ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 995
“โอ๊ย” แองเจลีนส่งเสียงร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
“แองเจลีน?” โจเซฟีนเปิดไฟและเห็นว่าแองเจลีนกำลังนั่งอยู่กับผ้าห่มที่แผ่ออกบนพื้น เธอรีบวิ่งเข้าไปหาและช่วยแองเจลีนลุกขึ้น
“ทำไมพี่ไม่ขอให้ฉันช่วยล่ะ?” โจเซฟีนบ่น
“ในที่สุดฉันก็คิดว่าฉันจำเป็นต้องชินกับความมืด” แองเจลีนตอบกลับ
โจเซฟีนรู้สึกปวดร้าวในใจ
แองเจลีนอาจจะกังวลว่าสักวันหนึ่งเธอจะตาบอดอย่างถาวรและนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอพยายามที่จะเผชิญหน้ากับความมืดด้วยความคิดในแง่บวก
วันต่อมา
มันเป็นวันที่ไร้ลมและมืดมน เสียงฟ้าร้องก็ดังกึกก้องซ้ำแล้วซ้ำเล่า
นี่เป็นการบ่งชี้ว่าพายุกำลังมา
การสูญเสียการมองเห็นเป็นครั้งคราวของแองเจลีนไม่ฟื้นฟูโดยเร็วเหมือนที่มันเคยเป็น
การมองเห็นของเธอยังคงมืดสนิท
โจเซฟีนถามแองเจลีนขณะที่เธอนั่งอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งว่า “ให้ฉันทาน้ำผึ้งให้พี่ไหม?”
แองเจลีนพูดอย่างซึม ๆ “วันนี้ฉันไม่ได้ไปไหน ทาแค่มอยซ์เจอไรเซอร์ก็ได้”
โจเซฟีนทาโทนเนอร์ให้เธอตามมาด้วยโลชั่นมอยซ์เจอไรเซอร์
โจเซฟีนเคยเห็นแองเจลีนทาหน้าด้วยน้ำผึ้งด้วยความพยายามที่จะดูเป็นผู้ใหญ่ เมื่อโจเซฟีนเห็นใบหน้าที่สดใสในตอนนี้ เธอก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอเป็นเหมือนแก้วเล็ก ๆ ที่เปราะบาง
โจเซฟีนพูดว่า “แองเจลีน พี่ดูเหมือนกับราชินีผู้มีวุฒิภาวะพร้อมกับออร่าที่ทรงพลังในตอนที่พี่ทาน้ำผึ้ง แต่เมื่อพี่ล้างการแต่งหน้าออก พี่ก็ดูเหมือนกับเด็กผู้หญิงที่อ่อนโยนและน่ารัก ถ้าพี่ชายของฉันเห็นพี่ไม่แต่งหน้า ฉันมั่นใจว่าเขาจะไม่มีใจที่จะพูดคำพูดที่โหดร้ายพวกนั้นกับพี่ พี่ว่าไหม?”
แองเจลีนตอบกลับว่า “เขาไม่ใช่ผู้ชายที่ตัดสินคนอื่นจากรูปลักษณ์ภายนอกนะ”
โจเซฟันพูดว่า “ถ้าเขาไม่ได้เป็นแบบนั้น แล้วเขาเป็นอะไรล่ะ? ก็ดูคนที่อยู่ใกล้ชิดเขาก่อนหน้านี้สิ พวกหล่อนคนไหนที่ไม่หน้าตาดีบ้าง?”
ทันใดนั้น แองเจลีนก็จำได้ว่าเจย์บ่นเรื่องหน้าที่เป็นน้ำมันน้ำผึ้งของเธอ…
เธอจับมือของโจเซฟีนอย่างกะทันหันและเปล่งเสียงออกมาอย่างสะเทือนใจ “ฉันผิดเอง ฉันเคยคิดว่าเขาเป็นผู้ชายที่ให้ค่ากับความงามที่อยู่ภายในเท่านั้น ฉันลืมโรคย้ำคิดย้ำทำของเขาไปหมดเลย!”
