จอมนางข้ามพิภพ – บทที่ 639 ข้าก็เป็นของเจ้า

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ บทที่639 ข้าก็เป็นของเจ้า

“ซื่อจื่อเฟย ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?” องครักษ์ลับด้านนอกเข้ามาถามทันที

“ข้าไม่เป็นไร ไม่ต้องห่วง คนกันเอง” หยุนถิงตอบ

เหล่าองครักษ์ลับจึงค่อยโล่งใจ หากซื่อจื่อพาลูกออกไปเล่น กลับมาก็เห็นซื่อจื่อเฟยเป็นอะไรไป คงหั่นพวกเขาเป็นชิ้นๆแน่เลย

ตอนนี้เหล่าองครักษ์ลับต่างก็ตั้งสติดีๆ ยืนอยู่รอบๆรถม้า เพื่อปกป้องความปลอดภัยของซื่อจื่อเฟย

“ซื่อจื่อกับลูกๆล่ะ?” หยุนถิงถาม

“เรียนซื่อจื่อเฟย ซื่อจื่อพาเด็กๆไปเดินเล่นซื้อของที่ตลาดแล้ว” องครักษ์ลับคนหนึ่งตอบ

จากนั้นหยุนถิงก็เห็นจวินหย่วนโยวอุ้มเด็กไว้ข้างละคน และเดินกลับมาอย่างมีความสุข ในมือของเจ้าน้อยทั้งสองเอาของเล่นไว้มากมาย ดีใจจนหุบปากไม่ได้เลย

“ถิงเอ๋อร์ เจ้าตื่นแล้วหรือ!” จวินหย่วนโยวเดินมา

“อืม เจ้าหนูน้อยสองตัวนี้ชอบท่านมากเลย”

เมื่อหนูน้อยทั้งสองเห็นหยุนถิง ก็ดีใจมาก”ท่านแม่ พ่อซื้อให้!” จวินเสี่ยวเทียนกล่าว

“ซื้อ ซื้อ ซื้อ!” จวินเสี่ยวเหยียนพูดตาม

หยุนถิงรู้สึกขบขันกับเด็กน้อยทั้งสอง”ฮ่าฮ่า พ่อพาพวกเจ้าไปซื้อซื้อซื้อแล้วหรือ พ่อรวยที่สุดเลย ต่อไปพวกเจ้าอยากซื้ออะไรก็บอกกับพ่อนะ”

“ใช่ เงินของพ่อเป็นของพวกเจ้าทั้งหมด ซื้อเต็มที่ ใช้ตามใจชอบเลย!” จวินหย่วนโยวหัวเราะเบา ๆ

“ท่านพ่อดี ท่านพ่อหอมแก้ม!” จวินเสี่ยวเทียนดีใจมาก

“ดี ดี!” จวินเสี่ยวเหยียนตบมือ

“เอาล่ะ มา แม่อุ้ม ให้พ่อไปพักผ่อนหน่อย” หยุนถิงพูดและอุ้มจวินเสี่ยวเหยียนมา

“ไปกันเถอะ พวกข้าไปพักผ่อนกันเถอะ ข้าให้รั่วจิ่งเอาของไปเก็บ” จวินหย่วนโยวเสนอแนะ

“อืม!”

หยุนถิงคิดว่าการพักผ่อนที่จวินหย่วนโยวบอกนั้น ก็คือโรงเตี๊ยม คิดไม่ถึงว่าจะไปลานแห่งหนึ่ง

“นี่คือก่อนหน้านี้ที่ข้าให้คนจัดซื้อไว้ มาอย่างเร่งรีบ ดังนั้นจึงไม่ได้เตรียมอะไรมาก อยู่ๆไปก่อน!” จวินหย่วนโยวกุมมือของหยุนถิงแล้วเดินเข้าไป

ภายนอกดูไม่มีอะไรพิเศษ ประตูสีดำ ไม่มีแม้แต่ป้ายประตู แต่ข้างในกลับลึกลับมาก

ลานกว้างมาก และจัดวางอย่างดี ทางสองข้างของหินหนกนั้นเต็มไปด้วยพืชแปลกๆและล้ำค่า ภูเขาปลอม ยังมีปลาคาร์ฟว่ายอยู่ด้านใน

จวินเสี่ยวเทียนเห็นแล้วก็ดีใจมาก”ท่านพ่อ ปลา ปลา!”

“ปลา ปลาน้อย!” จวินเสี่ยวเหยียนก็พูดตาม

“เสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหยียนชอบปลาใช่หรือไม่ พ่อพาพวกเจ้าไปดู” จวินหย่วนโยวอุ้มลูกไว้แล้วเดินไป”

หยุนถิงก็ตามไปด้วย และคนรับใช้ก็เข้ามาขอคำแนะนำเรื่องอาหารเย็นทันที จวินหย่วนโยวกำชับไปสองสามคำ ล้วนเป็นสิ่งที่หยุนถิงชอบกินที่สุด

“ซื่อจื่อ ลานนี้หนึ่งปีท่านก็มาไม่ถึงหนึ่งครั้งสินะ ยังทำอย่างพิถีพิถันเช่นนี้ ไม่สิ้นเปลืองเงินหรือ?” หยุนถิงอดไม่ได้ที่จะพูด

“จวนซื่อจื่อมีเงินเยอะ ไม่ขาดแคลนเงิน!” จวินหย่วนโยวตอบ

หยุนถิงเหมือนถูกทำให้ท้อแท้ใจในทันที”ท่านร่วย ท่านเป็นนายท่าน อยากทำยังไงก็ทำ!”

“ผิด คือพวกข้ารวย ของข้าก็เป็นของเจ้า ข้าก็เป็นของเจ้า” จวินหย่วนโยวแก้ไข

หยุนถิงหน้าแดง และจิกตาใส่เขา”งั้นข้าไปดูห้องหน่อย กลางคืนพวกเขาสองคนนอนไม่นิ่ง ต้องจัดเตียงให้ดี!”

“พวกข้าไปด้วยกัน” จวินหย่วนโยวอุ้มเด็กสองคนแล้วเดินตามไป

เตียงในสมัยโบราณมีขนาดเล็กมาก เทียบเท่ากับเตียงเดี่ยวในยุคปัจจุบัน แถมยังแคบมาก แน่นอนว่าก็ต้องไม่พอลูกๆนอนอยู่แล้ว หยุนถิงให้คนยกเตียงสองเตียงมาวางรวมกันทันที ทีนี้กว้างขึ้นเยอะเลย

จวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียนชอบเล่นบนเตียงมากที่สุด ทั้งสองรีบผละออกจากอ้อมกอดของจวินหย่วนโยวทันที ปีนขึ้นไปบนเตียงแล้วกลิ้งไปกลิ้งมา

จวินหย่วนโยวยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ เดินทางมาทั้งวันเขาก็เหนื่อยแล้ว ดังนั้นจึงนั่งอยู่ข้างๆ กลัวว่าทั้งสองคนจะตกลงไป

“ถิงเอ๋อร์ นอนด้วยกัน!” จวินหย่วนโยวเอื้อมมือไปดึงหยุนถิงมา

หยุนถิงล้มลงบนตัวของจวินหย่วนโยวโดยตรง ต่อหน้าลูกๆ หยุนถิงก็รู้สึกอายยิ่งนัก กำลังจะลุกขึ้น

แต่จวินเสี่ยวเหยียนกับจวินเสี่ยวเทียนก็คลานเข้ามา และกดทับไว้บนตัวของหยุนถิงโดยตรง ราวกับการแสดงกายบริหารที่คนซ้อนคนเป็นรูปปิรามิด สุดท้ายก็กลายเป็นจวินหย่วนโยวที่แบกน้ำหนักของพวกเขาทั้งสามไว้หมด

“เสี่ยวเทียน เสี่ยวเหยียนลงไป พ่อเหนื่อยเกินไปแล้ว พวกข้าทั้งสามหนักเกินไปแล้ว!” หยุนถิงรีบเอ่ยปาก

“ยากนักที่ลูกๆจะมีความสุขเช่นนี้ ไม่เป็นไร น้ำหนักแค่นี้ข้ายังไหวได้อยู่” จวินหย่วนโยวตอบ

“เช่นนั้นก็ไม่ได้ ขาของท่านพึ่งหายดี” หยุนถิงลุกขึ้นอย่างระมัดระวัง ปล่อยให้เสี่ยวเทียนกับเสี่ยวเหยียนนอนเล่นบนตัวของจวินหย่วนโยว

เจ้าตัวน้อยทั้งสองชอบท่านพ่อมาก ระหว่างทางนี้สนิทกับจวินหย่วนโยวไปไม่น้อยเลย

หยุนถิงเฝ้ามองอยู่ข้างๆ เห็นลูกทั้งสองติดพ่อขนาดนั้น ก็รู้สึกว่าชีวิตธรรมดาๆ แบบนี้ก็ดีมากเช่นกัน

เสียงเคาะประตูดังมา หลิงเฟิงกล่าวว่า “ซื่อจื่อ ซื่อจื่อเฟย ไท่จื่อแห่งแคว้นชางเยว่มาแล้ว จะพบซื่อจื่อเฟย”

“ชางหลันเย่?” หยุนถิงขมวดคิ้ว นี่คืออาณาเขตของแคว้นชางเยว่ เขารู้ก็สมเหตุสมผลดี

“ท่านพี่ ข้าไปดูหน่อย!” หยุนถิงกล่าว

“อืม!”

ทันทีที่หยุนถิงพึ่งเดินออกจากลาน ก็เห็นชางหลันเย่ที่สวมชุดดำ หน้าผอมลงมาก ริ้วรอยบนใบหน้าดูคมชัดขึ้นและลึกขึ้น คนทั้งคนก็ดูขุมนุ่มลึกและเก็บตัวมากกว่าเมื่อสองปีก่อน

ยังไม่รอหยุนถิงได้เอ่ยปาก ชางหลันเย่ก็เดินตรงมา และกอดนางไว้อย่างตื่นเต้น”หยุนถิงเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ดีมากเลย ข้าให้คนตามหาเจ้าไปสองปี ก็ไม่มีข่าวของเจ้ามาตลอดเลย ข้าไม่เชื่อสักทีว่าเจ้าเกิดเรื่อง ดีมากเลย ในที่สุดเจ้าก็กลับมาสักที

น้ำเสียงตื่นเต้น และสะอึกสะอื้น

ตอนนั้นเมื่อชางหลันเย่รู้สึกหยุนถิงตกจากหน้าผา ก็รีบพาคนไปที่แคว้นต้าเยียนทันที หาหยุนถิงไปหนึ่งเดือนเต็มๆ ก็หาไม่เจอสักที สุดท้ายแคว้นชางเยว่เกิดเรื่องชางหลันเย่จึงต้องกลับมา

ช่วงสองปีนี้เขาก็ให้คนไปตามหาทั่วทุกที่ เพียงแต่ว่าสุดท้ายล้วนไม่มีผลลัพธ์ใดๆทั้งนั้น

เมื่อสองวันก่อน สายลับของชางหลันเย่รายงานว่าจวินหย่วนโยวพาหยุนถิงและคนอืนๆเข้ามาที่แคว้นชางเยว่ ชางหลันเย่ก็ตื่นเต้นมาก จึงรีบเดินทางในตอนกลางดึกเลย

“เจ้าปล่อยได้แล้ว!” เสียงที่เย็นชาดังขึ้น จวินหย่วนโยวอุ้มลูกทั้งสองไว้แล้วเดินออกมา

ชางหลันเย่แข็งทื่อ และตระหนักได้ว่าตัวเองยั้งสติไม่อยู่กิริยาที่ไม่ดี จึงรีบปล่อยหยุนถิง”ข้าขอโทษ ข้าเพียงแค่รู้ดีใจเกินไปที่เจ้ายังมีชีวิตอยู่”

“ท่านมาได้อย่างไร?” หยุนถิงถาม

นางคิดไม่ถึงว่าชางหลันเย่จะหาตัวเองไปตั้งสองปี และตัวเองพึ่งถึงแคว้นชางเยว่ เขาในฐานะไท่จื่อก็มาด้วยตนเองทันที ซึ่งทำให้หยุนถิงซาบซึ้งยิ่งนัก

“ข้าตามหาเจ้ามาโดยตลอด และเมื่อรู้ว่าเจ้ายังมีชีวิตอยู่ ก็รีบมาพบเจ้าทันที” ชางหลันเย่พูดอย่างตื่นเต้น

จวินหย่วนโยวเดินมาหาพร้อมกับลูกในอ้อมแขน”ท่านแม่ ท่านแม่!” จวินเสี่ยวเทียนกับจวินเสี่ยวเหยียนตะโกน

ชางหลันเย่ตัวแข็งทื่อ และมองไปที่เด็กทั้งสอง เด็กชายเหมือนจวินหย่วนโยวยิ่งนัก เด็กหญิงก็คล้ายกับหยุนถิงมาก เพียงแวบเดียวก็สามารถมองออกได้

“หยุนถิง พวกเขาคือ?” ชางหลันเย่ถามด้วยความตกตะลึง

เพราะก่อนหน้านี้หยุนถิงตั้งครรภ์ และปิดบังทุกคนเอาไว้ นอกจากคนในจวนซื่อจื่อและคนที่ใกล้ชิดหน่อย คนอื่นๆ ต่างก็ไม่รู้เลย

“พวกเขาเป็นลูกของข้ากับถิงเอ๋อร์ ชางไท่จื่อไม่แสดงความยินดีกับข้าหรือ?” จวินหย่วนโยวถามกลับ

“ยินดีด้วย ยินดีด้วย” ชางหลันเย่กล่าว

“ชางหลันเย่ท่านมาได้ทันเวลาพอดีเลย ข้าต้องการความช่วยเหลือจากท่าน” หยุนถิงกล่าว และให้ท่านลั่วกับหลิงเฟิงเอาเด็กไปทันที

“สั่งการมาได้เลย”

จอมนางข้ามพิภพ

จอมนางข้ามพิภพ

Status: Ongoing
นางเป็นบุตรีเอกแห่งจวนเฉิงเสี้ยง เป็นยัยอัปลักษณ์ไร้ค่าผู้ฉาวโฉ่ กลับมีรักแรกพบกับหลีอ๋อง คะยั้นคะยอจะอภิเษกสมรสกับหลีอ๋องอย่างไม่กลัวสิ่งใด ณคืนวันอภิเษกถูกหลีอ๋องทำอัปยศอดสูจนตายพอลืมตาขึ้นดันทะลุมิติมาอีกภพหนึ่งกลายเป็นศาสตราจารย์หมอพิษสมัยใหม่ควบสองบัณฑิต คนที่เคยรังแกนาง มันต้องเอาคืนเป็นร้อยเท่าพันเท่า นาง…จัดการกับพวกสันดานชั่วอย่างออกนอกหน้า หาเงินอย่างถ่อมตน มัสมบัติระรวยใต้หล้า เพื่อหลุดพ้นจากหลีอ๋อง เลยแต่งในฐานะนางสนมของซื่อจื่อ กลับคิดไม่ถึงว่าจะไปกระตุกหนวดเสือให้เข้าแล้ว เขาเป็นซื่อจื่อผู้ป่วยเสาะแสะ สุขุมอ่อนโยน เย็นชาเจ้าเล่ห์ ร่างมีพิษที่จะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน หยุนถิงเป็นคนช่วยเขาแก้พิษ ทำให้เขากลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง เขาสาบานว่า จะอยู่กินกับนางแต่เพียงผู้เดียว หลังแต่งงาน นางนวดเอวที่ปวดอยู่ เตะเขาลงจากเตียง:“รับจดหมายรักจากหญิงอื่น ยังกล้ามานอนกับหม่อมฉันอีกรึ?” เขารีบอธิบาย:“น้องนาง ข้าผิดไปแล้ว ใครกล้ามาแย่งข้าไปจากเจ้า ข้าจะตัดขานางให้รู้แล้วรู้รอด” นางยักคิ้วหลิ่วตา:ก็ท่านนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท