STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา – ตอนที่ 9 ศิษย์อาจารย์ (1)

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา

ตอนที่ 9 ศิษย์อาจารย์ (1)

ณ บ้านตระกูลจาง

ในตัวบ้าน

จนถึงตอนนี้หลี่ฮ่าวยังเหงื่อออกโทรมนึกหวาดกลัวไม่หาย

จากการทำงานตลอดหนึ่งปีในกองตรวจการณ์ทำให้หลี่ฮ่าวได้เรียนรู้อะไรมาบ้าง หากเขายังอยู่กู่ย่วนหลี่ฮ่าวอาจจะไม่สามารถใช้กลยุทธ์ปิดฟ้าข้ามทะเล[1]โดยแสดงละครฉากใหญ่หน้าตายได้เช่นวันนี้

‘ต้องรีบหาแล้วรีบเผ่น เผื่อพวกเขาย้อนกลับมาเล่นงานเรา!’

“เจ้าเสือดำ!”

ครรลองสายตาของหลี่ฮ่าวจ้องไปที่เจ้าเสือดำ เขาคุ้นเคยกับบ้านของตระกูลจางมากก็จริง แต่ยิ่งคุ้นเคยมากเท่าไรก็จะยิ่งหาสิ่งของที่ตนเองต้องการจะหาไม่เจอ

อันที่จริงแล้วครั้งนี้ที่เขาเอาเจ้าเสือดำมาด้วยก็เพราะตั้งใจจะใช้มัน

เจ้าเสือดำแหงนหน้ามองหลี่ฮ่าว

หลี่ฮ่าวมองไปรอบๆ เขากล่าวเสียงต่ำแล้วจิ้มจี้หยกที่บริเวณทรวงอกของตนเอง “ลองหาดู ที่นี่น่าจะมีของจำพวกเดียวกับของชิ้นนี้ แกจมูกไว ลองหาดูหน่อย”

ใช่แล้ว บางทีเจ้าเสือดำอาจจะหาเจอ

ก่อนหน้านี้เวลาเจ้าเสือดำเจอจี้หยกของหลี่ฮ่าว มันจะมีท่าทีสนอกสนใจอย่างมาก

หลี่ฮ่าวยังสงสัยด้วยซ้ำว่าตอนแรกที่เจ้าเสือดำเร่ร่อนมาจนถึงหน้าประตูบ้านเขานั้นเพราะจี้หยกหรือเปล่านะ?

และแน่นอนว่าก่อนนี้หลี่ฮ่าวไม่เคยเอาจี้หยกออกมาเลยทำให้เจ้าเสือดำไม่มีโอกาสได้เลีย

จนวันนี้เจ้าเสือดำถึงสบโอกาส

ถ้าเป็นเช่นนี้เจ้าเสือดำจะได้กลิ่นของหินมีดหรือเปล่านะ?

คนตระกูลจางอยู่ที่นี่มาโดยตลอด หลี่ฮ่าวคิดว่าถ้าหากหินมีดยังอยู่ที่นี่ควรจะอยู่ในตัวบ้านไม่น่าโดนฉกเอาไป และคงไม่มีใครว่างจนพกหินออกบ้านไปด้วยหรอก

อีกอย่าง?

เจ้าเสือดำฟังรู้เรื่องด้วย!

แล้วเขาก็กระปรี้กระเปร่าขึ้นมาทันที

ส่วนเรื่องกลิ่นนั้นเจ้าเสือดำไม่ได้กลิ่นอะไรทั้งสิ้น มันต้องเข้าใกล้มากๆ ถึงจะได้กลิ่น

ถ้าไม่รู้ตำแหน่งอาจจะพลาดได้

แต่ในเมื่อรู้แล้วเจ้าเสือดำก็ตั้งใจในทันที จมูกเริ่มขยับฟุดฟิดขณะหมอบลงบนพื้น จมูกของมันจรดพื้นแล้วไล่ดมกลิ่นไปเรื่อยๆ ทีละน้อย

ถ้าหลี่ฮ่าวหาของชิ้นนี้เจอ ไม่แน่ว่าตัวเราอาจจะได้ผลประโยชน์อะไรเหมือนเขาก็ได้

เจ้าเสือดำดมกลิ่นอย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนหลี่ฮ่าวเองก็ไม่ได้อยู่ว่างๆ เขาเริ่มค้นหาตามมุมบ้าน

ซอกกำแพง บนพื้น…

เงาโลหิตเองก็เคยค้นหาตามตำแหน่งพวกนี้มาก่อน แต่จากการคาดเดาของหลี่ฮ่าว คนพวกนี้ไม่รู้จักหน้าตาของหินมีด ไม่แน่ว่าอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีดของตระกูลจางเป็นแค่ก้อนหินก้อนหนึ่งเท่านั้น

เหมือนหลี่ฮ่าว ถ้าเขาบอกคนอื่นว่าจี้หยกทรงไม้กางเขนบริเวณหน้าอกของตนนั้นคือกระบี่ตระกูลหลี่ในบทเพลงพื้นบ้านล่ะก็คาดว่าคงไม่มีใครเชื่อ

พานคิดว่าเป็นคนบกพร่องทางสติปัญญา!

