ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1113
เมื่อเจย์ก้าวเข้าไปในโถงด้านหน้า เขาก็เห็นแม่เลี้ยงและเซร่าต่างก็กอดกันร้องไห้
ใบหน้างดงามของเซร่าบวมช้ำขณะที่ริมฝีปากแตกมีเลือดออก
เจย์ขมวดคิ้ว “ใครตีคุณ?”
เมื่อพวกเขาได้ยินเสียงของเจย์ ต่างก็เงยหน้าขึ้นทันที พอเขาได้เห็นเจย์ดวงตาก็ส่องประกายยินดี
ไม่นานหลังจากนั้น คุณนายอาเรสก็สะอื้นพร้อมกล่าว “ช่างมันเถอะลูก ถึงเราบอกไปลูกจะทำอะไรได้? ตอนนี้ตระกูลอาเรสเสียอำนาจและความยิ่งใหญ่ไปแล้ว เราก็เป็นคนผิดอยู่วันยังค่ำ”
แววอิจฉาริษยาฉายแวบในดวงตาเซร่า แต่เธอก็ยังแสร้งทำท่าเป็นทุกข์ทน เธอร้องไห้คร่ำครวญ “คุณแม่พูดถูกค่ะ เพราะตอนนี้แองเจลีนเป็นประธานแกรนด์ เอเซียแล้วเธอก็มีอำนาจเป็นเหมือนผู้นำของเมืองอิมพีเรียล เราคงจะไปล่วงเกินเธอไม่ไหว อาการบาดเจ็บและความเสียใจของหนูไม่นับเป็นอะไรได้ ตราบใดที่เธอยอมละเว้นตระกูลอาเรส ความทุกข์ของหนูก็ถือว่าคุ้มค่า”
ดวงตาเหยี่ยวของเจย์เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองและเย็นชา
“ทำไมเธอถึงต้องตีคุณด้วย?” เจย์ถาม
เซร่าพูดทั้งน้ำตา “ตั้งแต่ที่แกรนด์ เอเซียเข้าครองอาเรส เอนเตอร์ไพรส์เมื่อสามปีก่อน สมาชิกตระกูลอาเรสก็ต้องดิ้นรนปากกัดตีนถีบ พอแม่กับฉันได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ฉันก็คิดว่าแองเจลีนจะยังเห็นว่าฉันเป็นน้องแล้วแบ่งหุ้นส่วนที่เป็นของอาเรส เอนเตอร์ไพรส์ให้ ถ้าฉันขอเธอ แต่เธอไม่เพียงไม่ยอมให้เท่านั้น เธอยังซ้อมฉันด้วย”
คุณนายอาเรสพูดอย่างมีหลักการ “ลูกเป็นคนที่ก่อตั้งแกรนด์ เอเซียขึ้นมา ถึงแม่จะไม่รู้ว่าทำไมลูกถึงยกแกรนด์ เอเซียให้เธอ แต่แม่แน่ใจว่าลูกต้องไม่ตั้งใจให้เป็นแบบนี้แล้วลูกก็ต้องไม่ยอมให้เธอเป็นศัตรูกับอาเรส เอนเตอร์ไพรส์แน่ หลังจากที่ลูกเกิดอุบัติเหตุ เธอก็ชี้นิ้วสั่งตระกูลอาเรสตามใจแล้วก็ยึดธุรกิจของตระกูลอาเรสไป เราทุกคนผิดหวังมากกับการกระทำของเธอ”
เจย์ขมวดคิ้ว
แม้ว่าคำพูดของแม่เลี้ยงและเซร่าจะไม่น่าเชื่อถือ แต่เจย์ก็เชื่อว่าในฐานะผู้ก่อตั้งแกรนด์ เอเซีย เขาต้องขยายธุรกิจด้วยความสามารถของตัวเอง ไม่มีทางทำร้ายครอบครัวตัวเองโหดร้ายแบบนี้แน่
และมันต้องไม่ใช้ความตั้งใจของเขาแน่ ๆ ที่จะครองอาเรส เอนเตอร์ไพรส์
“พ่ออยู่ไหน?” เจย์มองไปรอบ ๆ และถามอย่างสงสัยเมื่อไม่เห็นคนอื่นในตระกูลอาเรสเลย
“พ่อของลูกเคยเป็นประธานของอาเรส เอนเตอร์ไพรส์ เขาเคยใช้ชีวิตอย่างมีความหมายแล้วก็ออกไปทำงานแต่เช้าจนดึก ตั้งแต่ที่แองเจลีนยึดอาเรส เอนเตอร์ไพรส์ไป หล่อนก็เปลี่ยนให้เขาเป็นแค่ประธานในนาม ตอนนี้เขาก็ไม่มีอะไรทำ ได้แต่ใช้เวลาหมดไปวัน ๆ” คุณนายอาเรสถอนใจ
เจย์สีหน้าเคร่งเครียด “ถ้าพ่ออยากจะบริหารอาเรส เอนเตอร์ไพรส์ ผมก็จะขอให้นางมารคืนธุรกิจของตระกูลอาเรสมาให้เขา”
คุณนายอาเรสแอบยินดี แต่เพื่อไม่ประมาทเธอก็แนะนำด้วยเจตนาแอบแฝงว่า “ถึงแองเจลีนจะเป็นผู้หญิงแต่เธอก็ฉลาดมาก ถ้าลูกไปขอเธอตรง ๆ เธอไม่มีทางยอมแน่ ทำไมลูกไม่ลองพยายามแอบเอาตราประทับออกมาล่ะ? ถ้าเราสามารถประทับตราเอกสารสัญญาที่เราร่างขึ้นได้ เธอก็ไม่มีทางดิ้นอีกต่อไป”
เจย์พยักหน้า “โอเค”
เขาพูดเบา ๆ “รอฟังข่าวจากผมด้วย” จากนั้นเขาก็หันหลังจากไป
คุณนายอาเรสและเซร่าต่างก็มองสบตาสื่อความหมายกัน ความยินดีในแววตาไม่สามารถปกปิดได้ เซร่าพูดว่า “ตราบใดที่เขาช่วยเราเอาตราประทับของแองเจลีนมา นั่นก็เป็นจุดจบของเธอแล้ว”
คุณนายอาเรสพยักหน้า
…
เจย์นั่งรถแท็กซี่ไปที่สวนบันทึกรัก แล้วก็หยิบกุญแจมือออกมาใส่ก่อนนอนลงบนเตียงเงียบ ๆ รอให้แองเจลีนกลับมา
ในตอนเย็น แองเจลีนก็ลากสังขารอ่อนล้ากลับมาบ้าน
เมื่อเจย์ได้ยินเสียงฝีเท้าเธอใกล้เข้ามา เขาก็หลับตาแกล้งทำเป็นหลับ
เมื่อแองเจลีนเปิดประตูเข้ามาเห็นเจย์ เธอก็อึ้ง
ใบหน้างดงามของเธอฉายแววยินดีราวได้พบสมบัติที่หายไป เธอเดินเข้าไปหาเขาแล้วดึงหมอนที่ปิดหน้าเขาออก
“เลิกแกล้งทำเป็นหลับได้แล้ว”
เจย์ลืมตาแล้วมองแองเจลีนอย่างขมขื่น
เขารู้ดีว่าไม่สามารถเก็บความลับอะไรต่อหน้าเธอได้เพราะว่าเธออาจจะเดาความคิดของเขาได้แค่มองปราดเดียว