ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1193
แองเจลีนพูดอย่างปวดใจ “สัญชาตญาณของเธอถูกต้องโจเซฟิน ตอนนั้นเธอบาดเจ็บหนักมาก เธอไม่เพียงแค่โดนทำร้ายแต่ว่าคนที่ทำร้ายยังขโมยไตของเธอไปด้วย”
ตาโจเซฟินเบิกกว่าอย่างตกใจกลัวขณะที่เธอพึมพำว่า “ถ้าเป็นแบบนั้น… ที่อยู่ในตัวฉันตอนนี้คือไตของใครล่ะ?”
ดวงตาแองเจลีนน้ำตาเอ่อคลอและสีหน้าก็เศร้าเสียใจสุดซึ้ง “เป็นของเซย์น”
ดวงตาสวยเฉี่ยวดุจนกฟีนิกส์ของโจเซฟินแดงก่ำทันใด น้ำตาเอ่อทะลักก่อนที่จะไหลพรากลงมาตามใบหน้า
เธอไม่ได้อยากร้องไห้เพราะเธอไม่อยากทำพี่แองเจลีนใจสลาย เพราะถ้าแองเจลีนเห็นเธอในสภาพนี้ก็อาจจะทำให้อาการป่วยทรุดหนักลงได้
เธอจึงเอากำปั้นยัดปากตัวเองเพื่อที่จะไม่ให้เสียงร้องไห้ดังลอดออกมา
แต่แองเจลีนเป็นคนตรง ๆ และไม่มีอะไรปิดบัง เธอยื่นมือออกมาแล้วก็คว้าเปะปะจนเจอไหล่ที่สั่นสะท้านของโจเซฟิน เธอพูดอย่างใส่ใจว่า “ถ้าอยากร้องก็ร้องเถอะ โจซี่”
เมื่อได้ยินเช่นนั้นโจเซฟินก็ทรุดลงกอดเข่าแองเจลีน ร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ
“ทำไมเขาไม่บอกฉันล่ะ พี่แองเจลีน? ฉันโทษเขาแล้วเกลียดเขาอยู่ตั้งหลายปี ฉันเกลียดเขาเพราะว่าใจดำ เขาทำเป็นไม่รับเห็นความรักของฉันทั้งที่ฉันรักเขามาก… เขาถึงกับไปแต่งงานกับคนอื่นเพื่อทำให้ฉันใจสลาย”
แองเจลีนอธิบาย “โจซี่ เธอมีไตของเซย์น แต่ว่าเซย์นนั้นมีไตของพี่เชอร์ลีย์ เซย์นตัดใจจากเธอเพราะเขาคิดว่าตัวเองคงมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน ตอนที่เซย์นได้รู้ว่าร่างกายเขาไม่ต่อต้านไตที่เปลี่ยนเข้ามา เขาก็บังเอิญได้เจอกับพี่เชอร์ลีย์ด้วยความผิดพลาด ตอนนั้นพี่เซอร์ลีย์ก็ป่วยหนักแล้วไม่มีที่ไป เซย์นก็เลยแต่งงานกับพี่เชอร์ลีย์เป็นการขอบคุณเธอที่ช่วยเขาไว้ แล้วก็ช่วยเติมเต็มความปรารถนาที่อยากจะมีบ้านของพี่เชอร์ลีย์”
โจเซฟินยังคงมึนงง “ฉันเข้าใจเขาผิดมาตลอด เขาปกปิดความรักที่มีไว้จนไม่เห็น โง่อะไรอย่างนี้ ทำไมหลังจากที่เขาให้ไตฉันแล้วเขาไม่รับรักฉันล่ะ ฉันจะได้ดูแลเขา?”
“ฉันเป็นหนี้ชีวิตเขาแท้ ๆ แต่ฉันไม่รู้อะไรเลยสักนิด”
แองเจลีนตบหลังโจเซฟินเบา ๆ “ไม่ต้องร้องโจซี่ ตอนที่ทุกอย่างจบแล้ว คู่รักที่เต็มไปด้วยอุปสรรคอย่างพวกเธอจะได้มีความสุขเสียที”
แต่โจเซฟินก็ยังมองแองเจลีนอย่างสิ้นหวัง “ระหว่างเรามันจบไปแล้วพี่แองเจลีน เขามีเชอร์ลีย์แล้ว ถ้าเชอร์ลีย์ทำตัวร้ายกาจกับเขาฉันก็อาจจะอยากแย่งเขากลับคืนมา แต่เชอร์ลีย์ก็เป็นผู้หญิงแสนดี แม้ว่าเธอจะป่วยหนัก เธอก็ยังดูและเซย์นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ฉันไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไปพรากพวกเขาจากกันหรอก”
แองเจลีนตอบ “พี่เชอร์ลีย์ตัดสินใจที่จะคืนคนรักให้เธอแล้ว ขณะที่หล่อนยังมีชีวิตอยู่น่ะโจซี่”
โจเซฟินคร่ำครวญประท้วง “ไม่ ไม่มีทาง เธอเป็นคนจิตใจดี แล้วก็เป็นผู้หญิงที่ดี เธอช่วยเซย์นไว้นั่นก็คือการช่วยฉันด้วย เธอเป็นผู้มีบุญคุณต่อทั้งฉันและเซย์น แค่ไม่ได้ตอบแทนบุญคุณเธอฉันก็รู้สึกละอายใจแล้ว ฉันจะหน้าด้านไปแย่งคนรักเธอมาได้ยังไงกัน?”
แองเจลีนพูดอย่างตรงไปตรงมา “เธอกับเซย์นเกิดมาเพื่อรักกัน โจเซฟินถ้าไม่มีความรักเธอทั้งคู่ก็ยอมตายดีกว่ามีชีวิตอยู่ ส่วนพี่เชอร์ลีย์นั้นเธอเพียงต้องการครอบครัวที่อบอุ่นเท่านั้น ตระกูลเซเวียร์จะรับเธอเป็นลูกบุญธรรม แล้วนิสัยดี ๆ อย่างพี่เชอร์ลีย์น่ะ เซย์นไม่คู่ควรกับเธอเลยสักนิด เธอควรต้องได้เจอผู้ชายที่รักเธอมากกว่านี้”
โจเซฟินงงงัน
ตอนนี้สมองของเธอปั่นป่วน ชั่วขณะเธอไม่รู้ว่าจะคิดหรือพูดอะไรดี
เจย์นั้นเป็นห่วงแองเจลีน เขาเลยเดินออกมาหาพอดีพร้อมกับขวดน้ำร้อนสีแดงเชอร์รี่ในมือ “ได้เวลาดื่มน้ำแล้ว แองเจลีน”
แองเจลีนรับแก้วมาแล้วเริ่มดื่มน้ำ ขณะนั้นเจย์ก็มองโจเซฟินอย่างพินิจพิจารณา
เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าดวงตาของโจเซฟินบวมแดง แววกังวลใจก็ฉายผ่านดวงตาของเจย์ ด้วยความที่เขาประคบประหงมภรรยาอย่างมาก เจย์กลัวว่าพลังงานด้านลบของน้องสาวจะส่งผลกระทบต่อแองเจลีน
ดังนั้นเมื่อแองเจลีนดื่มน้ำเสร็จ เขาก็บอกเธอด้วยเจตนาที่แฝงเร้นไว้ว่า “ข้างนอกลมแรง แองเจลีนทำไมพวกเธอไม่เข้าไปคุยกันข้างในล่ะ?”
แองเจลีนบอกทุกอย่างที่อยากบอกกับโจเซฟินหมดแล้ว เธอจึงพยักหน้าเห็นด้วย
เจย์จึงเข็นแองเจลีนเข้าบ้านไป
โจเซฟินตั้งสติสงบอารมณ์ตัวเอง ก่อนที่จะเดินเข้าไปในบ้าน
หลังจากที่ได้รับรู้ถึงความรักที่เซย์นมีให้เธอ ความรักและความปรารถนาที่เธอเก็บกดเอาไว้ในใจก็เริ่มที่จะพรั่งพรูออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ ดวงตาของเธอฉายแววระยิบระยับของความรักเมื่อเธอมองเซย์นตอนนี้