ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 183
เมื่อไหร่ที่แองเจลีนวาดภาพเหมือนเขา มันจะดูเหมือนมีชีวิตสุด ๆ
จากสายตาของคนอื่น เจย์เเก่นและเข้าถึงไม่ได้—ประธานผู้ชั่วร้ายและน่าสะพรึงกลัว แต่ในสายตาของแองเจลีน ยังไงก็ตาม เขาเหมือนเด็กผู้ชายตัวใหญ่เสมอ
ในภาพวาดของเธอ เขามักจะสวมเสื้อยืดสีขาวที่ดูเด็ก และสร้อยแพลทินัมที่มีเครื่องรางใบโคลเวอร์สี่กลีบ และรองเท้าไนกี้ ผมของเขาจะปลิวตามสายลมในขณะที่ดวงตาของเขาจะกลมโต—เด็กชายร่างใหญ่ที่มีภาพลักษณ์ที่สดใส
เจย์ถือภาพวาดสุดท้ายของแองเจลีน เขารู้ดีว่ารูปวาดนี้ล้ำค่ากับเขาเพียงใด
เขาเสียใจที่ทำตัวอ่อนแอเมื่อก่อนนั้น ไม่มีความกล้าที่จะเผชิญหน้ากับความตายของแองเจลีน มันจะดีแค่ไหนหากเขาได้รู้เร็วกว่านี้ว่าแองเจลีนนั้นหวังพึ่งเขาขนาดไหน
ทุกคนรู้ว่าแผลเป็นที่ชัดเจนจะตกสะเก็ดและค่อย ๆ ดีขึ้นหากไม่ไปแตะต้องมัน แต่สิ่งที่เจย์ไม่คาดคิดก็คือรอยแผลเป็นที่ถูกปิดผนึกไว้ในใจของคน ๆ หนึ่งโดยเจตนาจะเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเวลาผ่านไปเหมือนไวน์ชั้นดี
ยกตัวอย่างเช่นความตายของแองเจลีน
หลังจากปิดผนึกไว้ในหัวใจของเขาเป็นเวลาเจ็ดปีเต็ม ในช่วงเวลาที่เจย์ได้เห็นภาพการเสียชีวิตของเธอ ความเศร้าโศกอย่างแสนสาหัสก็เริ่มท่วมท้นเข้ามา
เหมือนกับหุ่นเชิด เขานั่งอย่างงุนงงอยู่บนเก้าอี้หมุนหนังสีดำ เขาเป็นราชาแห่งโลกธุรกิจ เขาทรงพลังและไร้ความกลัว ทุกคนคิดว่าเขาคือราชาไร้มงกุฎผู้ที่ไม่เคยลิ้มรสความเจ็บปวด
มีเพียงหญิงสาวตัวน้อยเพียงคนเดียวและผู้เดียวที่รู้สึกสงสารเขา ผู้ที่ปลอบใจเขาเมื่อเขาขมวดคิ้ว และผู้ที่จะร้องไห้ เมื่อใดก็ตามที่เธอเป็นห่วงเขาเมื่อท้องของเขาเริ่มแสดงอาการ มันไม่มีอีกแล้ว
เขาเกลียดตัวเองที่ไม่ปกป้องเธอ
วันนั้น เจย์ไม่ได้เลิกงานตามเวลา ในเวลากลางวัน โรสไปที่โรงเรียนอนุบาลเพื่อรับเด็ก ๆ กลับ แต่ครูที่โรงเรียนอนุบาลนั้นแสดงท่าทางเย็นชาต่อเธอเล้กน้อย เจนสันกล่าวกับคุณครูด้วยน้ำเสียงเย้นชา “นี่คือคุณแม่ของผม”
คำพูดที่เขากล่าวเหมือนกับสายฟ้าฟาด ทำให้ครูทุกคนในห้องต้องแปลกใจ พวกเขาพลันกลายเป็นสุภาพกับโรสทันทีทันใด
ครูที่ตอนแรกเย็นชากับโรสรีบจบการสนทนากับผู้ปกครองคนอื่นก่อนจะหันไปหาโรสด้วยท่าทางโอ้อวด เธอกล่าว “คุณลอยล์ เจนสันนั้นเป็นเด็กที่ประพฤติดีเยี่ยม เขามีทักษะการเรียนรู้ระดับสุดยอดและความจำที่เหนือความคาดหมาย ร็อบบี้มีนิสัยร่าเริงและเป็นที่รักของเพื่อนร่วมห้องทุกคน…”
ในตอนนั้น ครูประจำชั้นก็เดินมาแล้วจ้องครูสาวคนนั้นด้วยสายตาแหลมคม เธอกล่าว “ไปซะ ฉันอยากจะพูดกับคุณลอยล์หน่อย”
เมื่อเห็นว่าครูที่ขี้ประจบไปแล้ว ร็อบบี้และเจนสันพลันยืนขึ้นหันหน้าเข้ากำแพงอย่างเชื่อฟัง
โรสจ้องเด็ก ๆ เธอกลัวว่าเด็กดื้อของเธอจะก่อปัญหาอีกแล้ว
ร็อบบี้น้อยมักจะก่อปัญหาเล็กน้อยบ่อย และบางครั้ง ก็ปัญหาใหญ่ ต้องขอบคุณบุคลิกที่มีเสน่ห์ของเขา คุณครูที่ผ่าน ๆ มามักจะทำเป็นปิดตาต่อความผิดของเขาและมองข้ามมันไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ร็อบบี้น้อยเริ่มกลายเป็นผู้มีอิทธิผลที่ไม่ดีต่อเจนสันผู้คล้อยตาม และนั่นทำให้โรสปวดหัว
หากเจย์รู้เรื่องนี้ เขาจะโทษเธอที่ไม่สอนเด็กให้ดีรึเปล่า?
ครูประจำชั้นกล่าวอย่างอ่อนโยน “คุณลอยล์ ร็อบบี้กับเจนสันใช่ลูกของคุณจริงใช่ไหมคะ?”
โรสพยักหน้าอย่างเงียบงัน
ครูประจำชั้นกล่าว “ในเมื่อคุณเป็นผู้ปกครองเขา ฉันจึงต้องขอบอกถึงการกระทำของพวกเขาในโรงเรียนอนุบาลตามตรง พวกเขาฉลาดมาก เจนสันนั้นมีความทรงจำที่คาดไม่ถึง และมีทักษะในการเข้าใจความคิดและแนวคิดระดับสุดยอด ร็อบบี้มีจินตนาการที่สูงส่งและทักษะการสื่อสารระดับสูง ยังไงก็ตาม เจนสันนั้นเก็บตัวเล็กน้อย ในขณะที่ร็อบบี้นั้นแอคทีฟมาก ๆ เขาไม่หยุดพูดในระหว่างเรียนเลย ในขณะที่อีกคนไม่ยินยอมจะตอบคำถามของครู ฉันหวังว่าคุณจะนำทางให้เด็ก ๆ อย่างดีเพื่อที่พวกเขาจะเรียนรู้ซึ่งกันและกันนะคะ”
โรสเหลือบมองเด็กน้อยทั้งสองที่ยืนตรงเหมือนต้นสน พวกเขาต้องทำบางอย่างที่ผิดมากลงไปแน่ ถึงได้ดูรู้สึกผิดแบบน้ัน
“ครูคะ คุณช่วยอธิบายรายละเอียดได้ไหมว่าเด็ก ๆ ทำอะไรบ้างในห้องเรียน?” โรสจ้องเด็กดื้อของเธออย่างโมโห แต่เสียงของเธอยังนุ่มนวลอย่างน่าแปลกใจ
ครูประจำชั้นหัวเราะ “เจนสันปฏิเสธจะตอบคำถามครูในคาบเรียน เมื่อครูพยายามสื่อสารกับเขา เจนสันกลับตอบว่าทุกคนที่ตอบคำถามของเธอนั้นเป็นพวกปัญญาอ่อน และเพราะสิ่งที่เขากล่าว เด็ก ๆ ทุกคนจึงกลัวที่จะตอบคำถามของครูหลังจากนั้น”
หลังจากหยุดไปชั่วครู่ เธอก็เสริมต่อ “ร็อบบี้จัดการทุบตีนักเรียนห้องข้าง ๆ ห้าคน ตาของพวกเขาปูดบวมและมีรอยช้ำบนใบหน้า”