ตอนที่ 99 แอบมอง
โม่หันก้าวเข้าไปดึงผ้าห่มของเด็กสาวออก และในจังหวะที่ก้มลงมองเธอขณะเอาจะผ้าห่มคลุมให้ดีๆ จู่ๆ เขาก็หันหนีด้วยใบหน้าร้อนผ่าว
ทำไมซย่าชิงอีถึงไม่ได้ใส่เสื้อผ้าสักชิ้นแบบนี้!
โม่หันเห็นทุกอย่างแม้จะเผลอมองเพียงแวบเดียว มือขวาของเธอวางอยู่บนศีรษะ เส้นผมยุ่งเหยิงตกลงปรกใบหน้ากว่าครึ่ง นอกเหนือจากนั้นเป็นภาพที่ทำให้เขาต้องร้อนหน้าขึ้นมา
หัวไหล่ขาวเนียนกับเนินอกกระจ่างใสราวไข่มุก และรูปร่างงดงามที่เห็นชัดเมื่อเธอนอนตะแคง หน้าอกขยับขึ้นลงแผ่วเบารับกับเอวคอดที่คนมองคิดว่าหากเขาจับมันเข้าก็อาจจะหักได้
แรงจากการที่เขาขยับตัวคลุมผ้าห่มให้เธอทำให้เด็กสาวรู้สึกตัวตื่นขึ้น เธอมองโม่หันที่ยืนหันหลังให้เธออยู่ข้างเตียงอย่างสะลึมสะลือ
อาการปวดหัวเข้ามาเยือนเมื่อหันกลับไปซุกตัวกับที่นอน เธอไม่ทันได้สังเกตสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับตัวเอง และคิดว่าโม่หันเข้ามาเอาของบางอย่างในห้องของเธอเท่านั้น เธอหันไปซุกศีรษะกับหมอนต่อเหมือนอย่างที่เคยทำ
“กี่โมงแล้วคะพี่” เธอเอ่ยถามเสียงแหบอย่างแผ่วเบาทั้งที่เปลือกตายังปิดอยู่
โม่หันเอี้ยวกลับไปมองเพียงนิดเดียว “เธอควรตื่นได้แล้ว”
ซย่าชิงอีตอบรับในลำคอครั้งหนึ่ง ก่อนจะรู้ตัวถึงสัมผัสบนเตียงที่แตกต่างไปจากทุกวัน เธอขยับลุกทันทีที่นึกขึ้นได้ จากนั้นก้เปิดดูใต้ผ้าห่มและแทบหลุดเสียงร้องออกมา
ทำไมเธอถึงแก้ผ้าล่อนจ้อนแบบนี้!
ทันใดนั้นซย่าชิงอีก็รีบพันผ้าห่มเข้ากับตัวแน่นและพยายามนึกถึงสิ่งที่เธอทำลงไปเมื่อวาน ทว่าสิ่งที่น่ากลัวคือเธอจำอะไรไม่ได้สักนิด ไม่ใช่ว่าเธอกินข้าวอยู่กับโม่หันที่ร้านอาหารหรอกเหรอ แถมยังเอร็ดอร่อยกับอาหารอีกด้วยนี่
แล้วหลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้น! เกิดอะไรขึ้นจากนั้น!
เธอมองโม่หันที่ยืนหันข้างให้เธอก่อนถามด้วยความอยากรู้ “เมื่อวานฉันทำอะไรลงไปเหรอคะ”
อีกฝ่ายหันหลังให้ เขาย้อนนึกไปถึงสิ่งที่เขาเพิ่งเห็นขณะที่มองท่าทีตกใจกลัวของเธอ สายตาเสมองไปทางอื่น “เธอดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้วก็ทำตัวบ้าบอนิดหน่อย”
“แล้วทำไมฉันถึงได้แก้ผ้าแบบนี้ล่ะคะ” คำถามที่ดูเหมือนจะเพิ่งออกมาจากปากของเธอ
โม่หันมองซย่าชิงอีที่โผล่แต่หัวออกมาจากผ้าห่มที่ห่อรอบตัวแน่น แล้วอยู่ดีๆ เขาก็รู้สึกเป็นคนผิดเมื่อเห็นสายตาที่เธอส่งตรงมาให้เขา “พูดอะไรของเธอ! ที่ธะ…เธอ… แก้ผ้าไม่ได้เกี่ยวอะไรกับพี่สักหน่อย พี่ไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้นแหละ”
โม่หันเพิ่งรู้ตัวว่านี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เขาพูดติดอ่างแบบนี้หลังจากจบประโยคตะกุกตะกักนั้นอย่างไม่สมกับเป็นทนายความสักนิด
“ฉันไม่ได้จะว่าอะไรพี่เสียหน่อย ฉันหมายถึงฉันทำอะไรลงไปหลังจากเมาเมื่อวานต่างหาก ตอนนี้ฉันจำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง” เธออยากรู้ถึงความทรงจำที่หายไปหลังจากเมา
“เธอไม่ได้ทำอะไรมากหรอก แค่คว้าเพื่อนร่วมงานของพี่มาจูบครั้งหนึ่งเท่านั้นเอง” โม่หันเลี่ยงที่จะเล่าว่าเขาเองก็ถูกเธอจูบเหมือนกัน รวมถึงรายละเอียดเหตุการณ์อื่นๆ ด้วย เขาไม่อยากนึกถึงเหตุการณ์เมื่อวานอีกแล้ว
คนฟังอึ้งไปไม่น้อย เธอกระซิบบอกตัวเองว่าเป็นไปไม่ได้และเอ่ยถามซ้ำ “แล้วเสื้อผ้าของฉันล่ะคะ ทำไมฉันถึงแก้ผ้าแบบนี้ล่ะ”
“พี่จะไปรู้เหรอว่าเธอมาอยู่ในสภาพนี้ได้ยังไง พี่กลับห้องไปนอนทันทีหลังจากพาเธอมานอนที่ห้อง เธอไม่รู้ตัวว่าทำอะไรลงไปเลยเหรอ” เขาอธิบายอย่างร้อนรนทันที
ซย่าชิงอีไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องตื่นตระหนกขนาดนี้ด้วย “ทำไมพี่ต้องรีบแก้ตัวขนาดนี้ด้วยเล่า ฉันไม่ได้บอกว่าพี่เป็นคนถอดเสื้อผ้าฉันเลยนะ ต่อให้พี่ทำจริงก็ไม่เป็นไรหรอก ตัวฉันก็ไม่ได้มีอะไรน่ามองอยู่แล้ว”
เธอหัวเราะออกมาแทน ท่าทีไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขามองเธออย่างไม่เชื่อสายตา
“ก็ฉันพูดเรื่องจริงนี่คะ ไม่มีอะไรให้มองหรอกนอกจากรอยแผลเป็นเต็มไปหมด” อยู่ดีๆ เธอก็อยากแกล้งอีกฝ่ายที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่าง อย่างนึกสนุกเมื่อได้เห็นคนที่ไร้ความรู้สึกอย่างเขาตื่นตระหนกเช่นนี้ ทำท่าจะพลิกผ้าห่มออกจากตัวพร้อมเอ่ยขึ้นอย่างยิ้มแย้ม “พี่อยากให้ฉันเปิดให้พี่ดูตอนนี้ไหมคะ พี่อยากเห็นไหมคะ!”
ตอนที่ 100 ในน้ำ
โม่หันเบนหน้าหนี “ซย่าชิงอี! ช่วยระวังตัวเองกว่านี้หน่อยไม่ได้เหรอ” เขากล่าวสำทับ “ลุกจากเตียงได้แล้ว ไม่ต้องไปเรียนหรือไง วันนี้พี่ไปเธอส่งไม่ได้นะ พี่ต้องไปทำงานแล้ว”
เขาพูดเพียงเท่านั้นแล้วก็รีบเดินออกไปจากห้องของเธอ ทิ้งให้เธอหัวเราะกับตัวเองคนเดียว
หลายวันมานี้ซย่าชิงอีออกจะยุ่งเสียหน่อย การสอบเพื่อย้ายคณะของเธอกำลังใกล้เข้ามา เธอทุ่มเทเวลาส่วนใหญ่ในการทำความเข้าใจเนื้อหาในหลักสูตร มีความรู้เชิงทฤษฎีที่เธอต้องอ่านให้เข้าสมอง เป็นเหตุผลว่าทำไมช่วงนี้เธอจึงมาถึงมหาวิทยาลัยเร็วและใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ในห้องสมุด เธอยังปฏิเสธจางหยางที่ขอให้ช่วยวิเคราะห์คดีลักพาตัวอีกด้วย
ทว่าจางหยางกลับไม่ยอมแพ้และมาหาเธอที่มหาวิทยาลัยอยู่เนืองๆ จนเป็นภาพชินตาที่จะเห็นเขามานั่งอยู่กับเธอที่ห้องสมุด เฝ้าเธออ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ระหว่างที่เธอพักจากการอ่านหนังสือเขาก็มักจะเอาข้อมูลออกมาให้เธอดูอย่างกระตือรือร้น
เธอจำใจยอมรับว่าคงไม่อาจหลีกเลี่ยงเจ้าหน้าที่หนุ่มได้อีกต่อไป ยังดีที่เขาจะมาขอความช่วยเหลือจากเธอก็ต่อเมื่อเขาไม่เข้าใจรูปคดีเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นเขามักทำราวกับว่าเธอไม่มีตัวตนและไม่ได้ติดต่อเธอมา มันทำให้เธอยิ่งรู้สึกสบายใจเมื่อไม่ต้องติดต่อหรือมีความสัมพันธ์กับตำรวจมากนัก
ในที่สุดเธอก็ได้หายใจหายคอโล่งเสียทีเมื่อการสอบเพื่อย้ายคณะผ่านพ้นไป เมื่อโม่หันถามถึงมัน เธอก็ตบอกตัวเองพลางตอบกลับไป “ไม่ต้องกังวลหรอกค่ะ! รอดูผลสอบของฉันได้เลย!”
พอพูดถึงเขา ซย่าชิงอีไม่ค่อยกล้าไปที่สำนักงานกฎหมายของเขาสักเท่าไรหลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น เธอรู้สึกอับอายอยู่ไม่น้อย อยากจะขุดหลุมฝังตัวเองเพื่อซ่อนตัวจากความจริงที่ว่าเธอเคยจูบเพื่อนร่วมงานในบริษัทของเขาตอนเธอเมา
แน่นอนว่าเธอไม่เคยรู้ว่าคืนนั้นเกิดอะไรที่โม่หันไม่ได้บอกเธอขึ้นบ้าง
หลายวันก่อนหน้านี้เขาสั่งเธอไว้ว่าต่อไปห้ามดื่มแอลกอฮอล์แม้แต่หยดเดียว เธอห้ามดื่มมันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากคนอื่นอยากให้เธอดื่มก็ต้องปฏิเสธพวกเขาไปว่าเธอแพ้แอลกอฮอล์
เขาไม่ได้บอกเหตุผลที่สั่งห้ามเมื่อเธอเอ่ยถาม
บางครั้งเธอก็ตลกกับการการกระทำของเขา แต่ก็ต้องทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้
ด้านโม่หันที่งานยุ่งในช่วงหลายวันมานี้ พูดให้ถูกคือเขางานยุ่งทุกวัน อย่างเช่นวันนี้เป็นต้น ในที่สุด
ซย่าชิงอีก็ได้โอกาสในการไม่ต้องไปเรียนหนังสือหลังจากการสอบ เธอจมอยู่กับหนังที่ดูอยู่ที่บ้านระหว่างที่เขาโทรไปบอกให้เธอเอาเอกสารไปให้ที่โรงแรมที่ตั้งอยู่ติดกับศาล
เขากำลังปรึกษาหารือรายละเอียดเรื่องความร่วมมือกับบริษัทอื่นๆ ที่ล็อบบี้ของโรงแรม และยังมีประชุมเกี่ยวกับการต่อสู้คดีในชั้นศาลครั้งที่สองอีกด้วย และเขาก็พบว่าลืมเอกสารสำคัญไว้ที่บ้านในเวลาต่อมา
เหตุอ้อมๆ ที่ทำให้เขาลืมก็เพราะซย่าชิงอีที่เอากาแฟมาให้เขาก่อนที่เธอจะเข้านอนในตอนที่เขาเพิ่งจัดเอกสารเสร็จ เขากลัวว่ากาแฟจะหกใส่จึงวางเอกสารไว้บนชั้นที่มุมหนึ่ง เขาเลยลืมหยิบมันออกมาด้วยตอนออกจากบ้านแต่เช้าตรู่
เธอตกปากรับคำว่าจะเอาไปให้ที่โรงแรมภายในครึ่งชั่วโมง
เด็กสาวปิดโทรทัศน์ทันทีก่อนหยิบเสื้อเชิ้ตมาสวมลวกๆ จากนั้นก็คว้าเอกสารและมุ่งหน้าไปที่โรงแรม
เธอโทรหาเขาเมื่อมาถึงทางเข้าแต่ไม่มีคนรับสาย โม่หันส่งข้อความตามมาบอกว่าเขากำลังประชุมอยู่ และให้เธอไปหาที่ห้องประชุมชั้นหนึ่งที่ใกล้สระว่ายน้ำที่สุดบริเวณด้านขวาของล็อบบี้
เมื่อเดินมาจนถึงสระว่ายน้ำ เธอก็หยุดชะงักฝีเท้าหลังจากบังเอิญมองไปที่สระว่ายน้ำอย่างไม่ได้ตั้งใจ
ความรู้สึกของการตกลงไปในน้ำเย็นเฉียบเป็นอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ซย่าชิงอีกำลังรู้สึกอยู่ในตอนนี้ ทุกส่วนของร่างกายนิ่งค้าง สิ่งเดียวที่เคลื่อนไหวคือหัวใจที่เต้นระรัวไม่หยุด ก่อเป็นความอึดอัดในอกที่รุนแรงขึ้น