ตอนที่ 42 การกลับมาของจอมมารหยวนซั่ว (2)
แน่นอนว่าหยวนซั่วเป็นฝ่ายได้เปรียบ การจู่โจมรัวๆ อย่างแกร่งกล้าเมื่อครู่ทำเอาปรมาจารย์เซียนคนนั้นกระอักเลือดเลยทีเดียว เขากับผู้แข็งแกร่งพลังสายฟ้าล้วนเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตา แต่…ถ้าไม่สามารถถล่มอีกฝ่ายให้อาการสาหัสได้ในทีเดียว จากสถานการณ์ตอนนี้ทุกอย่างก็ยังถือว่าไม่แน่นอน!
……
“บ้าเอ้ย!”
ตอนนี้หลิวหลงเองก็ตกตะลึงไม่ต่างกัน
“พันยุทธ์!”
แววตาของเขาดูตะลึงปนกระหายและอัศจรรย์ใจไปพร้อมกัน
หยวนซั่วกลับเลื่อนขั้นเป็นพันยุทธ์แล้ว!
พวกหลิวเยี่ยนเพิ่งมาถึงเมื่อครู่ พอทีมล่าปีศาจได้รวมตัวกันก็ร่วมมือกับผู้พิทักษ์รัตติกาลทั้งสามคน ตอนนี้ถึงขวางผู้มีพลังเหนือธรรมชาติสี่คนไว้ได้
แต่เพิ่งจะปะทะกันได้ครู่เดียวก็เกิดการปะทุของสงครามครั้งใหญ่อย่างน่าเหลือเชื่อจากตรงนั้น
หยวนซั่ว!
กับสุดยอดผู้แข็งแกร่งที่อยู่เหนือสุริยะพรายคนหนึ่ง
ในค่ำคืนนี้เมืองเล็กๆ อย่างเมืองหยินกลับปรากฏสงครามการต่อสู้ของผู้ที่อยู่เหนือสุริยะพรายให้เห็น!
หลิวหลงตะโกนเสียงดังภายใต้ความตกตะลึง “ฆ่า!”
ต้องหาวิธีฆ่าพวกที่ขวางหน้าไว้ให้ได้ เกรงว่า…หยวนซั่วคงไม่สามารถต้านทานผู้แข็งแกร่งระดับนั้นได้
พันยุทธ์ ก็เทียบเท่าแค่สุริยะพรายเท่านั้น
……
กลางอากาศ
หยวนซั่วใช้เท้ายันพื้นกระโดดขึ้นกลางอากาศอีกครั้ง ท่าทางบ้าคลั่งไม่เชื่องช้าเหมือนชายวัยชราเลยสักนิด มือกำหมัดสองข้างต่อยออกไปหมัดแล้วหมัดเล่า หมัดข้างขวามีหินก้อนขนาดไม่ใหญ่อยู่ด้วย เขาต่อยหมัดออกไปครั้งแล้วครั้งเล่าเหมือนสวมสนับมือก็มิปาน
เดิมทีผู้แข็งแกร่งผมยาวคนนั้นไม่ได้สนใจสนับมือนั่น…
แต่ไม่นานเมื่อเขาถูกสนับมือต่อยโดนตัว เกราะป้องกันพลังลี้ลับตรงหน้าอกก็ถูกสนับมือนั่นต่อยจนทะลุ หยวนซั่วอาศัยจังหวะนี้ทลายอวัยวะภายในของเขาจนแหลกละเอียด ผู้แข็งแกร่งผมยาวถึงรู้สึกอึ้งไปประมาณหนึ่ง
นี่มันอะไร
วัตถุเหนือธรรมชาติหรือ
เจ้าสิ่งนี้สามารถทลายเกราะป้องกันของเขาจนทำลายอวัยวะภายในของเขาได้โดยตรงด้วย
อีกอย่างมีพลังลี้ลับหนักหน่วงอย่างหนึ่งทะลักเข้าสู่ร่างกายเขาจนทำลายเกราะป้องกันตัวของเขาในครั้งเดียว
ส่วนหยวนซั่วยังคงโจมตีอย่างหนักหน่วงไม่หยุด
ในเมื่อปรมาจารย์นักรบได้เปรียบ เมื่อนั้นจะต้องทำการโจมตีต่อเนื่องกระทั่งอีกฝ่ายถูกตนตีจนตายหรือสูญเสียพลังต่อสู้อย่างสิ้นเชิง
หลี่ฮ่าวก็เรียนรู้มาจากเขาเช่นกัน
หยวนซั่วเคยบอกไว้ว่ามีเพียงศัตรูไม่อาจลุกยืนได้อีกหรือล้มแน่นิ่งไปแล้ว หมดเรี่ยวแรงที่จะขัดขืน เมื่อนั้นถึงจะเป็นชัยชนะของเรา!
