STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา – ตอนที่ 26 หินมีด ล่าปีศาจ (1)

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา

ตอนที่ 26 หินมีด ล่าปีศาจ (1)

ณ หมู่บ้านฉี่หมิง

ตึก 6

ด้านล่างบันไดชั้นหนึ่งของตึกหกมีบ้านสุนัขเรียบง่ายอยู่หลังหนึ่ง ไม่นับว่าสะอาดนัก แถมยังมีกลิ่นสาบเตะจมูกอีกต่างหาก

นี่คือบ้านของเจ้าเสือดำ

ส่วนบ้านของหลี่ฮ่าวก็คือบ้านของหลี่ฮ่าว เพราะก่อนหน้านี้เขาทำงานตอนกลางวันเลยไม่ให้เจ้าเสือดำเข้าบ้าน อีกอย่างหากเอามันอยู่เฝ้าบ้านจริงๆ เจ้าเสือดำกลับไม่ชินเท่าไรนัก ใครจะมีเวลาพามันไปเดินเล่นกัน เจ้าเสือดำจึงต้องไปเดินเล่นเองเสมอ

เพียงแต่สองวันมานี้หลี่ฮ่าวใช้ให้เจ้าเสือดำคอยเฝ้าบ้านเพื่อสอดส่องเงาโลหิต

บ้านสุนัขเรียบง่ายของมันใช้เพียงเสื้อผ้าเก่าขาดวิ่น รวมถึงไม่รู้ว่าไปหาฟางข้าวใช้สร้างบ้านมาจากที่ใดอีกต่างหาก ส่วนหลี่ฮ่าวเองก็ออกแรงเอาเบาะโซฟาในบ้านที่ไม่ใช้แล้วยัดเข้าไปเป็นเตียงให้กับเจ้าเสือดำ

ปกติไม่มีใครสนใจเจ้าเสือดำอยู่แล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะมีใครช่วยทำความสะอาดบ้านให้มันเลย

หลี่ฮ่าวจอดรถจักรยานแล้วกวาดตามองบ้านสุนัขทีหนึ่ง เขาไม่ได้ยืนมองนานนักก็พุ่งตัววิ่งขึ้นตึกไปอย่างรวดเร็ว ในมือยังถืออาหารและกับข้าวที่เหลือไว้ด้วย สองวันมานี้เขายุ่งมากเลยไม่มีเวลาทำอาหาร อาหารสุนัขที่หมดอายุคงกินหมดแล้ว วันนี้เจ้าเสือดำคงหิวโซน่าดู

โชคดีที่เมื่อครู่หิ้วอาหารและกับข้าวที่เหลือมาด้วย หวังหมิงเป็นคนมีฐานะคนหนึ่ง อาหารที่สั่งก็อร่อยทั้งนั้น เจ้าเสือดำจะได้ลิ้มรสชาติด้วย

ชั้นบน

เพื่อนบ้านชั้นสองเปิดประตูออกมา

ตอนนี้ชั้นสองเหลือผู้อาศัยเพียงครอบครัวเดียวเท่านั้น ก่อนหน้านี้อยู่กันครบสองครอบครัวแต่มีครอบครัวหนึ่งย้ายออกไปแล้ว

คุณป้าเพื่อนบ้านเห็นหลี่ฮ่าวก็รีบกล่าวทักมาย “เสี่ยวฮ่าว กลับมาแล้วเหรอ!”

“ครับ ป้าจาง เลิกงานแล้วครับ”

หลี่ฮ่าวพยักหน้า ขณะที่จะเดินขึ้นไปข้างบน คุณป้าเพื่อนบ้านดูอึกอักแต่สุดท้ายก็เปิดปากเอ่ยว่า “เสี่ยวฮ่าว ไม่ใช่ว่าป้าจะว่าเธอหรอกนะ แต่เธออย่าเลี้ยงหมาจรจัดนั่นเลย พ่อแม่ของเธอจากไปทิ้งห้องชุดนี้ไว้ให้ ในบ้านเต็มไปด้วยความทรงจำ ตอนกลางวันเธอไม่อยู่ปิดหมาไว้ในบ้าน วันนี้ชั้นบนเสียงดังทั้งวันเลย ป้าว่าเจ้าหมาตัวนั้นคงรื้อบ้านเธอพังหมดแล้วแหละ!”

ดังทั้งวันเลยเหรอ?

หลี่ฮ่าวผงะเล็กน้อย ปกติเจ้าเสือดำว่าง่ายจะตายไป

รื้อบ้าน

ไม่หรอกมั้ง!