เมื่อรู้ตัวแล้ว แองเจลีนก็พูดด้วยท่าทางที่ค่อนข้างสลดใจ “มันเป็นความผิดของฉันที่ไม่ซาบซึ้งกับโอกาสที่ได้รับในตอนที่เราเจอกัน”
โจเซฟีนดึงเธอขึ้น “ไปซื้อเสื้อผ้าใหม่ ๆ ที่ช็อปกันเถอะ แองเจลีน หลังจากนี้ พี่จะปรากฏต่อหน้าเขาด้วยการแต่งตัวและแต่งหน้าสวย ๆ ฉันมั่นใจว่าหน้าตาที่น่าดึงดูดของพี่จะทำให้เขาคลั่งไคล้” โจเซฟีนกล่าวขณะที่หยอกล้อ
แองเจลีนไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่าย ๆ เธอรักเจย์มากเกินไป เพราะฉะนั้น เธอไม่อยากที่จะพลาดโอกาสเอาชนะใจเขา
“ก็ได้ ขอเวลาฉันครู่หนึ่งนะ ฉันจะไปเอาไม้เท้า”
ที่ห้างสรรพสินค้าในเมืองอิมพีเรียล
แองเจลีนจับแขนของโจเซฟีนด้วยมือข้างหนึ่งและจับไม้เท้าด้วยมืออีกข้าง เธอสวมชุดวินเทจโบฮีเมียนขณะที่ผมหยักศกของเธอปล่อยอย่างหลวม ๆ เธอมีผมหน้าม้าเรียบ ๆ ที่หน้าผาก ทำให้เธอดูเหมือนกับนางฟ้าที่ไร้ตัวตน
โจเซฟีนพาเธอไปยังร้านแฟชั่นผู้หญิง เธอจับเสื้อผ้าที่เข้าตาและดันแองเจลีนเข้าไปยังห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อลอง
แองเจลีนหัวเราะ “พี่ชายของเธอชอบสีอ่อน ๆ โจเซฟีน ฉันไม่อยากได้สีแดงสดหรือสีม่วง เขาชอบแดงอ่อน เขียวอ่อน ม่วงอ่อน…”
โจเซฟีนพูดว่า “แองเจลีน พี่ชายของฉันชอบทุกชุดที่พี่ใส่ โดยที่พี่ไม่ต้องทาน้ำผึ้งบนหน้า”
ในขณะเดียวกัน ณ ทางเข้าของห้าง
มาริลินและเจย์ก็เดินเข้ามา
เจย์กำลังจับมือของไทเกอร์
มาริลินเก็บความดีใจของเธอไม่ไหวในตอนที่เธอเห็นแถวผลิตภัณฑ์เสื้อผ้าตระการตาในห้างสรรพสินค้า เธอสัมผัสและรู้สึกถึงเนื้อผ้าขณะที่ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความโหยหาและปรารถนา
เจย์พูดว่า “ทำไมคุณไม่ลองดูสักหน่อยว่าชอบมันไหมล่ะ?”
เมื่อมาริลินพลิกป้ายราคาและเห็นราคา เธอก็วิ่งเหยาะ ๆ ไปหาเจย์และกระซิบว่า “ที่รัก เสื้อผ้าที่นี่แพงมาก ฉันคิดว่าเราควรไปกันเถอะ”
เจย์หัวเราะ “ตราบใดที่คุณชอบ ผมจะซื้อให้คุณไม่ว่ามันจะแพงแค่ไหน”
จากนั้น มาริลินก็เรียกความกล้าและเดินเข้าไปข้างในอีกครั้ง
เมื่อโจเซฟีนและแองเจลีนเดินออกจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า โจเซฟีนก็เห็นเจย์และมาริลินในทันที