ตอนที่ 42 การกลับมาของจอมมารหยวนซั่ว (3)
เขาไม่มีเวลาและไม่มีโอกาสที่จะไปสืบหาสาเหตุ การจู่โจมของหยวนซั่วรุนแรงเอาแต่ใจ
ปรมาจารย์พันยุทธ์คนนี้มีพลังภายในที่แกร่งกล้าไม่เหมือนพันยุทธ์ เพราะเต็มไปด้วยพลังทำลายล้างหนาแน่น นี่ไม่ใช่สิ่งที่พันยุทธ์คนหนึ่งจะทำได้ พลังทำลายล้างนี้หากเทียบจากลำดับขั้นแล้วมันเกินกว่าพลังภายในไปมากโข
ขณะนั้นหยวนซั่วตะโกนขึ้นเสียงดัง จู่ๆ ก็มีโซ่ตรวนปรากฏ
เขาต้องทำลายกลอนล็อกเหนือธรรมชาติเพื่อเลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติแล้วฆ่าศัตรูผู้แข็งแกร่งตรงหน้า
ตู้ม!
กลอนล็อกเหนือธรรมชาติระเบิดออกทันที ส่วนหยวนซั่วก็มีพลังเพิ่มพูนขึ้นจากเดิม จากนั้นก็ปล่อยหมัดออกไป สุริยาจันทราเปลี่ยนสี!
ปราณโลหิตที่ราวกับมังกรตัวใหญ่โอบล้อมผู้แข็งแกร่งผมยาวนั้นไว้
ส่วนผู้แข็งแกร่งผมยาวปล่อยแสงสีทองเจิดจรัสออกจากตัว แสงที่เต็มไปด้วยพลังอาฆาตทำลายมังกรปราณโลหิตจนแหลกสลาย
จากนั้นทั้งคู่ก็สู้กันจนตาแดงก่ำพร้อมไอสังหาร ตอนนี้ไม่คิดจะสนใจแล้วว่าวิธีไหนจะทำให้เจ็บตัวทั้งสองฝ่าย
ทำลายกลอนล็อกเหนือธรรมชาติไป หยวนซั่วก็เหมือนจะแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม
ทว่าจากนั้นหยวนซั่วก็สีหน้าเปลี่ยนไปนิดๆ พลันก็กัดฟันร้องตะโกนเสียงดัง เมื่อครู่มีพลังลี้ลับถือกำเนิดขึ้นในร่างกายแล้วก็ระเบิดตัวออกมาพร้อมกับเสียงตะโกนของเขา!
พลังลี้ลับแกร่งกล้านั้นระเบิดตัวภายในร่างกายจนชายวัยกลางคนผมยาวนั่นต้องกระอักเลือดอีกรอบ!
“แกบ้าไปแล้วเหรอ”
ผู้แข็งแกร่งผมยาวตะลึงงัน เมื่อครู่หยวนซั่วมีแหล่งกำเนิดพลังลี้ลับถือกำเนิดขึ้น นี่บ่งบอกว่าเขามีหวังที่จะเลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติแล้ว
แต่หยวนซั่วกลับทำลายแหล่งกำเนิดพลังลี้ลับโดยตรง นี่เป็นแหล่งกำเนิดพลังลี้ลับ หากทำลายมันก็เท่ากับว่าหยวนซั่วทิ้งโอกาสที่จะได้เลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติ
หากเขาไม่ใช่คนบ้าแล้วคืออะไร
หยวนซั่วหน้าซีด ใบหน้าเปื้อนยิ้มนิดๆ พลางมองอีกฝ่าย จากนั้นสีหน้าก็เย็นชาลงทันที “คนธรรมดาจะไปเข้าใจปณิธานอันยิ่งใหญ่ของผู้แข็งแกร่งได้ยังไง!”
แหล่งกำเนิดพลังลี้ลับนั่นดูดกลืนพลังภายในของตน
ต้องรู้ว่ารากฐานของปรมาจารย์ก็คือพลังภายใน
หากพลังภายในถูกดูดกลืนไปเมื่อไร เนื่องจากพลังภายในไม่มีแหล่งกำเนิดมาจากภายนอก แต่มาจากร่างกาย เลือด อวัยวะภายในหลอมรวมกันแล้วฝึกฝนขึ้นมา ซึ่งบ่งบอกว่าพลังภายในของเขาถูกดูดกลืนก็เท่ากับว่าร่างกายของเขาจะต้องบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน
แม้พลังลี้ลับจะหาทางชดเชยกลับมาได้…แต่ก็เป็นพลังลี้ลับมาจากนอกกาย
เมื่อครู่หยวนซั่วค้นพบว่าการเลื่อนขั้นเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติอาจจะเกิดปัญหา อาจทำให้พลังบำเพ็ญเพียรที่ตนสั่งสมมาหลายปีมลายหายไป
แน่นอนว่าการตัดสินใจของเขาก็เด็ดขาดเช่นกัน
เขาไม่ได้เสียแหล่งกำเนิดพลังลี้ลับนี้ไปอย่างสูญเปล่า
อย่างน้อยก็ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนักอีกครั้ง
“ไม่มีพลังลี้ลับ ฉันก็ฆ่าแกได้เหมือนเดิม!”
หยวนซั่วตะโกนเสียงดังแล้วกลายร่างเป็นหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ ไม่ได้กลายเป็นหมีจริงๆ แต่ดูจากรูปร่างเปลวไฟแล้วเหมือนหมีสีน้ำตาลตัวหนึ่ง
เขากำหินมีดในมือ…จากนั้นหยวนซั่วก็ค้นพบว่าพลังทำลายเกราะป้องกันของหินมีดนั้นรุนแรงนัก
การที่ข่มหมอนี่มาได้ตลอด หินมีดนี้ก็มีส่วนช่วยได้มากทีเดียว
ต่อให้เขาไม่ได้เปิดใช้งานอย่างสิ้นเชิง ถึงขั้นยังไม่ได้เปิดผนึกด้วยซ้ำ แต่ลำพังแค่พลังของหินมีดที่อยู่ในนี้ก็มากพอที่จะเป็นไพ่ใบสุดท้ายของเขาได้แล้ว กระทั่งทลายเกราะป้องกันพลังลี้ลับของสุดยอดผู้แข็งแกร่งคนนี้
ตู้ม!
หยวนซั่วที่เหมือนกลายร่างเป็นหมีสีน้ำตาลใช้เท้ากระทืบลงพื้นอีกครั้งจนหน้าดินทรุดก่อนจะกระโดดขึ้นจู่โจมผู้แข็งแกร่งผมยาวอย่างบ้าคลั่ง
ตั้งแต่เริ่มจนจบเขาเป็นฝ่ายโจมตีมาตลอด!
พลังของหินมีดล้นทะลักออกมา!
ตู้ม!
ผู้แข็งแกร่งผมยาวถูกโจมตีจนตัวปลิวอีกครั้ง เขาตกเป็นรองโดยสมบูรณ์ ตั้งแต่เริ่มต้นยันตอนนี้หยวนซั่วไม่ให้เวลาเขาได้ปรับตัวและไม่ให้โอกาสเขาได้ตอบโต้เลยสักนิด
ปรมาจารย์นักรบพันยุทธ์คนนี้เก่งเรื่องฉกฉวยโอกาสเหลือเกิน อีกทั้งจู่โจมตามจุดสำคัญต่างๆ ของเขาด้วย
แม้เขาจะแข็งแกร่งกว่าหยวนซั่ว ไม่ว่าจะด้านพลังชีวิต พลังลี้ลับ หรือพลังป้องกันตัว แต่เมื่อเขาไม่สามารถโจมตีหยวนซั่วได้ ทุกความแข็งแกร่งก็เหมือนเป็นแค่ฟองอากาศ
“หยวนซั่ว…”
เขาตะโกนขึ้นอีกที “หยวนซั่ว พวกเรา…”
ตู้ม!
เท้าขนาดใหญ่ของหยวนซั่วเตะลงมาจนเกิดการปะทุขึ้นในอากาศ เนื่องจากมีพลังของหินมีดแฝงด้วยทำให้พลังทำลายล้างรุนแรงมากกว่าเดิม แค่เตะไปทีหนึ่งแม้แต่เนินเขาเล็กๆ ด้านหลังผู้แข็งแกร่งผมยาวที่ไม่ถือว่าสูงมากนักยังแตกละเอียดเป็นหินเล็กๆ ไปในพริบตา
“ฆ่า!”
หยวนซั่วร้องคำรามอีกครั้ง จากนั้นก็ปรากฏมังกรลอยอยู่เหนือศีรษะ ปราณโลหิต มังกรปราณโลหิต
มังกรตัวนี้เดือดพล่านขึ้นมาทันที!
ไม่พอ!
ด้วยความสามารถของเขา ต่อให้มีพลังของหินมีดมาช่วยเสริม ต่อให้ได้เปรียบด้านการจู่โจมมาตลอด แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่สามารถฆ่าเจ้าหมอนี่ได้ มันบ่งบอกว่าอะไร
บ่งบอกว่าเขาหยวนซั่วยังไม่แข็งแกร่งมากพอจะโจมตีจนเอาชีวิตของอีกฝ่ายได้!
หยวนซั่วไม่ยอม!
ในสมองของเขามีตำราเก่าแก่วาบเข้ามานับไม่ถ้วน จากนั้นตำราเล่มหนึ่งก็นิ่งค้างอยู่ในหัว!
‘เคล็ดวิชาดาบโลหิต’!
นี่เป็นตำราเก่าแก่เล่มหนึ่ง เมื่อปราณโลหิตหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับพลังจิตวิญญาณจนกลายเป็นดาบโลหิตก็จะทำลายศัตรูถึงแก่ชีวิตได้ วิธีเอาชนะแบบนี้ถูกบันทึกไว้ในตำราเก่าแก่ และปรมาจารย์นักรบในยุคสมัยอารยธรรมรุ่งเรืองล้วนใช้วิธีนี้ในการเอาชนะศัตรู!
เป็นพลังทำลายล้างที่ไม่มีอะไรทัดเทียมได้!
แน่นอนว่าผลข้างเคียงก็มีมากเช่นกัน
หาก ‘เคล็ดวิชาดาบโลหิต’ หลอมรวมปราณโลหิตเข้ากับพลังจิตวิญญาณจะก่อให้เกิดพลังทำลายล้างที่เกินขอบเขตลำดับขั้นต่างๆ ซึ่งก็ต้องแลกด้วยร่างกายที่แย่ลงอย่างรวดเร็วจนถึงขั้นพิการหรือตายได้!
ตำราเก่าแก่บันทึกไว้อีกว่าในยุคอารยธรรมรุ่งเรือง ปรมาจารย์นักรบอาวุโสบางส่วนจะฝึกวิชานี้โดยเฉพาะเพื่อรับมือกับศัตรูผู้แข็งแกร่ง เมื่อถึงยามคับขันจะยอมสละชีวิตใช้วิธีนี้จนเกิดผลลัพธ์เหนือคาดมากมาย แต่ภายหลังก็ถูกสั่งห้ามไม่ให้ใช้อีก เพราะปรมาจารย์นักรบส่วนมากที่ใช้ล้วนตายกันหมด
แต่แล้วเวลานี้หยวนซั่วยังจะสนใจเรื่องนี้อยู่อีกหรือ
ยิ่งกว่านั้นลูกศิษย์ของตนยังมีกระบี่เล่มนั้นอยู่ไม่ใช่หรือไร
ช่วยชีวิตคนได้ไม่ใช่หรือ
ใครว่าฉันจะตายกัน
ใช่ว่าใช้วิธีนี้แล้วต้องตายทุกรายสักหน่อย!
นอกจากนี้ตำรายังบันทึกไว้ว่าภายหลังมีวิธีการแก้ไขวิชายุทธ์นี้แล้ว เพียงแต่วิธีการแก้ไขนั้น…หยวนซั่วยังหาไม่เจอซึ่งก็น่าเสียดายอยู่ไม่น้อย
“รวมกัน!”
สวรรค์ฟ้าดินราวกับกลายเป็นเตาร้อนๆ พลังจิตวิญญาณปะทุออกอย่างรุนแรง!
ตอนนี้หยวนซั่วมีสถานะเปรียบดั่งเซียนมารที่ไม่มีอะไรมาขัดขวางได้อีกต่อไป มังกรปราณโลหิตที่อยู่เหนือศีรษะแทรกซึมเข้าร่างกายในชั่วขณะ เพียงพริบตาเดียวหยวนซั่วก็หลอมดาบโลหิตเล่มหนึ่งออกมา!
ดาบโลหิตหลอมรวมกับหินมีดทันที
ดาบโลหิตก็ขยายใหญ่ขึ้นในชั่วพริบตา มือของหยวนซั่วกำดาบแล้วฟันลงไปทำเอาอากาศรอบตัวย้อมเป็นสีเลือดไปด้วย!
“พลังเหนือธรรมชาติ อ่อนหัด!”
หยวนซั่วตวาดเสียงดัง
ผู้แข็งแกร่งผมยาวที่อยู่ตรงข้ามก็หน้าถอดสี คำรามเสียงดังทีหนึ่งพลันปล่อยพลังลี้ลับปะทุออกมา วินาทีนี้เหมือนแสงอาทิตย์ปกคลุมไปทั่วหล้าจริงๆ ไม่ใช่แค่เมืองหยิน อย่างน้อยพื้นที่ทั้งแถบนี้ก็สว่างวาบทุกย่อมหญ้า
สว่างเหมือนตอนกลางวัน!
“หยวนซั่ว แกบีบให้ฉันต้องทำแบบนี้เองนะ…”
“บีบบ้านแกสิ!”
หยวนซั่วไม่รอให้เขาพูดจบก็ฟันดาบใส่โต้งๆ เลย!
เกิดเสียงดังกระหึ่ม พลังลี้ลับของผู้แข็งแกร่งผมยาวที่หลอมรวมเข้าด้วยกันถูกดาบนี้ฟันจนแตกละเอียด ไม่เพียงเท่านี้ ดาบนั้นยังไม่หยุดฟันแต่กลับพุ่งไปหาชายวัยกลางคนผมยาวนั้นอีก!
อีกฝ่ายหน้าซีดพลางมองด้วยสายตาเหลือเชื่อ!
เป็นไปได้อย่างไรกัน
พลังลี้ลับที่เขารวบรวมเข้าด้วยกันทั่วทั้งร่างกลับถูกดาบฟันจนแตกละเอียด…
‘มีดของตระกูลจาง!’
ตอนนี้เขาฉุกนึกอะไรขึ้นได้
แต่ยังไม่เชื่อสายตาเท่าไร หยวนซั่ว…จะใช้มีดของตระกูลจางได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้!
ต่อให้มีดของตระกูลจางตกไปอยู่ในมือหยวนซั่วก็ใช้งานไม่ได้อยู่ดี
ไม่เพียงแค่มีดของตระกูลจาง รวมถึงสมบัติตระกูลอื่นๆ ก็เช่นกัน ต้องเป็นลูกหลานสายเลือดเดียวกันเท่านั้นถึงจะใช้งานได้ ต่อให้ทางองค์กรได้อาวุธของตระกูลเหล่านั้นไป ความจริงก็เก็บไว้ประดับหรือใช้งานเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น นอกเสียจากเส้นลมปราณทั้งแปดหลอมรวมเข้าด้วยกันโดยใช้เลือดของหลี่ฮ่าวกระตุ้นกระบี่ดาราพราย รวมถึงทำลายผนึกแปดตระกูลอย่างสิ้นเชิงถึงจะมีหวังได้ใช้งานอาวุธพวกนี้อย่างแท้จริง
แต่…หยวนซั่วไม่ใช่สายเลือดแปดตระกูล!
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสายเลือดตระกูลจางเลย เขาใช้พลังจากมีดของตระกูลจางได้อย่างไรกัน
ทุกอย่างนี้ไม่มีใครให้คำตอบเขาได้
ตอนนี้ดาบมาถึงตัวไวกว่าที่คาดเอาไว้ ดาบผ่าตัวอีกฝ่ายเป็นสองส่วนในพริบตาเดียว
หยวนซั่วที่อยู่กลางอากาศดิ่งตัวเอาเท้าแตะพื้นพร้อมเลือดพุ่งออกจากปาก
ครั้งนี้ของจริง
เขาหมดแรงแล้ว!
เขาไม่พูดอะไร ยกดาบสับร่างที่แยกเป็นสองส่วนของอีกฝ่ายจนเป็นชิ้นๆ ในทันที!
ถ้ายังไม่ตายเขาก็ยอมแพ้แล้วจริงๆ
………………………………………………………………