ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1040
เด็กชายถูกส่งเข้าแผนกดูแลพิเศษทันที ไม่นานผลตรวจเลือดก็ออกมา หมอเข้ามาแจ้งอาการของเด็กกับเจย์และแองเจลีน “เด็กมีเกล็ดเลือดต่ำมากครับ ผลตรวจออกมาไม่ค่อยดีเท่าไร เราเลยจะให้เลือดเขา ผมอยากให้พ่อแม่ของเด็กเข้ามาตรวจเลือดด้วยครับ”
แองเจลีนกล่าว “เบ็นเพิ่งเข้ามารักษาตัวในโรงพยาบาลไม่นานมานี้แล้วเขาก็เลือดกรุ๊ปโอค่ะ ทางโรงพยาบาลน่าจะมีบันทึกอยู่ ไม่ต้องตรวจซ้ำก็ได้
ในเมื่อท่านประธานสั่งแบบนี้ หมอก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากล่าถอยไป
ส่วนในห้องพัก มาริลินถึงกับมึนเมื่อหมอบอกว่าเธอต้องตรวจเลือดด้วย
เธอปฏิเสธไม่ยอมให้เจาะเลือด พยาบาลจึงไม่มีทางเลือกนอกจากหันไปหาเจย์ให้ช่วย
“คุณมาริลินไม่ยอมเจาะเลือดค่ะ เธอบอกว่าเธอกลัวเลือด…” พยาบาลอธิบาย
แองเจลีนคำรามอย่างโมโห “ชีวิตของเด็กจะเป็นจะตายยังไม่รู้ แต่เธอยังมาห่วงเรื่องกลัวเลือดอยู่อีกเหรอ? คนเป็นแม่น่ะแข็งแกร่งนะ ฉันอยากให้คุณปิดตาเธอแล้วก็เจาะเลือดไปซะ”
เจย์มองแองเจลีน เขาเคยเห็นความเด็ดขาดไร้ปรานีของเธอในการทำธุรกิจมาแล้ว รวมถึงด้านที่น่ารักเมื่อเธอทำตัวงี่เง่ากวนใจเขาเวลาอยู่ตามลำพัง รวมถึงการตัดสินใจอย่างฉับไวและคิดอย่างดีเพื่อออกคำสั่งให้รักษาผู้ป่วย
วันนี้เขาก็ประทับใจมากเมื่อเธอพูดว่า ‘คนเป็นแม่น่ะแข็งแกร่ง’
ไม่นานผลก็ออกมาว่าเด็กชายมีเลือดกรุ๊ปบี
มาริลินยังคงขัดขืนอย่างรุนแรงไม่ยอมให้เจาะเลือด จนพยาบาลหลายคนก็จับเธอไม่อยู่
อาการของเด็กตอนนี้เข้าขั้นวิกฤติ
แองเจลีนจำได้ว่าตัวเธอเลือดกรุ๊ปบี เธอเลยเดินไปหาพยาบาลเพื่อให้เลือด
เจย์เดินไปหาพยาบาลเพื่อถามถึงกรุ๊ปเลือดของเขา พยาบาลเปิดดูไฟล์แล้วบอกว่า “คุณเลือดกรุ๊ปเอค่ะ ซึ่งไม่เข้ากับลูกชายคุณ”
ใบหน้าหล่อเหลาของเจย์ฉายแววผิดหวัง
เมื่อเขาเดินกลับมาที่บริเวณนั่งรอ แองเจลีนก็หายไปแล้ว
มาริลินพุ่งออกมาจากห้องพักผู้ป่วยสะอื้นไห้พร้อมคร่ำครวญ “ที่รักคะ โรงพยาบาลนี้ไร้จริยธรรมมาก ทำไมต้องบังคับให้ฉันให้เลือดด้วย?”
