ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1228
เมื่อเซย์นขับเข้ามาถึงซีคามอร์ แอนเน็กซ์ บรรดาฝูงชนก็ส่งเสียงเชียร์พร้อมจุดพลุกระดาษต้อนรับ เสียงโห่ร้องของเด็ก ๆ และเสียงหัวเราะเต็มไปทั่วสนาม
“ขอต้อนรับกลับบ้าน คุณหนูเซเวียร์”
เชอร์ลีย์เดินพรมแดงโดยมีโจเซฟินจับจูงเธอ คุณท่านเซเวียร์ก็หยิบไมโครโฟนขึ้นมา เสียงทุ้มก้องของเขาดังชัดเจน
“เพื่อน ๆ ญาติพี่น้องและนักข่าวทุกท่านจากหลายสำนัก ขอบคุณที่มาเยือนบ้านเล็ก ๆ ของเรา วันนี้ตระกูลเซเวียร์มีสองเรื่องอยากประกาศให้ทราบ เรื่องแรกเราอยากบอกข่าวดีว่า เซย์นและเชอร์ลีย์ได้หย่าร้างกันแล้ว…”
บรรดาแขกพากันเงียบกริบ
ทุกคนต่างก็คิดว่า ‘นี่มันข่าวดีตรงไหนกัน? คุณท่านเซเวียร์สมองเลอะเลือนไปแล้วเหรอไง?’
คุณท่านเซเวียร์ยิ้มกว้าง “ให้ผมพูดจบก่อน แม้ว่าเชอร์ลีย์จะไม่ใช่ลูกสะใภ้ตระกูลเซเวียร์แล้ว แต่เธอจะมาเป็นลูกสาวคนโตของตระกูลเซเวียร์แทน จากนี้ไปจะไม่มีเชอร์ลีย์ โทมัสที่โดดเดี่ยวน่าสงสารอีกแล้ว ตอนนี้มีแต่เชอร์ลีย์ เซเวียร์ผู้ไม่เพียงแต่มีพ่อแม่สุขภาพแข็งแรงสองคน แต่ยังมีน้องชายและน้องสาวด้วย”
คุณท่านเซเวียร์ยังเล่าถึงการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของเชอร์ลีย์ด้วย ทำให้แขกทุกคนต่างก็พากันปรบมือ
เชอร์ลีย์ซาบซึ้งจนน้ำตาไหลเมื่อได้ยินเสียงปรบมือกระหึ่มจากทุกคน
เธอเฝ้าแต่พูดกับแองเจลีนว่า “ฉันอยู่บนสวรรค์สินะน้องแองเจลีน ขอบคุณนะที่ทำให้ฉันรู้สึกเป็นคนสำคัญ”
คุณท่านเซเวียร์จากนั้นก็ประกาศข่าวดีเรื่องที่สอง “ผมยังมีข่าวดีอีกเรื่องที่จะบอก ความรักอันยาวนานระหว่างคนรักวัยเยาว์เซย์นและโจเซฟินสุดท้ายก็มาถึงบทสรุป โอกาสอันดีนี้ที่เรามารวมตัวกันเพื่อเฉลิมฉลองสมาชิกใหม่ของตระกูลเซเวียร์ เชอร์ลีย์ เซเวียร์ เรายังอยากถือโอกาสนี้ถามโจเซฟิน อาเรส บุตรสาวของตระกูลอาเรส ว่าเธอยินดีจะแต่งงานเพื่อเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเซเวียร์ไหม?”
เซย์นทำหน้ามุ่ยและบ่นว่า “คุณปู่ ถึงเราจะคิดเหมือนกันแต่ทำไมปู่ถึงพูดว่าให้เธอแต่งเข้ามาเองล่ะ? แต่งกับผมนี่มันแย่มากเลยเหรอ?”
โจเซฟินผลักเซย์น “ทำไมจะไม่ได้? ฉันตามจีบนายมาตั้งหลายปี งั้นตอนนี้ก็ต้องเป็นตาของนายแล้ว ให้นายทุกข์ระทมเท่าฉันก่อน ตอนนั้นฉันถึงจะแต่งกับนาย ถ้าคุณปู่บอกว่าฉันแต่งเข้ามาด้วยตัวเอง ก็ใช่ ฉันจะแต่งงานเข้ามาด้วยตัวเอง”
เซย์นพูดด้วยท่าทางเป็นชายชาตรีว่า “เธอไม่ใช่เชื้อสายราชวงศ์ เธอโชคดีที่คนน่ารำคาญอย่างเธอจะได้แต่งงานกับคนมีความสามารถอย่างฉัน อย่าได้ละโมบไปนักเลย”
ร่างสูงกำยำของเจย์เดินเข้ามาอย่างสง่า จ้องมองเซย์นด้วยสายตาลุ่มลึก “โจเซฟินอาจจะไม่ใช่ราชวงศ์ แต่เธอก็ถูกเลี้ยงดูมาอย่างเคร่งครัดด้วยมารยาทเช่นราชวงศ์ ถ้าหากว่านายอยากจะแต่งงานกับเธอนะเซย์น นายต้องวางเกียรติและศักดิ์ศรีลง นายต้องเต็มใจที่จะทำทุกอย่างเพื่อเธอ รวมถึงทำอาหารเข้าครัวและหาเงินมาเลี้ยงดูครอบครัว นายต้องเป็นแรงส่งเสริมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ”
เซย์นหันไปมองแองเจลีนที่นั่งอยู่บนรถเข็นและยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา “อย่าเอาคำพูดสวยหรูพวกนั้นมาพูดกับผมเลย งั้นให้ผมถามคุณหน่อย คุณพร้อมจะวางเกียรติและศักดิ์ศรีลงในฐานะของนายท่านเพื่อน้องสาวผมไหม?”
เจย์เดินเข้าไปหาแองเจลีนและคุกเข่าข้างหนึ่งลงตรงหน้าเธอ ก่อนพูดอย่างจริงใจและจริงจังว่า “ขอบคุณนะ แองเจลีน เซเวียร์ที่ไม่ยอมตัดใจจากฉัน ความจริงก็คือจะให้ฉันเป็นซี่โครง เป็นเหรียญตราหรือเครื่องประดับของเธอก็ได้ตราบใดที่เราไม่ต้องแยกจากกัน”
แองเจลีนรู้สึกปลื้มใจ แม้ว่าเจย์มักจะย่อตัวลงนั่งหรือคุกเข่าต่อหน้ารถเข็นของเธอเสมอ ๆ เวลาที่เขาคุยกับเธอตอนอยู่ที่บ้าน แต่นี่เขาไม่อายเลยเหรอไงที่ทำแบบนี้ต่อหน้าแขกผู้มีเกียรติหลายคน?
เธอก็คงทำเต็มที่เพื่อรักษาชื่อเสียงของเขาที่ตัวเขาเองโยนทิ้งไปเหมือนรองเท้าเก่า ๆ “เป็นเกียรติของฉันที่ได้อยู่กับคุณค่ะ เจย์บี้”
เซย์นอึ้งจนพูดไม่ออก เขาคิดว่าเจย์คงเป็นบ้าไปแล้วที่คุกเข่าให้แองเจลีนต่อหน้าชาวบ้านชาวช่องแบบนี้
เซย์นพยายามจะหลบหนี…
โจเซฟินมองเซย์น ความรู้สึกไม่พอใจที่เธอมีต่อเขาแทบจะทะลักออกมาจากดวงตาเธอ
เจนสันมองอาโจเซฟินและส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
จากนั้นเขาก็หยิบกรวดก้อนเล็กจากพื้นและดีดใส่หัวเข่าของเซย์น ทำให้เซย์นต้องคุกเข่าลงต่อหน้าโจเซฟินอย่างทันทีทันใด…