กระบี่ของตระกูลหลี่ มีดของตระกูลจาง ถ้าฟังจากบทเพลงพื้นบ้านเกรงว่าคงจะรู้สึกว่ากระบี่และมีดชิ้นนี้เป็นสมบัติล้ำค่า ถ้าไม่ใช่สมบัติล้ำค่าส่องแสงประกายระยิบระยับก็คงเป็นวัตถุที่ทรงพลังมากทีเดียว

แต่ในความเป็นจริงแล้ว กระบี่ของตระกูลหลี่เป็นเพียงจี้หยกชิ้นเล็กๆ ส่วนมีดตระกูลจางดันเป็นแค่ก้อนหินที่ไม่สะดุดตาอะไร

……

สิบนาที ยี่สิบนาที

หลี่ฮ่าวร้อนรนน้อยๆ หาไม่เจอแฮะ

หรือไม่อยู่ที่นี่แล้ว?

ไม่ใช่ว่าเงาโลหิตหาไม่เจอ หรือว่าตระกูลจางทำหายไปแล้วจริงๆ ไม่เพียงแต่ตัวเขาเองหาไม่เจอ เจ้าเสือดำเองก็ดมกลิ่นไม่เจอเช่นกัน

ถ้าเจ้าเสือดำได้เข้าใกล้ก็น่าจะได้กลิ่นอะไรบ้างสิ?

“ไม่มี!”

หลี่ฮ่าวไม่สามารถแช่อยู่ที่นี่ได้นาน เขาเพิ่งขู่ให้อีกฝ่ายตกใจแต่ไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะไม่กลับมาอีก

ยิ่งไปกว่านั้นเขาจะเอาแต่หาของอยู่ที่นี่ตลอดเวลาไม่ได้ ไม่ช้าหรือเร็วก็ต้องมีคนพบว่าตนมีเป้าหมายอื่นแฝงอยู่

เขายืนอยู่ที่มุมบ้านแล้วมองที่ห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก แล้วครุ่นคิดว่าถ้าหากตนเป็นคุณพ่อฟางเขาจะเอาก้อนหินชิ้นนั้นวางไว้ที่ไหน?

ถ้าคิดในมุมของคุณพ่อฟาง บางทีอาจจะคาดเดาอะไรได้

‘ตอนนั้นคุณอาจางโยนทิ้งโยนขว้างแทบไม่สนใจด้วยซ้ำ แล้วพอเรามาที่นี่อีกก็ไม่ได้สนใจว่าหินก้อนนั้นอยู่บนพื้นหรือเปล่า แต่หลังจากนั้นเราก็มาที่บ้านตระกูลจางอีกหลายครั้งก็เหมือนว่าจะไม่เห็นหินก้อนนั้นแล้ว ถ้ายังอยู่หลายปีขนาดนี้แล้วเราก็น่าจะยังเห็นสิ’

‘ไปได้มากทีเดียวว่าคุณอาจางจะไม่เก็บรักษาของชิ้นนั้นไว้ด้วยซ้ำ มิฉะนั้นตอนนั้นคงจะไม่โยนหินก้อนนั้นส่งๆ อย่างนั้นหรอก’

เขาย้อนคิดถึงเรื่องทั้งหมดในอดีตอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ว่าความทรงจำนั้นจะเลือนรางมากแล้วก็ตาม

แต่ในเวลานี้พอย้อนคิดกลับไปก็เหมือนว่าจะพอจำได้รางๆ

‘เสี่ยวหย่วนโดนด่าไปยกใหญ่ เหมือนว่าไม่ได้ออกมาเล่นกับเราตั้งสองสามวัน หลังจากนั้นเราไปอีก…หรือหลายแล้วนะ หินก้อนนั้นจะโดนคุณอาจางเก็บไปในช่วงตอนนั้นหรือเปล่า?’

‘แล้วเขาเก็บหินก้อนนั้นไปทำอะไร?’

‘เป็นไปได้มากทีเดียวว่าหินจะหายไปในช่วงนั้น มิฉะนั้นตั้งหลายปีดีดักมานี้เราก็จะต้องได้เห็นมันบ้างสิ’

หลี่ฮ่าวเคาะหัวของตนเอง

ตอนนั้นเด็กเกินไปจนจำได้ไม่แม่นแล้วจริงๆ

หลายวันระหว่างนั้นเกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง หรือไม่คุณอาจางเกิดรู้สึกว่าหินก้อนนั้นมันเกะกะขวางทางจนโยนทิ้งไปแล้วหรือเปล่านะ?