อีกอย่างตอนนี้เจ้าเสือดำเองก็คุยภาษาคนรู้เรื่อง หลี่ฮ่าวกำชับไว้แล้วว่าอย่ารื้อบ้านเละเทะเด็ดขาด

เธอกลับไปดูก็รู้เอง

คุณป้าข้างบ้านส่ายศีรษะเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายเล็กน้อย “อีกเรื่อง เสี่ยวฮ่าว ช่วงนี้เธอหงุดหงิดอะไรมาใช่ไหม”

“……”

หลี่ฮ่าวพูดไม่ออก นี่ไปเอามาจากไหนกัน?

คุณป้าครับ ผมไม่เป็นไร ป้าว่ามาได้เลยครับ

“แค่กๆ ก็เพราะไม่ใช่ว่าช่วงนี้พอเธอกลับบ้านมา ชั้นบนก็เสียงดังมากทุกวันเลยไม่ใช่เหรอ เสี่ยวฮ่าว เมื่อก่อนเธอออกกำลังกายไม่กี่นาทีเองนี่นา ตอนนี้…พูดตามตรง เธอ…เธอมีแฟนแล้วใช่ไหม?”

คุณป้าเพื่อนบ้านเอ่ยซุบซิบพร้อมแววตาลุกวาว “ถ้าเธอมีแฟนแล้วก็พามาดูตัวเถอะ แต่อย่า…แต่อย่าไปหาพวกผู้หญิงที่ไม่เข้าท่าพวกนั้นมาเลย!

“ตอนกลางวันเงียบกริบ แต่พอตกดึกกลับเสียงดังอึกทึกครึกโครม นี่ไม่ใช่คนปกติแล้วนะ!

คุณป้าเผยสีหน้าปวดใจขึ้นมา เวลานี้เกรงว่าสมองของหล่อนคงผุดฉากนั้นขึ้นมาแล้ว

ส่วนเรื่องที่หลี่ฮ่าวทำอะไรเสียงดังตอนกลางคืน หล่อนพอจะนึกออก คงเป็นเพราะเรียกผู้หญิงไม่เข้าท่าพวกนั้นมาจากด้านนอกแน่นอน

ก็ใช่ วัยรุ่นนี่นา!

ช่วงเลือดร้อนพลุ่งพล่าน แถมไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนอีกต่างหาก ย่อมมีความคิดเช่นนั้นอยู่แล้ว

“……”

หลี่ฮ่าวอ้าปากค้าง ผ่านไปพักใหญ่ถึงเอ่ยอย่างกระอักกระอ่วนใจว่า “คุณป้าเข้าใจผิดแล้วครับ ผมแค่ออกกำลังกายเท่านั้น! ครั้งหน้าจะระวังมากกว่านี้ ผมลืมไปเลยว่าตึกเก่าของเราไม่ค่อยเก็บเสียง”

“ฉันเข้าใจ!”

คุณป้าเผยสีหน้าแฝงนัยยะบางอย่างเชิงว่าเข้าใจแล้ว

พ่อหนุ่ม วางใจได้ ฉันไม่แพร่งพรายออกไปหรอก

หลี่ฮ่าวเผยสีหน้าเอือมระอา

เขาเข้าใจความหมายของคุณป้า เอาเถอะ พรุ่งนี้ตอนเขาไม่อยู่บ้าน ในหมู่บ้านคงซุบซิบไปทั่วว่าหลี่ฮ่าวเรียกผู้หญิงอย่างว่ามาร่วมหลับนอนด้วยทุกวัน พอร่วมรักกันทีก็ยาวยันเช้า

เขาจนปัญญาจะอธิบาย ในเมื่ออธิบายไปก็ไม่ฟัง!

หลี่ฮ่าวเองก็ไม่ได้อธิบายอะไรแล้วก้าวขึ้นบันไดไป

ทว่าวินาทีต่อมาแทบทำเอาหลี่ฮ่าวล้มหน้าคะมำบันไดเลยทีเดียว

“เสี่ยวฮ่าว ถ้าหาผู้หญิงมาจริงๆ…ก็ได้ แต่เธออย่า…คิดอะไรกับหมาเชียวนะ!”

“……”

หลี่ฮ่าวเกือบสะดุดล้ม เวลานี้ปรมาจารย์นักรบสิบสังหารคนหนึ่งถูกโจมตีพ่ายแพ้อย่างแท้จริงแล้ว!

ทว่าคุณป้ากลับเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีปวดใจเล็กน้อยว่า “เมื่อก่อนตอนเจ้าหมาดำตัวนั้นอยู่ข้างล่าง บ้านเธอก็ไม่เห็นมีเสียงดังครึกโครมอะไร แต่พอเธอพากลับบ้านไปสองวัน ขนาดค่ำมืดดึกดื่นยังเสียงดังเลย…ไม่ใช่ว่าป้าคิดมากไปหรอกนะ เธออย่าเข้าใจผิด แต่ว่าเธอต้องระวังหน่อย แบบนี้ไม่ดีเลยจริงๆ”

ทำเอาหล่อนอดคิดไม่ได้นี่นา

ดูสิ ก่อนหน้านี้ตอนเจ้าเสือดำอยู่ข้างนอก บ้านเงียบกริบไม่มีเสียงใด แต่พอตอนนี้พาเจ้าเสือดำมาอยู่ในบ้าน พอตกดึกก็เสียงดังสนั่น หล่อนจะไม่รู้เลยเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น?

“……”

หลี่ฮ่าวหนีขึ้นบันไดด้วยท่าทีขัดเขิน จากนั้นก็รีบเอ่ยว่า “ผมจะรีบเอาเจ้าเสือดำลงมาเลยครับ คุณป้าจาง เข้าใจเรื่องนี้ผิดแล้วจริงๆ!”

ใส่ความว่าเราหาผู้หญิงยังพอว่า แต่จะใส่ความว่าเราไปหาหมาไม่ได้นะ!

“อืม งั้นก็ดี!”

คุณป้าจางไม่ได้ยุ่มย่ามมากนัก ขอแค่เอาสุนัขลงมาก็พอ พ่อหนุ่มน้อยไม่เดินผิดทางก็ดีแล้ว

……

เปิดประตู

เข้าบ้านมา

ปิดประตู!

หลี่ฮ่าวถอนหายใจ เวลานี้ถึงเหลือบเห็นเจ้าเสือดำที่กำลังจับจ้องตนอยู่ หลี่ฮ่าวเผยสีหน้าระอาหมดคำพูด “ได้ยินแล้วใช่ไหม?”

พละกำลังต่อสู้ของคุณป้าจางแข็งแกร่งไม่เบา แม้แต่เขายังตกใจไม่หาย

“โฮ่งๆ!”

“พูดให้น้อยๆ หน่อย กลับลงไปอยู่บ้านแกเลย”

“โฮ่ง!”

เจ้าเสือดำไม่ค่อยชอบใจนัก บ้านสุนัขของมันกลิ่นเหม็น แล้วจะคู่ควรกับขนของมันในเวลานี้ได้เหรอ?

ดูสิ เงาวาวนุ่มมือเชียวนะ

ถ้าลงไปแล้ว บ้านสุนัขมีกลิ่น แบบนี้จะไม่ติดขนงามของมันหรือไร?

“ลงไป!”

หลี่ฮ่าวยักคิ้วแล้วกำหมัดทำมือเป็นรูปก้อนหิน จากนั้นเจ้าเสือดำก็เข้าใจในทันที

หิน!

หินล้ำค่า เข้าใจแล้ว

ในเมื่อต้องลงไปหาหิน เช่นนั้นสุนัขอย่างมันก็ต้องไป

ไม่จำเป็นต้องให้หลี่ฮ่าวพูดต่อ เจ้าเสือดำก็รีบเปิดประตูอย่างรวดเร็ว…ใช่แล้ว เจ้าหมอนี่เปิดประตูเองได้

พอประตูเปิดออก พวกเขาหนึ่งคนหนึ่งสุนัขก็พุ่งลงไปข้างล่างด้วยความเร็ว

ประตูชั้นสองปิดแล้ว พอคุณป้าได้ยินเสียงหลี่ฮ่าวพาสุนัขลงมาก็พยักหน้าเล็กน้อย โชคดีที่พ่อหนุ่มน้อยกลับตัวกลับใจได้แล้ว!

……

ชั้นล่าง

เวลานี้ถือว่าไม่ดึกมากนัก ในหมู่บ้านยังมีคนเดินสัญจรไปมาอยู่เรื่อยๆ

หลี่ฮ่าวเองก็ไม่ได้สนใจ เขาอยากให้มีคนเดินผ่านไปมาพลุกพล่านอยู่แล้ว เพราะยามที่คนพลุกพล่าน เงาโลหิตจะไม่ปรากฏตัว

“เจ้าเสือดำ กินหน่อยแล้วกัน จานกินข้าวไปไหนแล้วล่ะ?”

หลี่ฮ่าวมุดเข้าไปในบ้านสุนัขแล้วลูบๆ คลำๆ อยู่พักหนึ่ง จากนั้นหินก้อนหนึ่งก็ถูกเขาหยิบติดไม้ติดมือมาเก็บไว้ใต้เสื้อแขนยาว

พอคว้าหินมีดที่ซ่อนเก็บไว้อย่างดีมาได้ หลี่ฮ่าวก็จัดการเอาข้าวและกับข้าวที่เหลือเทให้เจ้าเสือดำอย่างลวกๆ จากนั้นก็เอ่ยเสียงเบา “ช่วยฉันจับตาดูไว้ให้ดี ถ้าเจ้านั่นปรากฏตัวก็ไม่เป็นไร แกอย่าลืมร้องบอกหน่อยแล้วกัน!”

“โฮ่งๆ!”

เจ้าเสือดำพยักหน้า นัยน์ตาฉายแววหวาดผวา เพราะมันเองก็กลัวเจ้านั่นเหมือนกัน

แต่ถ้าให้เห่าสักทีสองทีก็ไม่ใช่ปัญหา

………………………………………………………………………………

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา

STARGATE ปริศนาประตูแห่งดารา

Status: Ongoing
จี้หยกที่คิดว่าเป็นเพียงของดูต่างหน้า กลับนำมาซึ่งพลังเหนือธรรมชาติ…และความตาย!นิยายแฟนตาซี-กำลังภายในที่จะพาคุณไปไขปริศนาเบื้องหลังคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดลึกลับซึ่งนำไปสู่โลกของพลังเหนือธรรมชาติและการต่อสู้อันดุเดือด!ว่ากันว่า…ในโบราณกาล ณ ส่วนลึกของท้องฟ้ายามราตรีอันเต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพราวมีประตูสีแดงซึ่งถูกย้อมด้วยรอยเลือดและรอยไหม้ตั้งอยู่มาช้านานประตูซึ่งเป็นทางผ่านของแสงสว่าง ความมืด และตำนานอันไร้ที่สิ้นสุด…เมื่อเห็นเพื่อนสนิทตายไปต่อหน้าต่อตาอย่างกะทันหันจากไฟที่ลุกท่วมร่างอย่างไม่ทราบสาเหตุ‘หลี่ฮ่าว’ ซึ่งไม่เชื่อว่าการตายของเพื่อนเป็นอุบัติเหตุจึงลาออกจากมหาวิทยาลัยและเข้าทำงานในกองตรวจการณ์เพื่อสืบหาเบื้องหลังของเรื่องนี้และเพื่อล้างแค้นแทนเพื่อนสิ่งที่เขาไม่ได้บอกใครคือในคืนนั้นเขาได้เห็น ‘เงาโลหิต’ สิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติในที่เกิดเหตุต่อมาหลี่ฮ่าวก็ได้เบาะแสสำคัญที่พิสูจน์ว่าคดีนี้ไม่ปกติเขาค้นพบว่าเพื่อนของเขาไม่ใช่เหยื่อรายแรก แต่เคยมีคดีทำนองนี้เกิดขึ้นแล้วถึงหกคดี!ที่น่าพิศวงยิ่งกว่านั้นคือเหยื่อทุกรายล้วนเป็นคนจากแปดตระกูลที่อยู่ในบทเพลงพื้นบ้านที่ร้องสืบต่อกันมาช้านานและตระกูลสุดท้ายที่ยังเหลืออยู่ก็คือ ‘ตระกูลหลี่’ ผู้ครอบครองกระบี่ ซึ่งก็คือตระกูลของเขาดูเหมือนว่าเป้าหมายของฆาตกรจะอยู่ที่อาวุธที่แต่ละตระกูลครอบครองอยู่และ ‘กระบี่’ ที่ว่านั่นก็ดันห้อยอยู่ที่คอเขาเนี่ยสินั่นหมายความว่าเหยื่อรายต่อไปคือตัวเขาเอง!ด้วยเหตุนี้ หลี่ฮ่าวจึงต้องหาทางเอาตัวรอดพร้อมกับสืบเรื่องนี้ต่อไปว่าแต่เจ้าจี้หยกรูปกระบี่นี่ดูเหมือนว่ามัน…จะมีพลังบางอย่าง…

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท