ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 40
โจเซฟินเด้งขึ้นมาจากโซฟาด้วยความตกใจ เธอจับแก้มของร็อบบี้น้อยโดยไม่มีสัญญาณเตือน ทั้งบีบทั้งหยิก “เดี๋ยวนะ นี่ใช่เจนสันจอมเหยียดหยามและไม่ไว้ใจใครของพวกเราจริงเหรอ?”
ร็อบบี้น้อยไม่ได้ดูโกรธหรือรำคาญอะไรกับการกระทำของโจเซฟิน ตรงกันข้าม เขาเผยรอยยิ้มอันใสซื่อให้เธอแทน
โจเซฟินตะโกนออกมาด้วยความแปลกใจ “เจย์ ฉันมั่นใจว่าลูกชายของนายถูกลักพาตัวแน่”
เจย์ตบเข้าไปที่หลังหัวของโจเซฟินและตำหนิเธออย่างเยือกเย็น “เธอควรหยุดอ่านนิยายไร้สาระพวกนั้นได้แล้ว สิ่งที่เธอพูดชักจะเพ้อเจ้อเข้าไปทุกวัน”
แม้ว่าคุณปู่คุณย่าไม่สามารถยอมเชื่อการจับพิรุธแปลก ๆ ของโจเซฟินได้ พวกเขาไม่อยากจะคิดหากหลานของพวกเขาถูกพาตัวไป
เมื่อพวกเขาเริ่มทานอาหาร คุณปู่คุณย่าตักอาหารจำนวนมากใส่ชามของร็อบบี้น้อย แต่เด็กน้อยก็ไม่ได้ปฏิเสธเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้าม เขาขอบคุณผู้อาวุโสทั้งสองอย่างสุภาพ “ขอบคุณนะครับคุณปู่ ขอบคุณนะครับคุณย่า”
แม้ว่า “เจนสัน” จะน่ารักและเป็นมิตร เจย์พลันรู้สึกว่ามีอะไรผิดแปลกไป
ทั้งครอบครัวนั้นค่อนข้างชินกับความเฉยเมยของเจนสัน จึงเข้าใจได้ว่าทำไมตอนนี้พวกเขาจึงไม่รู้ว่าจะรับมือกับเด็กชายในตอนนี้ยังไง เจนสันน้อยผู้เย็นชาที่รักษระยะห่างกับคนอื่นเป็นพันไมล์ ดูเหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นเด็กน้อยน่ารักที่ไม่ว่าเดินไปทางไหน ก็จะมีดอกไม้งอกเงยขึ้นที่นั่น
ยกเว้นเพียงแต่โจเซฟิน
คุณปู่และคุณย่านั้นถึงกับได้รับผลกระทบทางจิตใจจากบุคลิกที่เปลี่ยนไปเป็นคนละคนของหลานชาย เมื่อหายซึม คุณปู่เริ่มดุลูกชายของเขาทันที “เจย์ อย่าทำงานหนักทุกวันเกินไป เจนสันกลายเป็นแบบนี้ได้อย่างไร? แกรู้ไหมว่าทำไม?”
เจย์มองไปที่ “เจนสัน” ผู้ซึ่งกำลังตั้งหน้าตั้งตาจัดการอาหารในชาม บุคลิกที่ไม่เหมือนเดิมของ “เจนสัน” ทำให้เขากลัวเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม “เจนสัน” อยู่ตรงหน้าเขา ดวงตาใสของเขาราวกับท้องทะเล จมูกของเขาตรงและสูงดังขุนเขา… ปัญญาของเขาก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังเดาไม่ออกอยู่ดีว่าทำไมลูกชายของเขาถึงได้เปลี่ยนไปกะทันหัน
ร็อบบี้น้อยได้ยินการสนทนาของเหล่าผู้ใหญ่ก็แอบหัวเราะชอบใจ ‘คุณพ่อ ไม่รู้เหรอครับว่าพ่อมีลูกชายสองคน?”
ในอีกด้านหนึ่ง โจเซฟินชอบในตัวเจนสันคนใหม่มาก เธอวางมือบนหัวของร็อบบี้น้อยและบอกให้ “เจนสัน” เป็นแบบนี้ต่อไป “โอ้ ตายจริง ช่างน่าแปลกใจอะไรอย่างนี้ ความพูดแสนสุภาพออกมาจากเจนสันของพวกเรา เจนสัน บอกน้าที ใครรักษาโรคออทิสติกของเธอ? น้าจะจ่ายเงินให้เขา”
เมื่อได้ยินถึงโอกาสจะได้เงินเป็นค่าเชื่อมสัมพันธ์ของพ่อกับแม่ ร็อบบี้น้อยตัดสินใจจะใช้ปากมหาเสน่ห์ของเขาในการทำให้พ่อแม่ของเขาพบกัน
“เธอคือโรสครับ โรสบอกผมว่าโลกใบนี้กว้างใหญ่นัก แต่กลับมีคนดี ๆ อยู่ไม่มาก เราจึงควรทำดีต่อคนที่ทำดีกับเราเช่นกัน โรสคือพี่เลี้ยงที่คุณพ่อจ้างให้ผม คุณปู่คุณย่าครับ ไม่ใช่แค่เธอสวยเท่านั้น เธอยังอ่อนโยนมาก เธอวาดภาพได้ เขียนโปรแกรม และแม้แต่ต่อเลโก้… ไม่มีอะไรในโลกที่เธอทำไม่ได้” ร็อบบี้น้อยชมโรสจนออกนอกหน้าไปมากทีเดียว
เมื่อคุณปู้ คุณย่า และโจเซฟิน ได้ยินชื่อโรส ในขณะที่พวกเขานั่งอยู่ตรงข้ามกับร็อบบี้น้อย พวกเขาพลันทำตะเกียบหลุดมือจนพวกมันตกลงบนโต๊ะ
ข่าวของโรสทำให้พวกเขาตกตะลึง
“เจย์ เรื่องที่เจนสันพูดจริงเหรอ?” คุณปู่กระซิบถาม
เมื่อได้ยินชื่อโรส อารมณ์ที่เคยดีของเจย์ก็ระเหยหายไปทันที เขาพยักหน้า “ใช่”
มื้ออาหารดำเนินต่อและจบลงด้วยความเงียบงัน
คุณปู่ยืนขึ้นและกล่าวกับเจย์ “ขึ้นมาข้างบนกับฉัน ฉันมีอะไรจะบอกแก”
เจย์ตามพ่อของเขาไปที่ห้องอ่านหนังสือ ชายชรานั่งลงบนเก้าอี้ไม้มะฮอกกานีสีดำมน หลังจากถอนหายใจออกมายาวเหยียด เขาจ้องลูกชายของเขาเขม็งและกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างเจ็บปวด “เจย์ ฉันรู้ว่าแกไม่ชอบเธอ แต่ยังไงเธอก็คือแม่บังเกิดเกล้าของเจนสัน แกก็เห็นว่าเธอนำความเปลี่ยนแปลงอะไรมาให้เจนสัน นั่นคือผลจากความรักของผู้เป็นแม่ที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนมอบให้ได้ ได้โปรด ฉันหวังว่าแกจะฝังความเคียดแค้นลงดิน แล้วพิจารณาให้เธอกลับมา”