ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 972
เมื่อพวกเขาผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย เด็กก็เริ่มเชื่อใจฟินน์
“แล้วคุณพ่อกับคุณแม่ล่ะ?” เจย์มีความสงสัย พ่อแม่แบบไหนจะยอมยกลูกให้กับคนภายนอกอย่างง่ายดายเช่นนั้น? มันช่างดูน่าเหลวไหลสำหรับเขา
เจย์และเซ็ตตี้น้อยได้พบกันสองครั้งแล้ว แต่เขาก็ไม่เคยพบกับพ่อแม่ของเธอมาก่อน
เขาคิดตามหลักการว่าพ่อแม่ของเซ็ตตี้น้อยต้องขาดการสั่งสอนและให้ความรู้แก่ลูกเป็นแน่ ชีวิตรักของพวกเขาคงต้องประหลาดแปลกน่าดู
เซ็ตตี้น้อยมองเจย์ด้วยความเศร้าโศกในดวงตาของเธอ
“พวกเขาหย่ากันเหรอ?” เขาสรุปออกมาอย่างใจกล้า
เซ็ตตี้น้อยส่ายหัว “พวกเขาจะไม่หย่ากันหรอกค่ะ พ่อของหนูเชื่อว่าจะมีแค่พ่อม่ายและแม่ม่ายเท่านั้นค่ะ ไม่มีการหย่าร้าง คุณพ่อกับคุณแม่รักกันมาก ท้ายสุดแล้วคุณพ่อของหนูก็ยกทุกอย่างให้คุณแม่ รวมถึงชีวิตของเขาด้วยค่ะ”
จู่ ๆ เจย์ก็นึกถึงวลีที่ว่า ‘ความรักที่เร่าร้อนมากเกินไปนั้นอยู่ได้ไม่นาน’
เขาเป็นคนดีและเขาสงสัยว่าเขาได้รับกรรมที่เขาควรจะได้รับหรือยัง
“แล้วคุณแม่ของหนูล่ะ?”
เธอทิ้งลูกแล้วแต่งงานใหม่เหรอ?
น้ำตาเอ่อขึ้นมาในดวงตาของเซ็ตตี้น้อย “คุณแม่อยากไปกับคุณพ่อค่ะ คุณแม่ก็เลยกรีดข้อมือตัวเอง แต่คุณลุงของหนูช่วยชีวิตเธอเอาไว้ หลังจากนั้น 49 วัน คุณแม่บอกว่าเธอไม่สามารถตามคุณพ่อไปได้แล้วแม้แต่ชีวิตหลังความตายก็ตาม เธอจึงรอเขาอยู่ที่นี่”
น้ำตาในดวงตาของเซ็ตตี้น้อยเป็นส่องประกายวาววับ “หลังจากที่คุณพ่อจากไป ร่างกายของคุณแม่ก็อ่อนแอมาตลอด เพราะฉะนั้นพี่ฟินน์เลยรับหน้าที่สอนและชี้แนะหนูแทน”
เจย์ตกใจมากจนต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะหลุดจากออกมันได้
มันช่างเหมือนกับเนื้อเพลง Red spider lily :
‘คุณคือโลกของฉัน
ไม่มีคุณ
โลกของฉันจะพังทลาย
นอกจากความประหลาดใจอย่างมากแล้ว เจย์พบว่าตัวเองเริ่มอิจฉา
ยังมีความรักหวาน ๆ ในโลกใบนี้ที่ทำให้ใคร ๆ ก็ต่างอิจฉาขนาดนี้เลยหรือ?
มันเป็นความรักที่ไม่ธรรมดา จนถึงขั้นที่มันปัดทุกแง่มุมของชนชั้นลงถังขยะไปได้
จากนั้นเซ็ตตี้น้อยก็หลับไปขณะนอนอยู่บนเก้าอี้
เจย์อุ้มเธอขึ้นและวางเธอลงบนเตียง ค่อย ๆ ดึงผ้าห่มมาห่มให้เธอ
แล้วเขาก็ไปนั่งที่ริมหน้าต่างพร้อมกับจ้องมองรถเก๋งซีดานในระยะไกล
ฟินน์ไม่ได้จากไปไหน
มีประกายอ่อนโยนในดวงตาของเจย์
ดูเหมือนว่าเซ็ตตี้น้อยจะเลือกได้อย่างชาญฉลาดนะ
วันรุ่งขึ้น พระอาทิตย์ส่องแสงอยู่บนฟ้า และเซ็ตตี้น้อยก็ยังคงหลับใหลอยู่
ฟินน์ซื้ออาหารเช้ามาให้เจย์และเซ็ตตี้น้อย เมื่อเขามาส่งอาหารที่หน้าประตูบ้านของพวกเขา เขาเห็นเซ็ตตี้น้อยที่หลับสนิทแล้วหัวเราะคิกคัก “เมื่อคืนคุณทั้งสองคนคงมีเรื่องต้องคุยกันเยอะมากเลยนะครับ”
เจย์พยักหน้า
ฟินน์เว้นไปสักพักแล้วพูดอีกครั้งว่า “เด็ก ๆ นี่ช่างพูดมากเสียจริง”
“ดีแล้ว” เจย์สงวนคำพูดของเขาไว้
ฟินน์โพล่ง “มันยากที่จะได้รับคำชมจากคุณนะครับ”
เจย์มองไปที่ฟินน์ แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนสอดรู้สอดเห็น แต่เขาก็ไม่สามารถยืนอยู่ข้าง ๆ และเฝ้าดูชีวิตของเซ็ตตี้น้อยถูกเปิดเผยออกมาได้เช่นนั้น
เจย์ถามฟินน์ว่า “เด็กคนนี้ชอบคุณนะ คุณรู้ใช่ไหม?”
ฟินน์ยิ้ม “อายุเราต่างกันเยอะนะครับ คุณเบ็น คุณคิดว่าจะมีความเป็นไปได้เหรอครับที่เราจะได้อยู่ด้วยกัน?”
เจย์รู้สึกโล่งใจหลังจากฟังเหตุผลของฟินน์
ชาวประมงรวมตัวกันอยู่ข้างนอกบ้านของเจย์และตะโกนลั่น “เบ็น ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
เจย์รู้สึกตกใจ เขาลุกขึ้นและเดินออกไปข้างนอก
เมื่อชาวประมงมองมายังเจย์ ระยะห่างระหว่างพวกเขาช่างเหินห่างกันราวกับว่าเขาคือหนูที่เป็นพาหะนำโรคอย่างไรอย่างนั้น