ถ้าหากโยนทิ้งไปแล้วจริงๆ…ก็คงจะหาไม่เจอแล้ว

ไม่รู้ว่าผ่านไปสิบกว่าปีหินก้อนนั้นโดนคนกวาดไปไหนแล้ว

‘ขนาดเจ้าเสือดำยังไม่ได้กลิ่น เป็นเพราะอยู่ไกลเกินไปหรือเพราะการรับรู้กลิ่นของมันโดนรบกวนกันนะ?’

‘ถ้าอยู่ไกลเกินไปก็ไม่มีอะไรต้องพูด แต่ถ้าเพราะการรับรู้กลิ่นของมันโดนรบกวนล่ะก็…’

ดวงตาหลี่ฮ่าววูบไหวทันที

ถ้าการรับรู้กลิ่นโดนรบกวนล่ะก็ สถานที่ทั้งสองแห่งนี้อาจจะมีความเป็นไปได้ที่สุด

สถานที่แห่งแรกห้องครัว

สถานที่ที่สองก็คือห้องน้ำ!

ในอดีตบ้านเก่าแก่ประเภทนี้ใช้กันแต่ส้วมหลุมไม่ได้มีชักโครกอะไร

และทางที่ดีที่สุดแน่นอนว่าจงอย่าเป็นแบบนั้น

‘จริงสิ…เหมือนห้องน้ำกับห้องครัวของเสี่ยวหย่วนเคยซ่อมตอนเราเด็กๆ ก้อนหินหนึ่งก้อน…อย่าบอกนะว่าโดนเอาไปใช้ต่อเติมแล้ว?’

พอหลี่ฮ่าวคิดได้เช่นนี้ก็เริ่มคาดเดาอย่างไม่แน่ใจนัก

นี่คือความเป็นไปได้ที่สุดแล้ว!

ถ้าหากว่าไม่ได้อยู่ในสถานที่ทั้งสองแห่งนี้ ก็หมดหนทางจะหาแล้วจริงๆ

‘คุณอาจางด่าเสี่ยวหย่วนเสร็จแล้ว เขาจัดการซ่อมห้องครัวก่อนหรือห้องน้ำก่อนนะ?’

ลืมไปแล้วแฮะ!

ทว่าในเวลานี้เองหลี่ฮ่าวแน่ใจว่าถ้าหินมีดยังอยู่ที่ตระกูลจางละก็ สถานที่สองแห่งนี้มีความเป็นไปได้มากที่สุดแล้ว

เขารีบเดินตรงดิ่งไปที่ห้องครัวอย่างไม่ลังเลสักนิด

ส่วนเรื่องส้วมหลุม… นอกเสียจากว่าจะหาในห้องครัวไม่เจอจริงๆ มิฉะนั้นเขาคงจะไม่ไปหาที่นั่นแน่ อีกอย่างถ้าหินมีดอยู่ในส้วมหลุมจริงๆ ต่อไปหลี่ฮ่าวคงไม่เอาของชิ้นนี้มาแช่น้ำดื่มแน่ แต่ถ้าให้เจ้าเสือดำกินก็ไม่แน่

อย่างไรเสียเขาก็ยังมีกระบี่ดาราพราย!

‘หวังว่าจะอยู่ที่ห้องครัวนะ!’

“เจ้าเสือดำตามฉันมา!”

หลี่ฮ่าวตะโกนอย่างรวดเร็ว แล้วเจ้าเสือดำก็รีบวิ่งตามไปทันที

ไม่มีคนใช้ห้องครัวมานานหลายปี เมื่อเขาผลักประตูเข้าไปด้านในก็พบว่าในครัวยังมีเตาเดียว กระทะเหล็กด้านบนเป็นสนิมเขรอะ ส่วนฝาหม้อนั้นถูกกัดกร่อนจนเละไปนานแล้ว

“รีบดมดูเร็ว!”

หลี่ฮ่าวชี้ไปที่เตาไฟ “เจ้าเสือดำ อย่าโดนกลิ่นรบกวนอีกล่ะ!”

