ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1168
เจย์และเซร่าต่างก็มองเด็กหนุ่ม เซร่าแค่นเสียงบอกว่า “ก็แค่สร้อยคอหินเพทายไม่ใช่เหรอ? ถ้านายชอบมากนัก เดี๋ยวฉันเอาให้สักกอง”
เด็กหนุ่มยังคงเมินเธอและตั้งหน้าตั้งตาขัดสร้อยคอจนดูเงาเหมือนใหม่
เซร่ามองสร้อยคอแวววาวนั้นแล้วรู้สึกตะลึงไป สร้อยเส้นนั้นถูกฝังอยู่ในดินมานานสามปีแต่ยังส่องประกายให้เห็นสีสันสดใส ซึ่งแสดงให้เห็นว่าที่จริงมันเป็นของที่มีราคา
เด็กหนุ่มถือสร้อยคือไว้ในมือแล้วจู่ ๆ ก็ดึงมือเจย์ไปก่อนวางสร้อยลงในมือเจย์และกล่าวว่า “เก็บไว้ให้ผมหน่อย”
เจย์งงงันไปเล็กน้อย
เซร่ามองเด็กหนุ่มแสนประหลาดนี้อย่างระแวงสงสัย “นี่ นายมาจากที่ไหนกัน? แล้วนายชื่ออะไร?”
เขายังคงไม่สนใจเธอเอนตัวลงพิงเบาะเช่นเดิม พร้อมหลับตาพักผ่อน
เจย์มองสร้อยคอรูปกะโหลกในมือ แววตางุนงงสงสัยของเขาเปลี่ยนเป็นแปลกใจเมื่อเขาได้ยินเสียงประหลาดดังขึ้นมาในหัวว่า “แองเจลีน เธอห้ามตายนะ ฉันไม่ยอมให้เธอตาย เธอบอกว่าจะอยู่กับฉันตลอดไปไง…”
รูม่านตาของเจย์เบิกกว้าง
นั่นมันเสียงของเขาเองชัด ๆ
เสียงที่โศกเศร้าและพร่าอย่างสิ้นหวัง รวมกับการข่มขู่ที่ฟังราวจวนเจียนจะขาดใจนี้เป็นของเขาแน่ ๆ
ฉากนั้นปรากฏขึ้นมาอย่างแจ่มชัดราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้
เขาหลับตาลง แล้วเสียงที่ได้ยินแว่วอยู่ในหัวก็ค่อย ๆ แผ่วเบาหายไป
เขารู้สึกงุนงงมากเพราะก็เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแองเจลีนยังมีชีวิตอยู่สุขสบายดี แล้วภาพแปลกประหลาดที่เขาเห็นในหัวนั่นมันอะไรกัน?
แองเจลีนตายไปแล้วเหรอ?
รถได้มาจอดอยู่หน้าวิลล่าที่ดูทรุดโทรมแห่งหนึ่ง
เซร่าบอก “เรามาถึงแล้วค่ะ”
เจย์ออกจากรถมาอย่างอึ้ง ๆ เด็กหนุ่มคนนั้นมองเขาด้วยท่าทางเป็นกังวล “เอาสร้อยคอเก็บไปก่อนเถอะครับ” เขาบอก
เจย์คิดว่า อย่างไรเสียสร้อยคอนี้ก็เป็นของเด็กหนุ่ม แล้วเขาก็ไว้ใจมอบให้เจย์ช่วยดูแล เจย์จึงตัดสินใจที่จะเก็บเอาไว้ให้เด็กหนุ่ม
เขาเอาสร้อยคอเก็บไว้ในกระเป๋า เด็กหนุ่มเห็นเขาทำแบบนั้นก็ถอนใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อได้เห็นว่าสีหน้าของเจย์กลับมาเยือกเย็นสงบอีกครั้ง
เซร่าเดินไปที่ประตูวิลล่า เธอเช็ดเท้าก่อนที่จะกดกริ่งหน้าประตู
ไม่นานนักซิดนีย์ก็เดินออกมา เมื่อเธอเห็นเจย์ก็เอ่ยออกมาอย่างตกใจว่า “เจย์เหรอ?”
เธอเชิญเจย์และคนที่เหลือเข้ามาในบ้าน คุณลอยล์และคุณนายลอยล์ต่างก็นั่งอยู่บนโซฟา เมื่อพวกเขาเห็นเจย์เดินมาแต่ไกล ทั้งสองก็หันมามองหน้ากันอย่างมีเจตนาแอบแฝง
คุณนายลอยล์กระซิบ “ที่รัก ซิดนีย์บอกว่าตราบใดที่เรายังคงร่วมมือกับตระกูลเบล พวกเขาจะช่วยให้ลอยล์ เอนเตอร์ไพรส์ได้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งได้แน่ ๆ”
“ผมรู้” คุณลอยล์ตอบ
ทันทีที่เจย์เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น คุณลอยล์ก็ผุดลุกขึ้นและชี้ไปที่เจย์ จากนั้นก็ก่นด่าเขา “แก… แกยังมีหน้ากลับมาที่นี่อีกเหรอ? ฉันขอถามแกตอนนี้เลยนะ แกเอาลูกสาวฉันไปซ่อนไว้ที่ไหน?”
ซิดนีย์พูดอย่างจนปัญญา “พ่อคะ เจย์เขาความจำเสื่อม ถ้าพ่อถามหาโรสกับเขา แล้วเขาจะไปหาที่ไหนล่ะคะ? เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเริ่มหาที่ไหน”
เจย์ถาม “บอกผมมาว่าทำไมผมถึงแต่งงานกับลูกสาวคุณ?”
คุณลอยล์สวนกลับอย่างเกรี้ยวกราด “ใครมันจะไปรู้ล่ะ? แกมันเป็นนักธุรกิจแนวหน้านี่ พอแกอยากแต่งงานกับลูกสาวฉัน แน่นอนว่าเธอก็ต้องดีใจมาก เธอไม่รู้เลยสักนิดว่าการแต่งงานกับแกจะทำให้ถึงกับต้องเอาชีวิตไปแลกแบบนี้”
เจย์ถามอย่างสงสัย “ผมไม่รู้จักกับเธอก่อนที่ผมจะแต่งงานกับเธอเหรอ?”
คุณลอยล์อึ้งไปต่อไม่ถูกเมื่อคุณนายลอยล์จ้องเขาและดึงให้เขากลับลงไปนั่งบนโซฟา เธอยืนขึ้นและบอกว่า “นายท่านอาเรส ตอนที่ลูกสาวฉันแต่งงานกับคุณ เธอบอกฉันอย่างมีความสุขว่าคุณตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น คุณตัดสินใจแต่งงานกับเธอหลังจากที่ได้พบเธอแค่ครั้งเดียว ฉันเองก็ไม่อยากจะเชื่อว่าลูกสาวฉันจะมีเสน่ห์มากขนาดนั้น โรสที่น่ารักของเราไม่ได้เฉลียวฉลาดมากนักและเธอก็ไม่ได้สวยบาดใจ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณเห็นอะไรในตัวของเธอ”