ตอนที่ 107 นอนเป็นเพื่อนฉันนะ
“แค่คืนนี้เท่านั้นนะคะ ฉันกลัว” ซย่าชิงอีเอ่ย
“แค่ฝันร้าย มีอะไรน่ากลัวกัน” เขาส่งยิ้มให้แต่ไม่ได้ขยับมือเธอออก
“ฉันจะนอนเงียบๆ ไม่รบกวนพี่เลยนะคะ”
“เอาอย่างนี้ไหม พี่จะอยู่เป็นเพื่อนเธอที่นี่จนกว่าเธอจะหลับ” เขาว่าขึ้น
เด็กสาวในอ้อมแขนของเขาส่ายหัวอย่างไม่ยอมและกล่าวประท้วง “ไม่ค่ะ พี่ห้ามไปไหนทั้งนั้นนะ”
โม่หันถอนหายใจ อยากจะดึงมือเธอออกแต่เธอกลับกระชับกอดเขาแน่นขึ้นจนรู้สึกเหมือนจะขาดอากาศหายใจ สุดท้ายเขาจึงยอมแพ้ “ก็ได้ งั้นพี่จะนอนเป็นเพื่อนเธอเอง”
แค่เขารับปากเพียงเท่านั้น เธอก็ปล่อยมือและดึงชายหนุ่มให้มานอนด้วยกันบนเตียง
“อย่างน้อยก็รอให้พี่ไปปิดไฟด้านนอกก่อนเถอะ” เขาพูดอย่างเอือมระอา
อีกฝ่ายมองเขาอย่างลังเลใจ กลัวว่าเขาจะไม่ทำตามคำพูดถ้าเธอปล่อยมือเขาไป “พี่ต้องมานอนเป็นเพื่อนฉันนะคะ”
เขาถอนหายใจในใจอีกครั้ง เมื่อลุกขึ้นไปปิดไฟก็คิดว่าแค่ดูแลเธอเหมือนที่พี่ชายทำกับน้องสาวก็เท่านั้น คนอื่นๆ ก็คงทำเช่นนี้เหมือนกัน
เว้นแต่ว่าเมื่อเขาปิดไฟและเดินกลับมาที่เตียงของเธอ เขาก็ยังรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย โม่หันยกมือขึ้นเกาศีรษะก่อนค่อยๆ เดินอ้อมมาอีกด้าน พลิกผ้าห่มของเธอ เด็กสาวบนเตียงไม่แสดงอาการเคอะเขินใดๆ ทั้งยังขยับตัวให้มีที่ว่างสำหรับเขาและรอให้เขาขึ้นมานอนบนเตียงอีก
โม่หันรู้สึกถึงได้สายตาของเธอที่จับตามองเขาในความมืด เขายืนอยู่ข้างเตียงจ้องมองอีกฝ่ายชั่วครู่ก่อนขยับขึ้นไปนอนเป็นเพื่อนเธอบนเตียงในที่สุด
ดูเหมือนเขาจะไม่เคยปฏิเสธคำขอของเธอได้เลยสักครั้ง
ทีแรกเขาคิดว่าเธอจะเข้ามากอดเขาทันทีที่เขานอนลง แต่เธอทำเพียงนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาอยู่ข้างๆ เขาและทิ้งระยะห่างระหว่างกันไว้
หลังเวลาผ่านไปนาน เขาก็ได้ยินเสียงขอร้องแผ่วเบาของเธอดังขึ้นในความมืด “ฉันขอจับมือพี่ไว้ได้ไหมคะ”
เขาไม่ขยับและไม่ได้ตอบกลับเหมือนกับคนที่หลับไปแล้ว
ซย่าชิงอีค่อยๆ เอื้อมมือเข้ามาจับมือของเขาไว้อย่างระมัดระวังและหยุดนิ่งอยู่อย่างนั้น
ท่ามกลางความมืด การสัมผัสกายกันยิ่งกลายเป็นเรื่องอ่อนไหว เมื่อมือเล็กนุ่มนิ่มของเธอสัมผัสเข้ากับอวัยวะเดียวกันของเขาก็อดไม่ได้ที่จะเผลอกลั้นหายใจ แม้ว่าจะไม่ได้ขยับแต่ยังรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิในร่างกายและเสียงลมหายใจของอีกฝ่าย สัมผัสถึงฝ่ามือชื้นเหงื่อที่น่าจะมาจากความหวาดกลัวเพราะฝันร้ายก่อนหน้านี้ ไม่รวมถึงจังหวะหัวใจที่เต้นไม่เป็นส่ำขณะที่กุมมือเธอไว้
เขาไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะมีวันที่เขาต้องมาประหม่ากับการจับมือคนอื่นแบบนี้
ในทางกลับกัน เด็กสาวบนเตียงกลับผ่อนคลายขึ้นเมื่อได้จับมือเขาไว้ แค่ได้สัมผัสเขาแบบนี้ก็เพียงพอแล้ว เธอเพียงอยากรับรู้ถึงการมีตัวตนของเขาในโลกที่มืดมนนี้ อยากรับรู้ว่ามีคนที่รู้ถึงตัวตนของเธอ
อาจเป็นเพราะมือใหญ่แสนอบอุ่นของเขากุมมือเธอเอาไว้อยู่ ฝันร้ายจึงไม่กลับมาเยือนอีกจนกระทั่งเธอตื่นขึ้น
เมื่อโม่หันตื่นในเช้าวันถัดมา ซย่าชิงอียังคงนอนหลับสนิท เขาก้มมองและเห็นว่าเธอยังจับมือของเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย อีกทั้งยังยังนอนทิ้งระยะห่างกับเขาอยู่ท่าเดิมเหมือนเมื่อคืน เพียงแค่หันศีรษะไปอีกด้านเท่านั้น ลำคอยาวของเธอดูสวยโดดเด่นยามที่สะท้อนกับแสงอาทิตย์
เขาขยับตัวและตั้งใจจะดึงมือกลับมา แต่เขากลับบังเอิญทำอีกคนบนเตียงตื่น เธอพึมพำในลำคอเบาๆ ไม่กี่ครั้ง ซุกศีรษะเข้ากับผ้าห่มเหมือนแมวก่อนโน้มศีรษะมาทางเขาขณะที่เปิดเปลือกตาขึ้น
และนั่นเป็นจังหวะที่พวกเขาได้สบตากัน
ตอนที่ 108 ของขวัญ
เขารู้สึกประหม่าเล็กน้อยก่อนหลบตาเธอไปอีกทางอย่างพูดอะไรไม่ออก อีกด้านหนึ่งซย่าชิงอีค่อยๆ หลับตาลงอีกครั้งหลังจากลืมตาตื่นขึ้นมา ยังคงอยู่ในอาการสะลึมสะลือและอ้าปากพูดหลังจากนั้นเพียงชั่วขณะ “ฉันหิวจังค่ะพี่”
โม่หันออกจะเบื่อหน่ายกับนิสัยที่ถามหาของกินทันทีหลังจากตื่นนอนของเธอ เขาเขย่ามือที่อีกฝ่ายยังจับไว้แน่นและเอ่ยขึ้น “ปล่อยได้แล้ว พี่จะไปทำอาหารเช้าให้”
เธอพยักหน้ารับเบาๆ ปล่อยมือเขาและหันตัวกลับไปนอนต่อ
“เจ็ดโมงครึ่งแล้ว ตื่นได้แล้ว” เขานั่งอยู่อีกด้านหนึ่งของเตียงพลางบิดมือที่เธอจับไว้ตลอดคืนไปมา
ไม่มีแม้แต่ความเคลื่อนไหวหรือเสียงใดๆ จากเธอ
“ไม่ไปเรียนเหรอ เธอไม่ได้มีคาบเรียนวันนี้หรือไง” เขาลุกจากเตียง จัดเสื้อผ้าให้เข้าที่พลางมองคนที่ยังนอนหันหลังให้เขาบนเตียง
หลังได้ยินดังนั้น ซย่าชิงอีก็ค่อยๆ ลุกขึ้นมา เปลือกตายังปิดอยู่ ชุดนอนยับยู่ยี่ เธอฝืนตัวเองพยักศีรษะที่ผมกระเซอะกระเซิง ก่อนคลานลงมาจากเตียงช้าๆ
เขาที่จะเดินกลับไปที่ห้องของตัวเองเพื่ออาบน้ำ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะตกมาจากเตียงก็รีบเข้าไปช่วยก่อนที่เธอจะล้ม
“เธอง่วงขนาดนั้นเลยเหรอ” เขามุ่นคิ้วถาม
ซย่าชิงอีบังคับตัวเองให้ลืมตา จ้องมองเขาอย่างน่าสงสารและพูดเสียงแหบแห้ง “ฉันตื่นไม่ไหวค่ะ ฉัน…ง่วงมากเลย”
โม่หันช่วยประคองเธอไว้ด้านหนึ่ง กล่าวขึ้น “วันนี้วันหยุด รถสาธารณะคงคนแน่น เธอน่าจะแทรกตัวเข้าไปยาก ถ้าอยากให้พี่ไปส่งก็ช่วยรีบหน่อย พี่รีบอยู่ สายได้ถึงแปดโมงเท่านั้น”
“ได้ค่ะ” เธอตอบเสียงอ่อนแรง
แม้ว่าทั้งสองจะไม่พอใจกันนักตอนที่กินอาหารเย็นด้วยกันเมื่อคืน แต่หลังจากตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเธอก็รู้สึกว่าพวกเขายิ่งปฏิบัติต่อกันเหมือนพี่น้องจริงๆ มากขึ้น และมันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาก แม้ว่าเขาอาจจะ
เย็นชา พูดน้อยและเอาแต่ยุ่งกับการทำงาน แต่เธอก็รับรู้ได้ว่าเขาดูแลเธอเป็นอย่างดี
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขามักจะอยู่ข้างเธอในช่วงเวลาที่เธออ่อนแอที่สุดอยู่เสมอ
เขาไม่รู้ว่าจะต้องปลอบโยนเธอด้วยคำไหน มีไม่กี่คำเท่านั้นที่เขารู้ว่าต้องพูด แล้วมันจะผ่านไป แล้วมันจะผ่านไป อย่าคิดมากเลย
เขารู้เพียงแค่ต้องกอดเธอ ต้องลูบศีรษะของเธอ และตบปลอบเบาๆ แผ่นหลังของเธอ
ทว่าซย่าชิงอีกลับรู้สึกผ่อนคลายจากสิ่งที่เขาทำ
เธอยังจำตอนที่เขาอนุญาตให้เธอตามเขากลับบ้านตอนอยู่ที่โรงพยาบาลได้ เธอจ้องมองแผ่นหลังของเขาและคิดว่าคงจะดีถ้าสามารถเดินตามหลังเขาแบบนี้ได้ตลอดไป เธอคงจะไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหากได้ตามเขาอยู่ด้านหลังอย่างนี้
เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตัวดีๆ กับเขา แม้ว่าจะฟังดูแปลกแต่นั่นเป็นสิ่งที่เธอคิด ตอนนี้เธอได้งานที่สำนักงานนักสืบและมีเงินเป็นของตัวเองเลยคิดอยากซื้อบางอย่างให้เขา
แต่เธอไม่รู้ว่าเขาชอบอะไร
นั่นแหละที่เป็นปัญหาใหญ่
เธออยากใช้เวลาไม่กี่วันนี้ถามกับคนรอบตัวเขาดูจะได้รู้ว่าเขาชอบอะไรกันแน่ ก่อนจะซื้อให้เขาและทำให้เขารู้ว่าน้องสาวที่เพิ่มมาคนนี้ไม่ได้ทำตัวไร้ประโยชน์ไปวันๆ
ช่วงนี้เด็กสาวแวะไปอยู่ที่บริษัทของเขาบ่อยๆ อ้างว่าเธอต้องรีบทำการบ้าน แต่จริงๆ แล้วกำลังแอบเก็บข้อมูลว่าเขาชอบอะไร
และคำตอบก็เป็นเหมือนเดิมทุกครั้งไป นั่นก็คือการทำงาน
เธอมุ่ยหน้าอย่างคิดไม่ตกกับปัญหาใหญ่
ตัดสินใจเปลี่ยนวิธี เธอจะไม่ซื้อของขวัญให้แล้วเพราะเขาคงไม่ชอบมันแน่ๆ
ทันใดนั้นก็คิดบางอย่างขึ้นได้ เธอรู้แล้วว่าจะให้อะไรกับเขา แม้จะไม่รู้ว่าเขาจะชอบหรือไม่แต่สิ่งนี้ก็น่าจะมีประโยชน์กับเขาอย่างแน่นอน