ห้องครัวไม่ได้ใช้มานานแล้วก็จริง แต่เพราะถูกใช้มานานเกินไปเลยทำให้ยังเหลือกลิ่นของควันไฟเบาบางอยู่ กลิ่นแบบนี้อาจจะรบกวนเจ้าเสือดำได้ นอกจากนั้นยังมีกลิ่นควันและน้ำมันที่ยังลอยคละคลุ้งอยู่ด้วย

เจ้าเสือดำที่อยู่ในห้องครัวเกิดอาการวิงเวียนขึ้นมาแล้วจริงๆ นั่นเป็นเพราะห้องครัวยังมีกลิ่นเชื้อราอับๆ ด้วย

ก่อนหน้านี้เจ้าเสือดำก็เคยเข้ามาดมกลิ่นในห้องนี้แต่มันก็ไม่พบอะไร

เวลานี้พอได้ยินหลี่ฮ่าวกล่าวมันก็รีบกระโดดผลุงขึ้นเตาไฟแล้วเริ่มดมกลิ่นทีละน้อย

แล้วจมูกมันก็เปื้อนขี้เถ้าสีดำอย่างรวดเร็ว

แต่หลี่ฮ่าวเองก็ไม่ได้อยู่ว่าง ตำแหน่งที่ถูกต่อเติมภายหลังในห้องครัวไม่จำเป็นต้องดูอะไรมากมาย แต่เขาดูตำแหน่งที่ซ่อมแซมเกินสิบปีเป็นหลัก เพราะสถานที่พวกนั้นต่างหากที่เป็นไปได้อย่างมากว่าจะใช้หินมีดยัดเข้าไป

สถานที่แบบนี้คนมีอิทธิพลเบื้องหลังเงาโลหิตก็คงไม่อยากเสียเวลาดูมากมายนักหรอก

มีดของตระกูลจาง พวกเขาจะซ่อนเอาไว้ที่นี่เหรอ?

…………………………………………….

[1] 瞒天过海 (Mán tiān guò hǎi ปิดฟ้าข้ามทะเล ) เป็นกลยุทธทำให้ศัตรูคลายความระมัดระวังชะล่าใจลง แล้วคอยจนกระทั่งได้จังหวะและโอกาสเหมาะสมค่อยรุกเข้าโจมตีให้พินาศย่อยยับ มาจากเรื่องสามก๊ก

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา

Status: Ongoing
จี้หยกที่คิดว่าเป็นเพียงของดูต่างหน้า กลับนำมาซึ่งพลังเหนือธรรมชาติ…และความตาย!นิยายแฟนตาซี-กำลังภายในที่จะพาคุณไปไขปริศนาเบื้องหลังคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดลึกลับซึ่งนำไปสู่โลกของพลังเหนือธรรมชาติและการต่อสู้อันดุเดือด!ว่ากันว่า…ในโบราณกาล ณ ส่วนลึกของท้องฟ้ายามราตรีอันเต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพราวมีประตูสีแดงซึ่งถูกย้อมด้วยรอยเลือดและรอยไหม้ตั้งอยู่มาช้านานประตูซึ่งเป็นทางผ่านของแสงสว่าง ความมืด และตำนานอันไร้ที่สิ้นสุด…เมื่อเห็นเพื่อนสนิทตายไปต่อหน้าต่อตาอย่างกะทันหันจากไฟที่ลุกท่วมร่างอย่างไม่ทราบสาเหตุ‘หลี่ฮ่าว’ ซึ่งไม่เชื่อว่าการตายของเพื่อนเป็นอุบัติเหตุจึงลาออกจากมหาวิทยาลัยและเข้าทำงานในกองตรวจการณ์เพื่อสืบหาเบื้องหลังของเรื่องนี้และเพื่อล้างแค้นแทนเพื่อนสิ่งที่เขาไม่ได้บอกใครคือในคืนนั้นเขาได้เห็น ‘เงาโลหิต’ สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติในที่เกิดเหตุต่อมาหลี่ฮ่าวก็ได้เบาะแสสำคัญที่พิสูจน์ว่าคดีนี้ไม่ปกติเขาค้นพบว่าเพื่อนของเขาไม่ใช่เหยื่อรายแรก แต่เคยมีคดีทำนองนี้เกิดขึ้นแล้วถึงหกคดี!ที่น่าพิศวงยิ่งกว่านั้นคือเหยื่อทุกรายล้วนเป็นคนจากแปดตระกูลที่อยู่ในบทเพลงพื้นบ้านที่ร้องสืบต่อกันมาช้านานและตระกูลสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ก็คือ ‘ตระกูลหลี่’ ผู้ครอบครองกระบี่ ซึ่งก็คือตระกูลของเขาดูเหมือนว่าเป้าหมายของฆาตกรจะอยู่ที่อาวุธที่แต่ละตระกูลครอบครองอยู่และ ‘กระบี่’ ที่ว่านั่นก็ดันห้อยอยู่ที่คอเขาเนี่ยสินั่นหมายความว่าเหยื่อรายต่อไปคือตัวเขาเอง!ด้วยเหตุนี้ หลี่ฮ่าวจึงต้องหาทางเอาตัวรอดพร้อมกับสืบเรื่องนี้ต่อไปว่าแต่เจ้าจี้หยกรูปกระบี่นี่ดูเหมือนว่ามัน…จะมีพลังบางอย่าง…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท