ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1273
คาร์สันพูดสวนกลับอย่างขุ่นเคือง “เลิกทำตัวกวนประสาทได้แล้ว ฉันขอเตือนนายเลยนะให้รีบบอกข้อความที่รอนทิ้งไว้ให้เร็ว ๆ พอเสร็จเรื่องก็ไสหัวกลิ้งลงเขากลับไปซะ”
เจย์เชื่อว่าพอพวกเขาหมดประโยชน์ นายท่านยอร์กคงจะให้พวกเขาได้กลิ้งลงเขาไปจริง ๆ แน่
วันนี้เจย์ปั่นหัวสเปนเซอร์มาทั้งวัน แถมเขายังทำให้ชายที่อารมณ์ดีสามารถโมโหเดือดดาลได้ ดังนั้นเขาจึงรู้ว่านี่เป็นเวลาที่จะต้องยอมอ่อนลงให้แล้ว เขาพูดอย่างสุขุมว่า “เมื่อวานนี้เราพักที่โรงแรมฟลาวเวอร์ซิตี้ และเราก็โชคดีได้บังเอิญเจอคุณรอนเข้า”
สเปนเซอร์หรี่ตามองและเปิดโปงคำโกหกของเจย์ “รอนนี่ของเรานั้นป่วยมากแถมยังนอนติดเตียง เขาขยับตัวแทบไม่ได้แล้วนายไปบังเอิญเจอเขาบนเตียงเหรอไง?”
เจย์คิ้วกระตุกขณะคิดว่าจินตนาการของลุงเขานี่ช่างบรรเจิดเสียจริง
“เรื่องมันยาว พวกเราเพิ่งมาถึงโรงแรมฟลาวเวอร์ซิตี้เมื่อคืนแล้วก็รู้สึกหนาวเพราะอากาศเย็นเฉียบของที่นี่ ดังนั้นเราเลยคิดว่าจะดื่มเหล้าให้ร่างกายอบอุ่นหน่อย ใครจะไปคิดว่าเพื่อนของผมคนนี้จะคออ่อนปานนั้น? แค่กินเข้าไปไม่กี่อึกก็เมาปลิ้นจนคุมตัวเองไม่ได้ แหกปากร้องตะโกนจนรบกวนคนที่พักห้องข้างล่าง-”
สเปนเซอร์โบกมืออย่างหมดความอดทน “ฉันไม่อยากรู้เรื่องตั้งแต่แรกหรอก แค่บอกมาง่าย ๆ ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นกับรอนนี่กันแน่?”
“ตายแล้ว” เจย์พูดออกมาอย่างไม่มีพิธีรีตอง
สเปนเซอร์อึ้งงันไปจริง ๆ คำตอบนั้นเรียบง่ายและตรงไปตรงมาจริง ๆ
“เขาตายได้ยังไง?”
“เพราะอาการป่วยหรือไม่ก็ฆาตกรรม” เจย์พูดต่ออย่างรวบรัด
สเปนเซอร์ร้อนใจจนด่าตวาดออกมา “ช่วยพูดให้มันเป็นประโยคยาว ๆ หน่อยได้ไหมวะ?”
เจย์พูดยาวขึ้นอย่างที่เขาขอ “อาการป่วยหรือไม่ก็ฆาตกรรม ยังต้องรอตัดสิน”
สเปนเซอร์รู้สึกพูดไม่ออก “ถ้างั้นเราจะเอาอย่างที่นายถนัดแล้วกัน บอกรายละเอียดว่านายเจอกับรอนนี่ของฉันได้ยังไงจนถึงตอนที่เขาตาย”
เจย์พูดต่อ “คนรับใช้ของเขาขึ้นมาเคาะห้องเราตอนกลางคืนขอให้เบาเสียงลงหน่อยเพราะมันรบกวนการพักผ่อนของนายท่านเขา”
สเปนเซอร์จ้องเจย์เขม็งอย่างอยากจะฆ่าฟัน “นายรบกวนการพักผ่อนของรอนนี่กลางดึกเหรอ? ฉันจะกลับมาจัดการนายเรื่องนี้ทีหลัง”
เจย์พูดต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน “ตอนเช้าเราได้ยินเสียงร้องไห้ และด้วยน้ำใจห่วงเพื่อนมนุษย์ผมก็เลยลงไปดูชั้นล่าง เพราะว่าจากที่ได้พบสบตากันมาครั้งหนึ่งแล้ว พอคนรับใช้ของนายท่านหนุ่มนั่นเห็นผมก็เลยเชื่อใจให้ผมเอาข้อความมาส่งให้พวกคุณ”
คิ้วของสเปนเซอร์กระตุก วิธีการเล่าเรื่องของเจ้าหมอนี่ทำให้เขาไม่ประทับใจเหลือหลาย มาเจอรอนนี่บนเตียงบ้างล่ะ พบสบตากับคนรับใช้บ้างล่ะ… มันช่างทำให้คนจินตนาการไปไกลเสียจริง
“เล่าจบหรือยัง?”
เจย์พยักหน้า
สเปนเซอร์ตกใจกับข่าวร้ายเรื่องการตายของหลานชายและโมโหจนตัวสั่นที่ทุกอย่างต้องล่าช้าเพราะลูกไม้ของเจย์ ภายใต้ความเครียดรุนแรงแบบนี้เขาต้องการหาที่ระบายความเศร้าโศก
“ยาม ไปที่โรงแรมฟลาวเวอร์ซิตี้และพารอนนี่กลับมา ฉันต้องการเห็นเขาไม่ว่าจะเป็นหรือตายก็ตาม”
“ครับท่าน” ยามรับคำสั่ง
เจย์รู้ว่าเมื่อบอกข้อมูลไปแล้วพวกเขาก็จะหมดประโยชน์
สายตาสเปนเซอร์จ้องมองใบหน้าสงบนิ่งหล่อเหลาของเจย์ เขานั้นเหมือนโดนย้อมเกล็ดด้วยรอยยิ้มที่ดูไม่มีพิษมีภัยนั่น เขาชี้เจย์และคำรามว่า “มัดมันไว้ ฉันอยากจะถลกหนังมันทั้งเป็นแล้วก็กินเลือดมัน”
ทันทีที่เขาพูดจบแองเจลีนลุกขึ้นยืนตัวสั่นสะท้านด้วยความกลัว
เจย์เลื่อนสายตาไปมองท่าทางกังวลของเธอและจับมือเธอไว้ เจย์บอกว่า “ไม่ต้องห่วง นั่งลงเถอะ”
แองเจลีนนั่งลงอย่างกระวนกระวายใจ
ส่วนอีกด้าน เซย์นและโจเซฟินต่างก็หวาดกลัวจนกอดกันแน่น
พี่เชอร์ลีย์นั้นจ้องมองไปข้างหน้าสายตาว่างเปล่า
ส่วนเกรย์สันที่พร้อมสู้ทุกเมื่อก็จ้องสเปนเซอร์และคนของเขาไม่คลาดสายตา
จากนั้นเจย์ก็ค่อย ๆ ลุกและด่าสเปนเซอร์ “นายท่านยอร์ก ช่วยพูดให้มันเบา ๆ หน่อย ภรรยาผมตกใจง่าย”