……
หลี่ฮ่าวในตอนนี้ตกใจจนชะงักเล็กน้อย
เขาทอดมองออกไป พอเห็นพื้นแยกเป็นหลุมใหญ่จากฝีมือสุดยอดผู้แข็งแกร่งทั้งสองคนก็ตกตะลึงไม่น้อย นี่มันฝีมือมนุษย์หรือ
นี่เป็นพันยุทธ์หรือ
นี่ต่างหากพันยุทธ์!
ใช่แล้ว ในความคิดเขาถึงพันยุทธ์จะแข็งแกร่ง แต่ยังอาศัยพลังกายตัวเองทำให้พลังการทำลายล้างมีขีดจำกัด ใช่ว่าจะสู้พลังทำลายล้างของอาวุธระเบิดมืออานุภาพร้ายแรงได้…แต่ความจริงได้พิสูจน์แล้ว เขายังเจอโลกน้อยเกินไป
หยวนซั่วใช้เท้ายันพื้นจนพื้นปริร้าวในทันที
ปราณโลหิตแผดเผาร้อนระอุดั่งเตาเผาจริงๆ แม้แต่น้ำฝนที่ตกจากฟากฟ้ายังระเหยเป็นไอกลายเป็นเขตพื้นที่ไร้ฝน
นี่เป็นสิ่งที่ระเบิดมือจะสู้ได้หรือ
จากนั้นกระบวนท่าแล้วกระบวนท่าเล่า เกรงว่าระเบิดกองใหญ่ก็ยังสู้พลังทำลายล้างของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ ยิ่งกว่านั้นนี่คือมนุษย์ มนุษย์ตัวเป็นๆ อีกต่างหาก
มิน่าทางกองทัพถึงใช้งานผู้มีพลังเหนือธรรมชาติน้อยลงเรื่อยๆ!
การมีอยู่ของลำดับขั้นจันทราทมิฬก่อนหน้านี้ทำให้หลี่ฮ่าวคิดว่าขอแค่มีคนสักสิบถึงยี่สิบคนร่วมมือกันวางแผนฆ่าจันทราทมิฬหรือทะลวงร้อยคงไม่ใช่ปัญหาอะไร
แต่เมื่อผู้แข็งแกร่งระดับพันยุทธ์ออกตัว หลี่ฮ่าวก็รู้แล้วว่าต่อให้มีคนเป็นพันพร้อมอาวุธครบครัน…นอกจากอีกฝ่ายจะโง่เขลาคิดจะสู้กับคุณซึ่งๆ หน้า ไม่อย่างนั้นคุณคงไม่สามารถทำอะไรอีกฝ่ายได้เลย
ในทางกลับกันขอเพียงอีกฝ่ายระมัดระวังตัวสักนิด หาโอกาสจู่โจม ต่อให้เป็นกองทัพทหารพันนายก็ต้องพ่ายแพ้!
“น่ากลัว!”
หลี่ฮ่าวพึมพำคนเดียว ตอนนี้เขามองไปยังเงาโลหิตที่อยู่ตรงหน้า
เงาโลหิตกลับช่วยบังคลื่นพลังแทนเขา…ดีจัง!
เงาโลหิตนี่ก็แข็งแกร่งมากเช่นกัน
เขากลับต้านคลื่นพลังปะทะกันของสุดยอดผู้แข็งแกร่งสองคนไว้ได้
หลี่ฮ่าวลูบไล้กระบี่เล่มน้อยในมือตัวเองไปมาพลางยิ้มขมขื่น กระบี่ยังไม่ถูกเปิดผนึก ก่อนหน้านี้ยังทำลายเงาโลหิตถึงขั้นปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้นได้ แต่นี่…อาจจะไม่ไหวหรอกมั้ง
กระบี่เล่มเล็กมีพลังทำลายล้างขีดจำกัด เกรงว่าคงจะไม่ไหว
ทว่าทางฝั่งอาจารย์กลับแข็งแกร่งมาก!
โจมตีใส่ระรัวจนได้เปรียบ แต่หลี่ฮ่าวเข้าใจดีว่าอาจารย์น่าจะเป็นรองอีกฝ่ายอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นภายใต้การลอบจู่โจมเช่นนี้ ถ้าอีกฝ่ายมีความสามารถเทียบเท่ากับเขา เขาคงกำราบอีกฝ่ายได้ตั้งนานแล้ว!
การประลองของผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริงนั้นต้องมีความสามารถสูสีกัน ไม่อย่างนั้นในสถานการณ์ทั่วไปการต่อสู้ต้องจบลงอย่างรวดเร็วแน่นอน
ขณะนั้นเองหลี่ฮ่าวก็เห็นเงาโลหิตขยับตัวทำท่าเหมือนจะไป
ใช่แล้ว เงาโลหิตพร้อมที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ ไม่ใช่อยู่เพื่อปกป้องหลี่ฮ่าวอีกต่อไป
หากผู้แข็งแกร่งผมยาวคนนั้นได้รับความช่วยเหลือจากเงาโลหิต เกรงว่าอาจารย์จะลำบาก
เห็นได้ชัดว่าหมอนั่นได้สติแล้ว กระทั่งรู้ว่าต้องรีบจัดการหยวนซั่วโดยเร็วที่สุด
“ไป…”
ถ้าเงาโลหิตโผล่ไปต่างหากถึงจะเป็นปัญหาใหญ่
หลี่ฮ่าวกลัวตายและกลัวบาดเจ็บ และยิ่งไปกว่านั้นกลัวว่าจะแทงโดนตัวเองจนตาย
แต่ตอนนี้เขาไม่ลังเลใดๆ กำจี้หยกกระบี่ในมือแน่นแล้วแทงลงกลางหัวใจ!
เลือดหัวใจ!
อาจารย์บอกว่าอาจจะช่วยเปิดผนึกกระบี่ได้ ส่วนจะได้ผลหรือไม่นั้น…ลองดูก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ
ความรู้สึกเจ็บแผ่ซ่านทั่วร่าง!
หลี่ฮ่าวคิดว่าตนอาจจะแทงลึกเกินไป ถ้าแทงจนหัวใจทะลุจะตายหรือเปล่านะ
ไม่รู้สิ!
แต่ใครจะสนกันเล่า!
แต่เขาต้องรั้งเงาโลหิตนี้ไว้ให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ห้ามเจ้าเงาโลหิตเข้าร่วมการต่อสู้นั้นเด็ดขาด
หลังจากกระบี่เล่มเล็กถูกเปิดผนึกจะทำได้อย่างที่ว่าหรือเปล่านะ
ใครจะไปรู้กันล่ะ!
เดิมพันกันสักตั้งแล้วกัน!
เดิมพัน หยวนซั่วเดิมพันว่าเขาสามารถรับมือกับคนๆ นั้นได้ หลิวหลงพนันว่าเขาสามารถรับมือกับผู้มีพลังเหนือธรรมชาติได้
ส่วนตอนนี้หลี่ฮ่าวก็กำลังเดิมพันเหมือนกัน
เดิมพันว่ากระบี่ที่ได้รับการสืบทอดมาจากตระกูลจะสามารถเปิดผนึกจัดการเงาโลหิตได้!
“ฆ่า!”
เขาชักกระบี่ออกมาแล้วฟันลงไปที่เงาโลหิต ในสถานการณ์ทั่วไปเขาไม่สามารถแตะเนื้อต้องตัวเงาโลหิตได้
ดังนั้นเงาโลหิตจึงไม่สนใจเขา
แต่แล้วเมื่อกระบี่ถูกชักออกจากหัวใจหลี่ฮ่าวก็แผ่แสงสว่างออกมาจางๆ จากนั้นจี้หยกกระบี่ก็แทงเข้าไปตรงส่วนลึกของเงาโลหิตทันที!
“อ๊าก!”
หลี่ฮ่าวเหมือนได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเงาโลหิตรางๆ เงาโลหิตมีชีวิตด้วยหรือ
เขาไม่รู้นี่นา!
เขารู้แค่ว่าต้องฆ่าเจ้านี่เสีย ฉะนั้นวินาทีถัดมาหลี่ฮ่าวก็ชักกระบี่แล้วแทงลงไปใหม่!
ตอนนี้เงาโลหิตขยับตัวแล้ว คล้ายกับว่ากระบี่ที่แทงลงมาของหลี่ฮ่าวทำให้เงาโลหิตเกิดอาการคลุ้มคลั่งเล็กน้อย ถึงขั้นหลุดจากการควบคุมของผู้แข็งแกร่งผมยาว พลันเงาโลหิตก็สลายกลายเป็นควันทะลักเข้าสู่ร่างกายของหลี่ฮ่าว
พลังร้อนแรงราวกับเปลวไฟปะทุขึ้นภายในร่างกายของหลี่ฮ่าว!
แข็งแกร่งอย่างหาที่เทียบไม่ได้!
ขณะนี้หลี่ฮ่าวตะโกนเสียงดังแล้วเริ่มใช้วิชาคายรับห้าปาณภูตปล่อยพลังแสงดาราไหลทะลักออกมา เขารู้ว่าเงาโลหิตคิดจะแผดเผาตนเหมือนที่เคยทำ คล้ายที่แผดเผาเสี่ยวหยวนให้ตายนั่นเอง!
แต่…เรามีกระบี่ดาราพราย!
ชั่วขณะที่พลังไฟกำลังปะทุลุกโชนในร่างกาย หลี่ฮ่าวก็เหมือนเห็นโลกอีกหนึ่งใบ
วินาทีนั้นหลี่ฮ่าวก็รู้แล้วว่าเสี่ยวหยวนเห็นอะไร
และรู้ว่าทำไมเสี่ยวหยวนถึงให้ตนหนีไป เพราะเขารู้ว่าเป้าหมายคนต่อไปที่อีกฝ่ายจะฆ่าก็คือตน
เวลานี้ในสายตาของหลี่ฮ่าวได้ปรากฏรูปโฉมโลกใบนี้ที่ต่างจากเดิมอย่างลิบลับ
สายตามองทะลุทุกสรรพสิ่งได้!
เหมือนท้องฟ้าเหนือเมืองหยินมีภาพแผนผังแปดทิศ ภาพแผนผังแปดทิศขนาดใหญ่!
แผนผังแปดทิศนี้ปกคลุมไปทั่วทั้งเมืองหยิน
ส่วนมุมทั้งแปดทิศในแผนผังกระจายตัวอยู่แปดจุด โดยทุกจุดเหมือนเชื่อมไปยังอีกจุด และหนึ่งในเส้นนั้นก็เชื่อมมาที่ตัวหลี่ฮ่าวโดยตรง ขณะที่อีกเจ็ดเส้นที่เหลือ…ไม่อยู่ในเมืองหยิน!
แต่ก็ยังชี้ไปตรงจุดเดียวกัน!
คล้ายมีคนกำลังแย่งเส้นที่เหลือ
ตอนนี้หลี่ฮ่าวเข้าใจแล้ว
วันนั้นสิ่งที่เสี่ยวหยวนเห็นคงจะเป็นภาพนี้เช่นกัน เส้นแปดเส้นซึ่งหนึ่งเส้นเชื่อมกับตัวเสี่ยวหยวน ส่วนอีกเส้นเชื่อมกับหลี่ฮ่าว
เสี่ยวหยวนอาจจะไม่ฉลาดมากพอ แต่เมื่อเห็นภาพนี้เขาคงรู้ว่าเป้าหมายคนต่อไปที่อีกฝ่ายจะฆ่าก็คือหลี่ฮ่าวที่เชื่อมกับเส้นแผนผังทั้งแปดทิศ
“ที่แท้…นายก็เห็นภาพนี้สินะ”
ความคิดนี้ผุดขึ้นในหัวของหลี่ฮ่าว ตอนนี้เขาไม่คิดเรื่องอะไรอีกแล้วและพยายามใช้วิชาคายรับห้าปาณภูต พลังแสงดาราปริมาณมากกำลังถูกเขาดูดซับเข้าร่างกาย
พลังแสงดารากับพลังของเงาโลหิตกำลังปะทุขึ้นในร่างกาย!
อวัยวะภายในสั่นคลอนและแตกสลาย แต่ไม่นานพลังเงาโลหิตก็ทะลวงเส้นลมปราณ ตามด้วยพลังแสงดาราที่ทำการซ่อมแซมอย่างรวดเร็ว ทั้งยังไล่ดับพลังเงาโลหิตให้สิ้นซากด้วย
……
จุดที่ห่างไกลออกไป
ผู้แข็งแกร่งผมยาวนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาถูกการโจมตีอันแกร่งกล้าของหยวนซั่วข่มอยู่ตลอด
เดิมทีเขาคิดจะเรียกตัวเงาโลหิตกลับมาเพื่อช่วยตัวเองฆ่าหยวนซั่ว ขอเพียงหยวนซั่วถูกเงาโลหิตรั้งไว้ เขาก็จะมีเวลาพักหายใจบ้าง จากนั้นค่อยฟื้นฟูพลังการต่อสู้ของตัวเองแล้วฆ่าไอ้สารเลวหยวนซั่ว
แต่…คำสั่งเรียกตัวกลับล้มเหลว!
เงาโลหิตไม่กลับมาตามคำสั่ง
ให้ตายเถอะ!
เกิดอะไรขึ้นกันนะ
…………………………………………………………….