เจย์มองเธอด้วยสายตาเย็นชาแต่ไม่พูดอะไรสักคำ เขามองไปทางอื่นและนั่งรอเงียบ ๆ
ความรักที่มาริลินมีให้ลูกชายดูเหมือนจะช่างเห็นแก่ตัวและปลอมเปลือกมาก นั่นทำให้เจย์ดูแคลนเธอ
มาริลินจับมือเขา “ฉันกลัวค่ะ ที่รัก”
เจย์ดึงมือออกเงียบ ๆ
มาริลินอึ้งงัน ความรังเกียจที่เจย์แสดงออกมันช่าง… เห็นได้ง่ายและชัดเจน
ตอนนั้นเองเจย์ก็เห็นเจย์ประคองแองเจลีนออกมาในบริเวณที่นั่งรอ เขารีบเข้าไปหาพร้อมถาม “เกิดอะไรขึ้น?”
“เลือดกรุ๊ปบีที่เก็บไว้ในคลังไม่พอค่ะ ท่านประธานก็เลยบริจาคเลือดให้” พยาบาลตอบ
แองเจลีนหน้าซีดมาก แม้ว่าเธอจะอ่อนแรงแต่ก็ทำเป็นเข้มแข็ง “ไปหาซื้อของกินมาให้ฉันหน่อย เอาพวกเนื้อแดงหรือพวกเครื่องในก็ได้เหมือนกัน”
เจย์พยักหน้าแล้วหันหลังออกไป
ขณะที่แองเจลีนนั่งอยู่ตรงบริเวณนั่งพักรอ เธอสังเกตเห็นดวงตาแดงก่ำของมาริลินและหยันเธออย่างรุนแรง “คุณร้องไห้ทำไม? ลูกคุณอาการร่อแร่แท้ ๆ แต่คุณก็มาบอกว่าตัวเองกลัวเลือด คุณกลัวว่าจะโดนถ่ายเลือดไป ถ้าคุณไม่บริจาคเลือดเพื่อรักษาชีวิตลูกชายตัวเอง ฉันก็คิดว่าเขาคงไม่รอดหรอก”
มาริลินจ้องแองเจลีนและถามด้วยความโกรธ “คุณเป็นใครกันแล้วทำไมถึงมาพูดกับฉันแบบนี้? ทำไมต้องแช่งลูกฉันด้วย?”
พยาบาลตำหนิมาริลิน “ทำไมคุณถึงไม่รู้เรื่องอะไรเลยคุณผู้หญิง? คุณคนนี้เป็นประธานของโรงพยาบาลเราและท่านก็เพิ่งจะบริจาคเลือดให้ลูกคุณ คุณไม่ขอบคุณสักคำแถมยังหยาบคายใส่ท่านอีก”
ตอนนั้นเองที่มาริลินตระหนักว่าได้เสียมารยาทกับคนใหญ่คนโตไปแล้ว เธอรีบก้มหัวขอโทษ “ฉันขอโทษค่ะ ท่านประธาน ฉันผิดเอง”
แองเจลีนโบกมือ “ช่างมันเถอะ”
ไม่นานหลังจากนั้น เจย์ก็กลับมาพร้อมกล่องอาหารกลางวันในมือ
เขาเหนื่อยหอบ อาจจะเพราะว่ารีบวิ่งเกินไป
แองเจลีนปวดใจเมื่อเห็นแบบนั้น เธอบ่น “ฉันไม่ใช้คนไข้วิกฤติสักหน่อย แค่หิวเท่านั้น ทำไมนายต้องรีบวิ่งจนเหงื่อท่วมขนาดนี้ด้วย?”
เจย์จำได้ว่าแองเจลีนยังไม่ได้กินมื้อเที่ยงเลยวันนี้ และน่าจะหิวมาก
เขาเปิดกล่องอาหารและเอาใส่มือเธอ
จากนั้นเขาก็หยิบช้อนส้อมแบบใช้แล้วทิ้งออกมา พร้อมเอาใส่มือเธอด้วย
เขายังวางจานลงบนเก้าอี้ด้านหน้าเธอ
เมื่อแองเจลีนเห็นเนื้อแกะ เนื้อวัว และตับหมูวางเรียงอยู่ตรงหน้า เธอก็ได้แต่อ้าปากค้าง
พยาบาลหัวเราะออกมาดังลั่น