ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 641
สตอร์มมองเจย์ด้วยสายตาแห่งความอ้อนวอน “นายท่านครับ นายหญิงเซเวียร์บอกว่าจะอดอาหารเพื่อประท้วง…”
เจย์เลิกคิ้วขึ้นในท่าทางที่ยังดูหล่อเหลาของเขา ผู้หญิงคนนี้กำลังข่มขู่เขาอยู่หรือเปล่า?
“งั้นก็ปล่อยให้เธออดอาหารไปก่อน”
เจย์คิดว่าเป็นเพราะเขาตามใจเธอมากเกินไปในเมื่อก่อนนี้ที่เขาคอยให้กำลังใจและเขาดูแลเอาใจใส่เมื่อเธออารมณ์ร้อน เป็นผลทำให้เธอหนีจากไปโดยไม่บอกลาและถึงกับแอบไปทำศัลยกรรมโดยไม่มีการปรึกษาเรื่องสำคัญเช่นนี้กับเขาก่อน
ดูเหมือนว่าเขาจะทำผิดพลาด จากนี้ไปเขาจะเปลี่ยนไปใช้ระเบียบวินัยแบบอื่นแทน เขาจะเปลี่ยนจากการตามใจเป็นการเข้มงวดแทน บางทีอาจช่วยแก้ไขอารมณ์ร้อนของเธอได้
เมื่อพูดอย่างนั้น เจย์ก็เข็นรถเข็นเข้าไปในห้องนอนของเขา
แองเจลีนตะโกนอยู่นานแต่ไม่มีใครสนใจเธอ
ด้วยความเหนื่อย เธอนอนบนเตียงเล็ก ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ เธอ ผมที่ยุ่งเหยิงของเธอปล่อยกระเซอะกระเซิง ทำให้เธอดูเหมือนผีบ้า
เธอทำตามในสิ่งที่เธอพูดไว้ ไม่ยอมกินหรือดื่มอะไรเลยทั้งวัน…
เมื่อเจย์ได้เข้าไปหาเธอในวันรุ่งขึ้น เธอนอนอยู่บนเตียง ผมของเธอยุ่งเหยิงกระเซอะกระเซิงราวกับผีบ้า เธอพูดอย่างอ่อนแรง “นายมาที่นี่เพื่อมารับร่างฉันเหรอ? มันยังเเร็วไป รออีกสักสองสามวันนะ”
เธอไม่คิดที่จะกลับใจเลยด้วยซ้ำ
เจย์เข็นรถเข็นเข้าไปหาเธอและรวบผมสีดำของเธอที่บดบังใบหน้าขึ้น
แองเจลีนเยาะเย้ยเขา “เป็นอะไรไป ทนเห็นคนสวยอย่างฉันตายไม่ได้หรือไง? ไม่ต้องห่วง คนสวยอย่างฉันจะไม่ดูแย่ถึงแม้ฉันจะตายก็ตาม”
เจย์สังเกตเห็นว่าใบหน้าของเธออ่อนโยนและเป็นสีดอกกุหลาบ น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยพลัง ไม่เหมือนคนที่อดอาหารมาทั้งวันทั้งคืนเลย
เขารู้สึกโล่งใจมากจริง ๆ
“ใบหน้าของเธอนี้ผ่านกี่ขั้นตอนมาแล้ว?” เขาถาม
หากเป็นเช่นตอนนั้น แองเจลีนจะไม่มีทางบอกเขาเพราะกลัวว่าเขาจะผิดหวังเมื่อรู้เรื่องนี้ แต่ทว่า แองเจลีนเข้าใจผิดคิดว่าเจย์ไม่รักเธอแล้ว ดังนั้น เธอจึงไม่ลังเลเลยและโพล่งออกมาว่า “นับไม่ถ้วน”
ความเย็นชาผลึกอยู่ในดวงตาของเจย์ “มันคุ้มไหมที่ต้องทนทรมานกับใบหน้าแบบนี้?”
น้ำตาของแองเจลีนไหลออกมาทันที
อย่างแรก เป็นเพราะเธอคิดว่าการทรมานและความยากลำบากทั้งหมดที่เธอได้รับจะคุ้มค่าตราบเท่าที่เขารักเธอ
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เธอรู้สึกเสียใจอย่างมากเมื่อเห็นว่าเขาทิ้งเธออย่างไร้ค่า
“นี่มันเรื่องของฉัน อย่ามายุ่ง!” เธออุทานเสียงดังด้วยความโมโห
เจย์เริ่มโกรธ “แล้วใครจะบังคับเธอได้?”
แองเจลีนปิดปากของเธอไม่พูดอะไรออกมาทันที
ผู้ชายที่เธอไปเดทด้วยเมื่อคืนนี้ผุดขึ้นมาในใจของเขาและเขาก็เริ่มอารมณ์เสียในทันใด “พูด!”
ตอนนี้แองเจลีนเป็นคนที่ดูอ่อนแอทั้งที่ภายนอกดูเข้มแข็ง แล้วจะแสดงกลับกันถึงความอ่อนแอเมื่อเจย์เข้มแข็งและกลับกันตอนเธอเข้มแข็งเมื่อเจย์อ่อนแอ
เมื่อเจย์อารมณ์เสีย เธอจะหดหัวเข้าไปในกระดองของเธอทันที
“ตอนที่เธอกลับมาที่นี่เป็นเวลานานแล้ว เธอไม่ได้เปิดเผยตัวตนของเธอให้ฉันหรือลูก ๆ รู้เลยและเธอเลือกที่จะปล่อยให้เด็ก ๆ เข้าใจผิด เธอคิดอะไรอยู่กันแน่?” เจย์นึกถึงเรื่องโง่ ๆ ที่เธอทำเมื่อไม่นานมานี้แล้วเขายิ่งโกรธจัด
“ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำ!” แองเจลีนให้ข้อแก้ตัวกับตัวเอง
เจย์หมุนรถเข็นของเขาไปหาเธอและเผชิญหน้ากับเธอ เขามองใบหน้าที่รู้สึกผิดได้อย่างชัดเจน “มีใครเอามีดจ่อคอเธอเหรอ?”
แองเจลีนพึมพำ “ไม่มี”
“แล้วทำไมต้องปิดบังตัวตนของเธอด้วย?”
ดวงตาของแองเจลีนเป็นสีแดงชัด เธอตอบอย่างแผ่วเบาว่า “ฉันกลัวนายจะ”
“สิ่งที่เธอกลัวคืออะไร?” ความอดทนของเจย์หมดลงเมื่อเขาฟังว่าเธอดูลังเลแค่ไหนกับการที่เธอตอบคำถามของเขา
“ฉันจากไปโดยไม่บอกลาและไปทำศัลยกรรมเพราะฉันกลัวว่านายจะโกรธและกลัวว่านายจะไม่ต้องการฉันอีกต่อไป” ในที่สุดเธอก็เปิดเผยความในใจออกมาและพูดทุกความรู้สึกที่เธอเก็บไว้ไว้ข้างในตลอดเวลา
ทันใดนั้น ความโล่งใจก็พัดผ่านเธอเข้ามาทันที
จากนั้น เธอก็มองเจย์อย่างไม่เกรงกลัว ทำหน้าเหมือนว่าชีวิตดูไม่มีความสุขและความตายก็ไม่ทำให้เธอขมขื่น
“ทำไมเธอถึงทำเรื่องโง่ ๆ แบบนั้นถ้าเธอกลัว? เธอมันบ้าไปแล้วหรือว่าเธอโง่อยู่แล้วกันแน่?” เจย์โกรธ
ความเสียใจ น้ำตาของแองเจลีนรินไหลออกมาราวกับก๊อกน้ำที่แตก ทันใดนั้น เธอก็สูญเสียการควบคุมอารมณ์และเริ่มดุเขาในความผิดที่เขาทำ “มันชัดเจนอยู่แล้วว่าแองเจลีนเป็นคนเดียวที่มีอยู่ในใจนาย นั่นคือเหตุผลที่นายไม่สามารถบังคับให้ตัวเองยอมรับโรสได้
แล้วนั่นคือเหตุผลที่นายใช้ข้อมูลประจำตัวของแองเจลีนอยู่ในทะเบียนสมรสทั้งสองคน ฉันแค่อยากเป็นคนที่นายยอมรับด้วยความเต็มใจก็เท่านั้น”