานกันแล้ว”

“แต่งงานอะไร? อย่ามาไร้สาระกับฉัน… เธอเพิ่งพูดว่าอะไรนะ? เธอสองคนคือ…”

เมื่ออัลริกได้รับรู้อย่างกะทันหัน คนที่ปลายสายก็เงียบไปชั่วขณะ เจเน็ตรู้ว่าอัลริกโกรธมากจนพูดอะไรไม่ออก ด้วยเหตุนั้นเธอจึงพูดขึ้น “พี่ชาย ตอนนี้ฉันรู้สึกหงุดหงิดและสับสน ฉันไม่อยากทะเลาะกับพ่อตอนนี้ ช่วยปลอบใจเขาให้ฉันที ฉันจะพาเลียมกลับไปและคุยกับเขาตัวต่อตัวกับเขา”

อัลริกหัวเราะออกมาอย่างประชดประชัน “เหรอ ตอนนี้พวกเธอโตแล้วใช่ไหม? ปลอบเขาให้เธออย่างนั้นเหรอ? ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วย? เธอเคยคิดถึงพี่ชายของเธอก่อนที่เธอจะตัดสินใจอะไรที่ร้ายแรงลงไปหรือเปล่า? ฉันช่วยขโมยสัญญาให้กับเธอ แต่เธอกลับไปแต่งงานกับไอ้เด็กแจ็คแมนนั่น แล้วฉันควรจะตอบคำถามของพ่ออย่างไร? เธออยากให้ฉันไปทะเลาะกับเขาหรือไง?!”

“พี่ชายฉันขอโทษ”

“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าพี่! เธอทิ้งครอบครัวได้เพราะผู้ชายคนเดียว ฉันไม่มีน้องสาวอย่างเธอ!”

เจเน็ตรู้สึกตกหลุมพราง เธอรู้ว่าอัลริกพูดคำพูดเหล่านั้นออกมาจากความโกรธ ทว่าแต่กลับไม่สามารถกลั้นความรู้สึกอยากร้องไห้ของเธอได้

ชั่วพริบตา เธอเงยหน้าของเธอขึ้นและหันไปมองด้านนอกหน้าต่าง เธอเบิกตาเพื่อหยุดน้ำตาไม่ให้ไหล

“พี่จะเป็นพี่ชายของฉันตลอดไป พี่อาจจะปฏิเสธที่จะยอมรับว่าฉันเป็นน้องได้ แต่ฉันวางใจให้พี่ดูแลกิจการของตระกูล ไม่ต้องเป็นห่วงฉันดูแลตัวเองได้ เมื่อพ่อไม่โกรธแล้ว ฉันจะกลับไป นั่นคือทั้งหมดสำหรับตอนนี้ ฉันจะวางสายแล้ว พี่ดูแลตัวเองด้วย”

เธอวางสายอย่างรวดเร็ว หลังจากที่เธอพูดในส่วนของเธอราวกับว่าเธอจะเจ็บปวดถ้าเธอพูดคำอื่นออกมา

ตลอดทางเลียมที่นั่งข้างเธอและสังเกตเธออย่างเย็นชาโดยไม่พูดอะไรสักคำ

บรรยากาศบนรถเงียบจนน่าขนลุก

ความเงียบถูกทำลายลงเมื่อพวกเขามาถึงทางเข้าวิลล่า

“นายน้อย เราถึงแล้ว”

เลียมพยักหน้า เปิดประตูรถแล้วลงจากรถ

เจเน็ตตามลงมาด้วยเช่นกัน

เมื่อเธอถึงบ้าน เธอมุ่งหน้าที่ไปที่ห้องนอน เลียมเดินตามไปหลังจากขนกระเป๋าลงจากรถ

พวกเขาอยู่ที่บ้านตามลำพัง ดังนั้นเจเน็ตจึงไม่ได้ล็อกประตู เลียมจึงสามารถเข้ามาภายในห้องได้เหมือนกัน เขาเห็นเธอนั่งลงที่ข้างหน้าต่างโดยมีร่องรอยของน้ำตาอยู่บนใบหน้า

แววตาของเขาแสดงความเศร้าเสียใจออกมา

ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้ปลอบโยน เขารู้ดีว่าบางครั้งการปลอบโยนใครบางคนก็ไม่มีประโยชน์

อีธานไม่ชอบเขา และเลียมเองก็ไม่ชอบตระกูลแฮนค็อกเหมือนกัน นี่คือความไม่ชอบของกันและกันที่ไม่สามารถประนีประนอมได้

เธอต้องเลือก

หลังจากร้องไห้ได้สักพัก เจเน็ตรู้สึกดีขึ้นเล็ก เมื่อเธอหันไปและเห็นเขากำลังยืนกอดอกที่อยู่ประตู เธอรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาในทันที

“นายมาที่นี่ทำไม?”

เลียมเลิกคิ้ว

“นี่คือบ้านของฉัน ทำไมฉันถึงมาที่นี่ไม่ได้ล่ะ?”

เจเน็ตหัวเราะขึ้นเบา ๆ

“นายนี่หน้าด้านจริง ๆ เลยนะ! เนลลี่ยกบ้านหลังนี้ให้ฉันแล้ว ฉันยังไม่เรียกบ้านหลังนี้ว่าบ้านของฉันเลย นับประสาอะไรกับนาย ช่างกล้า!”

การแสดงออกของเลียมยังคงไม่เปลี่ยนแปลง “ถ้าเธอชอบมัน ฉันจะซื้อบ้านหลังนี้หรือที่อื่นก็ได้ เธอเลือกมาเลย”

เจเน็ตถอนหายใจอย่างรุนแรง

เธอโกรธและผลักเขาออกไปโดยไม่สนอะไรในโลกนี้ทั้งนี้

“ออกไปแล้วกลับบ้านไปเลยนะ! นายไม่เกี่ยวข้องอะไรกับที่นี่”

ทันใดนั้น เลียมก็จับแขนของเธอเอาไว้

เธอตกตะลึงและมองที่ดวงตาจริงจังของเขา

“เจน ฉันหมายความว่าบ้านคือที่ที่เธออยู่ ฉันก็ไม่รู้จักที่อื่นแล้ว”

เจเน็ตแปลกใจ

ความรู้สึกขมขื่นแทรกขึ้นจากก้นเบื้องหัวใจของเธอ มันเป็นความสับสนผสมปนกับอารมณ์

เธอดึงแขนออกอย่างรวดเร็วและเบนสายตาไปที่ด้านข้างโดยไม่ให้สบตาของเลียม

แต่ถึงอย่างนั้น เธอก็บ่น “ใครบอกว่าฉันจะไปอยู่กับนาย?! ฝันไปเถอะ!”

เลียมไม่ได้ใส่ใจนัก เขาเพียงแค่ยิ้มออกมา “มันเป็นเรื่องปกติ เราแต่งงานกันแล้ว เธอควรจะเข้าใจ”

เจเน็ตเงียบไป

เธอไม่รู้จะตอบเขาอย่างไรไปชั่วขณะ

เลียมหัวเราะเมื่อเจเน็ตยอมจำนนต่อคำพูดของเขา

เขาเอนตัวเพื่อให้เข้าใกล้เธอมากยิ่งขึ้น และจับใบหน้าของเธอเอาไว้พลางกระซิบ “เรียกฉันว่าสามี”

เจเน็ตมองเขาด้วยความโมโห

“ฝันไปเถอะ!”

จากนั้นเธอก็ไม่สนใจเขาและเดินไปที่เตียง

ชายคนนั้นไม่ได้ขุ่นเคืองกับปฏิกิริยาของเธอ แต่กลับหัวเราะเยาะแทน

มันเป็นวันที่แสนยาวนานและเขาก็เหนื่อยเหมือนกัน เขาไม่อยากจะเถียงกับเธออีกต่อไป ดังนั้นเขาจึงไปอาบน้ำ

ก่อนหน้านี้เลียมจะมาอยู่ที่นี่เป็นครั้งราว ดังนั้นเขาจึงมีเสื้อผ้าเก็บเอาไว้ที่นี่

เจเน็ตนอนลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยล้า เธอกัดฟันและบอกตัวเองว่าเธอจะต้องไม่ยอมอ่อนข้อและยอมรับคำขอของเขา

ตอนนี้เธออยู่ในสถานะที่น่าอึดอัดใจ

เมื่อเธอคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ เธอรู้สึกสับสนและหลงทาง

พวกเขาแต่งงานกันแล้วหรือ?

ทำไมถึงไม่รู้สึกว่ามันเป็นความจริงเลย?

เธอหยิกแขนของเธอและมันรู้สึกเจ็บซึ่งหมายความว่ามันเป็นเรื่องจริง

เธอถอนหายใจแล้วคว้าหมอนมากอดไว้พลางหลับตาลง

ไม่นานนักประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดออกและมีคนออกมา

เธอผลักหมอนออกทันทีและเห็นคนที่เพิ่งอาบน้ำออกมา

เขามีผ้าขนหนูสีขาวพันอยู่รอบเอวของเขา เผยให้เห็นผิวสีอมน้ำผึ้ง กล้ามเนื้อบนร่างกายของเขาแน่นและชัดเจนราวกับทุกตารางนิ้วถูกสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยเทพเจ้า เขาเซ็กซี่ทว่าก็ไม่ได้จนเกินไป

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเห็นร่างกายเปลือยเปล่าของเขา แต่ด้วยเหตุผลบางประการ เธอยังรู้สึกเขินเมื่อเธอเห็นมัน

ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก

ท่านประธานจอมเฮี๊ยบกับยัยหวานใจสุดที่รัก

Status: Ongoing
แฟนหนุ่มของเธอและน้องสาวของเธอมีความสัมพันธ์พัวพันกัน ดังนั้นเธอจึงหันมาแต่งงานกับผู้ประกอบการธุรกิจที่น่ากลัวอย่าง “กิดเดียน ลีย์”เธอไม่เพียงแต่เป็นดาราในสิทธิของตัวเอง แต่เธอยังเป็นนักประชาสัมพันธ์และผู้ประกอบการอีกด้วย นักขับรถแข่งสุดยอด? นักออกแบบเหรียญทองชื่อดังระดับโลกด้วย?! สมบัติล้ำค่าที่ซ่อนอยู่ของสาวคนนี้คือใคร !!!เธอเปลี่ยนจากการถูกปฏิเสธอย่างน่าสมเพชมาเป็นเทพธิดาที่มีผู้คนนับหมื่นมองดูและแฟนๆของเธอก็เข้าคิวจากจินเฉิงไปจนถึงเกียวโตคุณลีย์ ที่มองเห็นเสน่ห์ของผู้หญิงคนหนึ่งรีบดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขา “เมียฉันต้องซ่อนให้ดี คุณสามารถเป็นของผมเท่านั้น!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท