ตอนที่ 31 ผู้ตรวจการณ์ตัวน้อยผู้มีน้ำใจ (4)
ทั้งสองสบตากันทีหนึ่งก็ยิ้มรับ
เกรงใจกันจังเลยนะ!
มีน้ำใจจังเลยนะ!
มาก็มาแล้ว ทำความรู้จักกันหน่อยก็ดีเหมือนกันแฮะ
สองคนพยักหน้าแล้วเดินไปพร้อมกับหลี่ฮ่าว หลี่ฮ่าวพาพวกเขาเดินไปจนสุดระเบียงทางเดิน ระหว่างที่เดินก็พูดคุยกันไปว่า “ผมเป็นเด็กใหม่ ที่นี่มีเจ้าหน้าที่อาวุโสเยอะ ถ้าถูกเห็นเข้า ทุกคนจะ…เอ่อ พวกคุณรู้ดี! เราไปห้องชั้นใต้ดินกัน ที่นั่นไม่มีใคร เราดื่มน้ำชากันนะครับ ครั้งนี้ต้องขอบคุณพวกคุณทั้งสองที่ช่วยจริงๆ!”
หลี่ฮ่าวพาพวกเขาเดินลงบันไดพร้อมรอยยิ้มที่ไม่เคยจางหายไปจากใบหน้า
“ลืมถามเลย ไม่ทราบว่าพี่ชายสกุลอะไรเหรอครับ”
“ไม่ต้องทางการขนาดนั้นหรอก ผมโจวเฮ่อ ส่วนคนรักของผมแซ่หยวน”
“พี่โจว พี่หยวน!”
หลี่ฮ่าวเองก็ปากหวาน
ครู่เดียวก็ย่นระยะห่างให้ใกล้เข้ามาได้
ไม่นานก็พาทั้งสองมาถึงชั้นแรกของใต้ดิน กองบัญชาการของทีมล่าปีศาจอยู่ตรงหน้านี้เอง ห้องชั้นใต้ดินไม่ได้มืดขนาดนั้น ตรงกันข้ามกลับสว่างมากพอสมควร
“ข้างหน้านี้เอง ทางนี้ไม่ค่อยมีใครโผล่มา พี่โจว พี่หยวน มองดูก็รู้ว่าต้องเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต หลังจากนี้ถ้าต้องการอะไรก็บอกได้เลยนะครับ…ผม ชอบช่วยคนอื่นแก้ปัญหามากที่สุดเลย!”
โจวเฮ่อจุดยิ้มมาตลอดทาง ช่างเป็นเด็กที่ไรเดียงสาเสียจริง
หญิงสาวเองก็คล้อยตามหลี่ฮ่าวมาตลอด ผู้ตรวจการณ์ที่กระตือรือร้นขนาดนี้ช่างหายากนัก
น่าเสียดาย!
จากนั้นหลี่ฮ่าวก็ผลักประตูพาทั้งสองเดินเข้าห้องใต้ดินไปพร้อมกัน หรืออาณาเขตที่ทีมล่าปีศาจใช้ทำกิจกรรมยามพักผ่อนนั่นเอง
หลี่ฮ่าวพาทั้งสองเข้าไปด้วยท่าทีกระตือรือร้นแล้วปิดประตูห้องชั้นใต้ดิน
ประตูบานนี้…ไม่ธรรมดาจริงๆ!
เก็บเสียงได้ขั้นสุดยอด ปกป้องได้อย่างดี อย่าว่าแต่คนเลย แม้แต่ระเบิดยังยากจะทะลุเข้ามาได้
พอปิดประตูแล้วยังต้องใช้รหัสลายนิ้วมืออีก ไม่อย่างนั้นก็ออกไม่ได้
ครั้นเห็นหลี่ฮ่าวปิดประตู โจวเฮ่อก็แอบรู้สึกตงิดใจหน่อยๆ ส่วนหลี่ฮ่าวพอปิดประตูไปก็เอ่ยยิ้มๆไป “ปิดดีกว่า เผื่อคนอื่นเข้ามาแล้วคิดว่าผมกำลังอู้!”
โจวเฮ่อไม่ปริปากพูดอะไรอีก
จากนั้นโจวเฮ่อก็สีหน้าเปลี่ยนไป เขาดูเฟอร์นิเจอร์ในห้องแวบหนึ่ง แววตาพลันก็เปลี่ยนไปน้อยๆ
นี่ไม่ใช่ห้องรับแขก และไม่ใช่ห้องพักผ่อนอะไร
ที่นี่ ดูเหมือน…จะเป็นจุดนัดหมายขนาดใหญ่!
อุปกรณ์ออกกำลังกาย ระเบิดปืนกลมีครบครัน ยิ่งไปกว่านั้นเหมือน…คลังเก็บอาวุธมากกว่า!
ที่นี่คือที่ไหนกันนะ
วินาทีนี้โจวเฮ่อเริ่มไม่สบายใจขึ้นมาแล้ว สถานที่แบบนี้ให้คนนอกอย่างเราเข้ามาได้ด้วยหรือ
หญิงสาวข้างกายเขาก็สีหน้าเปลี่ยนไปเช่นกัน
เพราะพวกเขาเห็นปืนตรงนั้น ถึงขั้นมีปืนรถถังขนาดเล็กด้วย บ้าเอ้ย!
นี่เป็นสถานที่ที่คนทั่วไปสามารถเข้ามาได้ด้วยหรือ
ทั้งสองรู้สึกไม่สบายใจและกังวลอย่างหนักหน่วงขึ้นมาชั่วขณะ พวกเขาแค่อยากมาตีสนิทกับหลี่ฮ่าว แต่ทำไมถึงโผล่มาที่นี่ได้ล่ะ
ส่วนหลี่ฮ่าวปิดประตูเรียบร้อยแล้ว
ดีใจจัง!
พวกเขาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขัดขืนเลยสักนิด สบายจัง
ความรู้สึกดั่งสำนวนที่ว่าเชิญท่านลงโอ่งแบบนี้ ช่างสบายจังแฮะ
ถือจังหวะตอนที่โจวเฮ่อเหม่อลอย หลี่ฮ่าวก็ตบบ่าโจวเฮ่อจากด้านหลังยิ้มเอ่ย “พี่โจว ที่นี่ไม่มีใคร เงียบ…”
จากนั้นก็งอเข่าขึ้น
กระแทกเข่าใส่ทีเดียว!
พลั่ก!
เสียงดังก้องกังวาน โจวเฮ่อพยายามงอตัวอย่างสุดความสามารถเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้โดนจุดสำคัญ แต่ก็ถูกหลี่ฮ่าวกระแทกเข่าใส่เอวด้านหลังจนความรู้สึกเจ็บปวดแผ่ซ่านไปทั่วร่างในพริบตา!
แย่แล้ว!
วินาทีนี้ ความคิดแรกที่ผุดขึ้นในหัวโจวเฮ่อนั่นก็คือ เราหลงกลเข้าแล้ว!
แถมยังมาหาถึงที่เองด้วย!
หญิงสาวข้างๆ ก็สีหน้าเปลี่ยนไป ไม่พูดพร่ำทำเพลงพลันก็ชักมีดสั้นเล่มหนึ่งที่เหน็บอยู่ด้านในต้นขาออกมา จากนั้นก็เอามีดสั้นแทงไปยังหลี่ฮ่าว!
……
จุดลึกสุดของห้องชั้นใต้ดินในเวลานี้กลับมีคนบางกลุ่มกำลังจับตาดูอยู่เงียบๆ
หลิวหลงก็อยู่ด้วยเช่นกัน!
สายตาของเขาดูซับซ้อนและแปลกใจพิกล
กลยุทธ์ปิดประตูตีแมว เชิญท่านลงโอ่ง!
นี่…มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ
หลี่ฮ่าวขี้ขลาดจริงหรือ
เราว่าเขาอาจหาญมากกว่า!
นี่เป็นเรื่องที่คนทั่วไปกล้าทำด้วยเหรอ
“ถ้าครั้งนี้หมอนี่เอาชีวิตรอดไปได้…อนาคต…คงโหดไม่เบา!”
อู๋เชาร่างผอมสูงชะลูดเหมือนเสาธงพูดเสียงเนือยมาประโยคหนึ่ง
เฉินเจียนร่างอ้วนท้วมกลับเก็บรอยยิ้มโง่ๆ นั้นไป เพราะหมอนี่…ร้ายขะมัด!
วันนี้อวิ๋นเหยากับหลิวเยี่ยนกลับไม่พูดอะไร แค่จับตาดูอยู่เงียบๆ
ผ่านไปพักใหญ่หลิวหลงก็เปรยเสียงเบา “เป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อดีจริงๆ…คนหนึ่งขอบเขตสิบสังหาร อีกคนถึงแม้ว่าจะยังไม่ได้เป็นสิบสังหาร แต่ก็เคยลงสนามมาก่อน! ดูเหมือนฝั่งนั้นจะไม่ธรรมดา ลำพังแค่คนรับหน้าที่คอยเฝ้าจับตาดูอย่างสองคนนี้ยังอยู่ในขอบเขตสิบสังหารแล้วเลย!”
ขอบเขตสิบสังหาร ฟังดูไม่เท่าไร แต่หลิวหลงรู้ว่าทั้งเมืองหยิน ประชากรหลักล้าน ปรมาจารย์สิบสังหารกับปรมาจารย์แสงดารา เกรงว่าจะมีไม่ถึงร้อยคนด้วยซ้ำ!
หาตัวไม่ใช่ง่ายๆ!
แถมตอนนี้หนึ่งในนั้นยังมีหน้าที่แค่คอยจับตาดูเท่านั้นด้วย
หลี่ฮ่าว ลงสนามจริงครั้งแรกจะรับมือกับสองคนนี้ได้ไหมนะ
ต่อให้สองคนนี้จะรู้ตัวว่าหลงกลแล้ว แต่มองปราดเดียวก็รู้ว่าไม่ใช่มือใหม่ แต่ช่ำชองมากแล้วต่างหาก
ยามนี้สมาชิกทีมล่าปีศาจทั้งห้าคน กำลังดูการต่อสู้อย่างออกรส
……
ในสนาม
หลี่ฮ่าวชิงลงมือก่อน ไม่พูดพร่ำทำเพลงคอยโจมตีใส่เรื่อยๆ!
พยัคฆ์กระโจน!
เขางอมือทั้งสองพลางโจมตีใส่อย่างไร้ซึ่งความปรานีใด นี่ไม่ใช่การประลอง หลี่ฮ่าวถือว่าประสบการณ์ครั้งแรกเป็นของขวัญต้อนรับวันบรรลุนิติภาวะของตนและเป็นของขวัญสำหรับการเลื่อนขั้นขอบเขตสิบสังหาร!
เงาโลหิตจะฆ่าเรา…เช่นนั้นเราจะรอถูกฆ่าอย่างเดียวไม่ได้!
ฉันจัดการฆ่าพวกเขาสองคนก่อนค่อยว่ากัน ต่อให้เป็นแค่คนตัวเล็กๆ ก็ต้องทำให้พวกแกเสียเปรียบให้ได้!
พรวด!
สองมือจิกแขนโจวเฮ่อพร้อมตะกุยคว้าเนื้อชิ้นใหญ่ติดมือมาด้วยจนเลือดสาดกระจาย หลี่ฮ่าวแยกเขี้ยวใส่ ตอนนี้เลือดในม้ามกำลังสูบฉีดเดือดพล่านเหมือนกำลังตื่นเต้นมาก ทว่า…ขาดก็แต่ความรู้สึกหวาดกลัว!
คิดว่าฉันกลัวพวกแกหรือ
ต่อให้เงาโลหิตอยู่ต่อหน้า ฉันก็กล้าลงมืออย่างโหดเหี้ยม ยิ่งไปกว่านั้นพวกแกก็เป็นมนุษย์เหมือนกันด้วย!
“กรรซ์!”
พยัคฆ์คำรามก้องป่า ห้องชั้นใต้ดินกลายเป็นสนามรบในพริบตา และเป็นสนามรบแรกของหลี่ฮ่าวอย่างแท้จริง
………………………………………………………………