ภาพรักสีจางกลางสมุทร – ตอนที่ 30

ตอนที่ 30

ภาพรักสีจางกลางสมุทร – ตอนที่ 30 สายตาที่น่าสงสาร
ทว่าในตอนที่เธอและเจ้านายของเขาเดินเข้ามาหา หลิวจื้อหย่วนก็นึกขึ้นได้ทันที “เธอคือเด็กสาวที่ทะเลาะกับผู้ชายคนนั้นเมื่อวันก่อนที่สำนักงานนี่ครับ”

โม่หันชะงักพร้อมมองไปที่เขา นึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเธอที่โรงพยาบาลและรู้ว่าเขาไม่เคยรู้จักเธอมาก่อน ถ้าเขาเรียกเธอว่าซย่าชิงอีก็คงดูน่าสงสัยแน่ๆ

เขากล่าวขึ้นเสียงหนักด้วยใบหน้าที่นิ่งเฉย “ไม่ใช่ คุณจำผิดคนแล้วล่ะ”

“แต่ว่า…” หลิวจื้อหย่วนยังมั่นใจว่าเธอคือเด็กสาวคนนั้น

“คุณจำผิดแล้ว เธอไม่ใช่เด็กสาวคนนั้นแต่เป็นน้องสาวของผมต่างหาก” โม่หันแก้ตัวด้วยสีหน้าจริงจัง

หลิวจื้อหย่วนจับคางของตัวเองขณะมองเด็กสาวตรงหน้า เขายังคงคิดว่าเธอดูคลับคล้ายคลับคลากับเด็กสาวในชุดคนไข้ที่มาที่สำนักงานวันนั้น หากแต่เธอดูไม่กังวลยามที่เขามองไปที่เธอ ทั้งยังไม่หลบตาและมองเขากลับมาด้วย

“พี่คะ มีคนที่คล้ายกับฉันขนาดนั้นมาที่นี่ก่อนหน้านี้เหรอคะ” ซย่าชิงอีเงยหน้าพลางยิ้มใสซื่อ มองไปยังโม่หันที่ยืนอยู่ข้างๆ

นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่เข้ากันได้ดี คนหนึ่งนำในขณะที่อีกคนตาม เขารีบตอบกลับ “ก่อนหน้านี้มีเด็กสาวคนหนึ่งมาที่นี่น่ะ แต่จริงๆ แล้วก็แอบคล้ายกับเธออยู่นะ”

“เธอเป็นใครเหรอคะ พี่รู้จักเธอเหรอ” เขามองรอยยิ้มใสซื่อของเธอ พลางคิดในใจว่าเธอไปเป็นนักแสดงในหนังได้สบายๆ เลย

“พี่ไม่รู้จักหรอก แค่คนไข้แปลกหน้าน่ะ” เขาตอบเสียงหนัก

หลิวจื้อหย่วนได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่แล้วก็รู้สึกงุนงงก่อนจะยกมือจับหัวของตัวเอง เริ่มสงสัยว่าเขาอาจจะจำผิดไปเองและมองไปที่ซย่าชิงอีใกล้ๆ “พอมองใกล้ๆ แบบนี้ก็ดูไม่เหมือนเด็กคนนั้นจริงๆ แหละครับ”

ท่าทางของโม่หันกลับมาจริงจังอีกครั้ง เอ่ยเสียงเข้มขึ้นมาอย่างเย็นชา “คุณเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับอดีตภรรยาของประธานจางเสร็จแล้วเหรอ ถ้าเสร็จแล้วส่งมาที่ห้องทำงานของผมด้วยครับ”

หลังจากสั่งงานหลิวจื้อหย่วนเสร็จ เขาก็เดินนำเธอไปที่ห้องทำงานของเขา

เมื่อเธอก้าวเข้ามาในห้องของเขา เธอก็อ้าปากค้างพร้อมมองสำรวจไปรอบๆ “ว้าว! ห้องทำงานคุณใหญ่จังเลยค่ะ!”

ห้องทำงานของเขาเป็นห้องทรงโค้ง ด้านหนึ่งเป็นกระจกยาวถึงพื้นให้ยืนมองท้องฟ้าสวยข้างนอกยามกลางคืนได้ อีกด้านของประตูเป็นเก้าอี้นวม โต๊ะสีดำสนิทวางอยู่มุมหนึ่งของห้อง ดูเรียบง่ายและไม่ได้มีการตกแต่งเพิ่มเติม ด้านหลังโต๊ะมีประตูอีกบานที่ปิดอยู่ อาจเป็นห้องสำหรับพักผ่อน

โม่หันไม่ได้สนใจที่เธอมองสำรวจไปรอบๆ ห้องทำงานของเขา เขาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงาน หยิบเอกสารบนโต๊ะขึ้นมาเพื่อรวบรวมข้อมูลสำหรับสู้คดีในชั้นศาลพรุ่งนี้ “วันนี้ผมยุ่งมาก อยู่ที่นี่สักพักนะครับ เดี๋ยวผมเสร็จงานแล้วเราค่อยกลับบ้านกัน”

หลังจากรู้ว่าต้องย้ายจากห้องรับรองด้านนอกมาอยู่ในห้องทำงานของเขา เธอก็ผิดหวังเล็กน้อย เธอหิวมาทั้งวันแล้ว ถ้าต้องทนนานกว่านี้เธอต้องเป็นลมแน่ๆ

“เอ่อ… คุณช่วย… ฉันสั่งอาหารมาที่นี่หน่อยได้ไหมคะ” เธอห้ามตัวเองไม่ให้ขอร้องเขาไม่ได้

อีกฝ่ายเงยหน้าขึ้นมองตาที่น่าสงสารของเธอก่อนเงียบไป เธอจึงกล่าวต่อ “ฉันไม่ได้กินอะไรมาทั้งวัน ตอนนี้หิวจะตายอยู่แล้วค่ะ”

เขาต่อสายหาเลขาด้านนอก “ช่วยสั่งอาหารแล้วเอามาส่งที่ห้องทำงานผมด้วยครับ”

ผู้ช่วยของเขาที่กำลังทำงานอยู่รู้สึกแปลกใจ เจ้านายของเธอไม่เคยสั่งอาหารให้มาส่งแบบนี้มาก่อน “ค่ะ… คุณอยากทานอะไรเหรอคะ”

เขามองซย่าชิงอีที่จ้องโทรศัพท์ด้วยสายตามีความหวังก่อนถามเบาๆ “อยากกินอะไรล่ะ”

เธอหิวขนาดนี้แล้วจะไปคิดอะไรออกอีก “อะไรก็ได้ค่ะ ขอแค่จานใหญ่ๆ ก็พอ”

เขาตอบผู้ช่วยสาวกลับไป “แล้วแต่คุณเลือกเลย สั่งมาเยอะๆ ก็พอครับ”

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

ภาพรักสีจางกลางสมุทร

เมื่อลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง เธอกลับพบว่าเธออยู่ในสภาพบาดเจ็บสาหัสและจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ชื่อ ที่อยู่ ครอบครัวและประวัติความเป็นมาล้วนถูกซัดหายไปจากความทรงจำทั้งหมด

เบาะแสเดียวที่หลงเหลืออยู่มีเพียงชื่อ โม่หัน ทนายหนุ่มจากสำนักงานกฎหมายที่ลงท้ายไว้บนใบเสร็จค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น เขาเป็นใครและเกี่ยวข้องอะไรกับเธอ ทำไมถึงดูแลค่าใช้จ่ายให้ทุกอย่างแต่ไม่เคยมาเยี่ยมเธอเลยสักครั้ง

เมื่อถูกครอบงำด้วยความสงสัย เธอจึงตัดสินใจหนีออกจากโรงพยาบาลแล้วออกตามหากุญแจสุดท้ายที่จะไขความลับให้กับเธอ ทว่าเมื่อตามหาตัวโม่หันจนพบ เขากลับบอกเธอว่า “ขอโทษด้วยครับ ผมไม่รู้จักคุณ”

เป็นไปได้ยังไงกัน เธอไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร

เธอต้องไขปริศนาเรื่องนี้และเรียกคืนความทรงจำทั้งหมดที่หายไปกลับมาให้ได้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท