ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1245
”นี่มันตราระดับนายพลเอกเลยนะเจย์ หลานใช้เจ้านี่สั่งการพวกนักฆ่าขององค์กรโลกาวินาศได้เลย ฉันไม่อยากจะเชื่อ ผู้หญิงแบบแม่ของหลานนี่เป็นถึงพลเอกขององค์กรโลกาวินาศเลยเหรอ?” คุณท่านอาเรสอึ้งงันจนพูดไม่ออก
เจย์ยิ้มอย่างขมขื่น ไม่ว่าแม่ของเขาจะเป็นใคร เธอก็ยังเป็นแม่ที่รักเขามากในสายตาของเขา
คุณท่านอาเรสพูดอย่างตื่นเต้น “ด้วยสมบัติพวกนี้ หลานก็สามารถไปที่องค์กรโลกาวินาศได้อย่างไม่มีปัญหา”
เจย์มองคุณท่านอาเรสอย่างอ่อนแรงและถามด้วยเสียงขาดห้วงว่า “คุณปู่ ผมขอถามแค่ครั้งเดียวและผมหวังว่าปู่จะตอบผมตามตรง ปู่เกี่ยวข้องกับการตายของพ่อแม่ผมไหม?”
คุณท่านอาเรสดูงุนงง เขาตอบว่า “ฉันไม่ได้เป็นคนทำจริง ๆ เจย์ ฉันคิดหนักมากกว่าใครกันที่จะเป็นคนชักใยอยู่เบื้องหลังของอุบัติเหตุทางรถคราวนั้น ฉันถึงขนาดสงสัยว่าเควนตินคนของหลานอาจจะเป็นสาย…”
เจย์ใบหน้าซีดเผือด เควนตินนั้นเป็นหนึ่งในสมาชิกทีมภูติผี หากว่ามีคนติดสินบนเควนตินจริง แล้วเขาได้รับสินบนตั้งแต่ตอนไหน?
ในทีมภูติผีจะมีคนทรยศอื่นอีกไหม?
คุณท่านอาเรสพูดอย่างไม่สบายใจ “เพราะว่าแม่ของหลานเป็นระดับนายพลขององค์กร ฉันแน่ใจว่าเธอต้องมีศัตรูมากมายแน่ หลานเป็นลูกของเธอ พวกนั้นอาจจะมาเอาคืนจากหลานแทน หลานต้องระวังตัวด้วย”
เจย์ตอบด้วยหัวใจหนักอึ้ง “ผมเข้าใจครับ”
หลังจากที่กล่าวอำลากับคุณท่านอาเรส เจย์ก็ออกมาจากห้องหนังสือพร้อมด้วยกล่องในอ้อมแขน
แองเจลีนและคนอื่น ๆ ต่างก็กำลังพูดคุยกับผู้อาวุโสของตระกูลอาเรสในห้องนั่งเล่น เมื่อเจย์ออกมา แจ็คก็ขอให้เขาอยู่ทานมื้อเย็นด้วยกัน
เจย์ไม่ปฏิเสธ
เขามองวิลล่าของตระกูลอาเรสและตระหนักได้ว่ามันดูเรียบง่ายมากเมื่อเทียบกับอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนสมัยก่อน
เจย์สัญญา “พ่อ ถ้าผมได้กลับมาอย่างปลอดภัย ผมจะต้องพาพวกพ่อกลับไปที่อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนแน่นอน”
แจ็คยิ้มขื่นขม “พ่ออยู่ใต้เงาขององค์กรโลกาวินาศมาตั้งแต่ที่พ่อลืมตาดูโลกแล้วเจย์ ตลอดทั้งชีวิตพ่ออยู่มาอย่างหวาดกลัว พอตอนนี้ที่ได้มาอยู่ในวิลล่าเล็ก ๆ พ่อก็ไม่กระวนกระวายเรื่องชะตาชีวิตอีกแล้วล่ะ มันสงบอย่างที่พ่อต้องการมาตลอด พ่อก็ไม่ได้ต้องการจะอยู่ในที่หรูหราเหมือนอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนอีกแล้ว”
เจย์พูดพร้อมรอยยิ้ม “ผมชื่นชมที่พ่อปรับตัวให้อยู่อย่างสมถะได้อย่างไม่ร้อนใจแบบนี้ ผมไม่ได้คิดจะนำความหรูหราฟู่ฟ่ากลับมา แต่อสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนนั้นเป็นรากเหง้าของตระกูลอาเรส ผมคิดถึงบ้านของเราและอยากจะกลับคืนถิ่น ท้ายที่สุดผมก็หวังว่าอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีนจะเป็นสถานที่ที่สมาชิกตระกูลอาเรสสามารถมาใช้ชีวิตในช่วงสุดท้ายได้”
แจ็คพยักหน้า
หลังมื้อเย็น เจย์ก็กล่าวอำลาผู้อาวุโสทีละคน ก่อนจากมาพร้อมภรรยาและลูก ๆ
เจย์ขอให้เจนสันเป็นคนขับรถ
ส่วนตัวเขาเองนั้นอุ้มแองเจลีนขึ้นมาและเข้าไปนั่งเบาะหลัง
เมื่อจู่ ๆ ได้รับความเชื่อมั่นให้เป็นคนขับรถ เจนสันก็ทำอะไรไม่ถูกไปพักใหญ่ เขาค่อย ๆ ย้ายมาที่นั่งคนขับ
เซ็ตตี้เพิ่งเดินมาถึงเบาะหลังเมื่อเจย์บอกว่า “ไปนั่งด้านหน้าคู่คนขับเลย เซ็ตตี้น้อย”
เซ็ตตี้น้อยทำหน้าบูดบึ้งใส่เจย์ “นี่หนูเป็นแค่ของแถมเหรอคะคุณพ่อ? เวลาที่คุณพ่อไล่ลูกสาวไปให้พ้นแบบนี้ไม่ปวดใจบ้างเหรอคะ?”
เจย์มองแองเจลีนด้วยดวงตาอบอุ่นและพูดเบา ๆ “พ่อซื้อหนึ่งแต่ได้แถมมาอีกสาม ลูกก็รู้ว่าของแถมไม่มีฐานะสูงเท่ากับของแท้จริงหรอก”
ทั้งเจนสันและเซ็ตตี้น้อยต่างก็ดูหมดคำจะพูด
เป็นเวลาสองทุ่มแล้วที่พวกเขากลับมาถึงสวนไร้กังวล
คืนนั้นท้องฟ้ากระจ่างเป็นพิเศษและดวงจันทร์ก็กลมสวย ดวงดาวก็สว่างเช่นกัน
ค่ำคืนที่มีทั้งดวงดาวและพระจันทร์นั้นยิ่งดูพิเศษตราตรึงใจมากกว่าก่อน
เจย์ยืนอยู่หน้าหน้าต่างกระจกบานใหญ่ มองออกไปที่ดวงดาวบนท้องฟ้ายามค่ำคืนขณะที่สวดภาวนาเงียบ ๆ “ได้โปรดอย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นกับร็อบบี้น้อยเลย พ่อกำลังจะไปรับลูกกลับมาแล้วนะ”
…
ข้างนอกหน้าต่างนั้น ทุกอย่างเงียบสงัด
ดวงดาวส่องแสงกระจ่างสว่างเยียบเย็น ปกคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของเมืองอิมพีเรียลด้วยแสงสีขาว
รวมถึงป่ากว้างทางเหนือด้วย