ราตรีสวัสดิ์ เซอร์อาเรส! บทที่ 1285
พวกคอร์เวตต์หากันทั้งคืนแต่ว่าก็หานักฆ่าไม่เจอ ราวกับว่าเขาระเหยหายตัวไปในอากาศ
วันต่อมาสเปนเซอร์ก็มาที่ป้อม 48
เขาเรียกโคลไปที่ห้องลับและถามด้วยสีหน้าจริงจังว่า “โคล นักฆ่าเมื่อคืนมันผ่านกับดักหลายชั้นที่เราติดตั้งไว้ในเขามุกเข้ามาได้ เห็นได้ชัดว่าเป็นนักสู้ที่ฝึกมาเป็นอย่างดี พอมาคิดเรื่องนี้แล้ว นักฆ่าโผล่มาทันทีหลังจากที่แองเจลีนมา เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาร่วมมือกันประสานจากด้านใน?”
โคลยังคงนิ่งเงียบ…
สเปนเซอร์ดูงงงวย “แองเจลีนก็เป็นแค่นักธุรกิจหญิงเก่งฉกาจจากเมืองอิมพีเรียล แต่ว่าบอดี้การ์ดของเธอก็เก่งพอที่จะคว้ามีดสั้นของฉันได้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงต้องมีคนเก่งกาจขนาดนั้นอยู่ข้างกายด้วย?”
โคลก็ยังคงนิ่งเงียบ…
เมื่อสเปนเซอร์เห็นว่าโคลไม่ยอมพูดอะไรสักคำ ดวงตาเขาก็ยิ่งฉายแววสงสัย “นี่แกกำลังปิดบังอะไรฉันอยู่หรือเปล่าโคล?”
มีแววอ่อนล้าในน้ำเสียงของโคล “ผมบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว”
สเปนเซอร์มองโคลอย่างไม่พอใจ “หมายความว่ายังไงที่ว่าบอกเรื่องที่ควรบอกไปหมดแล้ว? แกอยู่ที่เมืองอิมพีเรียลตั้งครึ่งปี แล้วพอแกกลับมาบ้านแกก็พูดแค่สามเรื่อง แกบอกว่าทำลายตระกูลอาเรสกับอสังหาริมทรัพย์ทัวร์มาลีน แล้วก็ความรักลึกซึ้งถึงกระดูกลืมไม่ลงของแก ไหนบอกมาซิ แกพบกับแองเจลีนได้ยังไง?
โคลอึ้งพูดไม่ออกกับท่าทางช่างซุบซิบของบิดา “ทำไมถึงไม่ถามผมล่ะว่าผมทำลายตระกูลอาเรสยังไง?”
สเปนเซอร์กลืนน้ำลาย “ฉันเชื่อมั่นในความสามารถของแกว่าทำภารกิจสำเร็จ”
แววตาโคลคลุมเครือ มันชัดเจนว่าทั้งพ่อและปู่ของเขาไม่ถามเรื่องนี้มากนักก็เลยทำให้เขายิ่งรู้สึกผิด
เขาไม่ได้แค่ทำลายตระกูลอาเรสและอสังหาริมทรัพย์ ทัวร์มาลีน เท่านั้น แต่เขายังทำลายเจย์ด้วย
บางทีเขาคงไม่รู้สึกผิดขนาดนี้หากว่าเจย์เป็นแค่สามีของแองเจลีน แต่ตอนท้ายแองเจลีนบอกเขาว่าเจย์เป็นลูกชายของอาโคลอี้
เขาฆ่าลูกพี่ลูกน้องของตัวเอง
พ่อกับปู่คงใจสลายถ้าได้รู้เรื่องนี้
อาโคลอี้เป็นเหมือนแสงสว่างและไข่มุกล้ำค่าของตระกูลยอร์ก ลูกที่ปู่รักมากที่สุด ปู่บอกกับเขามากกว่าหนึ่งครั้งว่า “อาของแกเป็นผู้หญิงฉลาดและก็ไม่ด้อยไปกว่าผู้ชายเลย ลูกของเธอก็ต้องโดดเด่นไม่แพ้เธอ เรื่องเดียวที่ปู่เสียใจก็คือไม่ได้เห็นหลายชายของปู่โดดเด่นขึ้นมาเหนือคนทั้งหลายแล้วก็ยืนอยู่จุดสูงสุดในชีวิต รอนสามารถทำได้ แต่ว่าเวลาก็ไม่เป็นใจให้เขา…”
โคลกลัวที่จะบอกว่าที่จริงปู่มีหลานชายที่โดดเด่นเช่นนั้น คนที่หล่อเหลาจนเกินจริงและฉลาดมากแถมยังกล้าหาญ ทุ่มเทใจให้ความรักและความยุติธรรม
หากว่าปู่รู้ถึงการมีอยู่ของเจย์เขาก็ต้องดีใจมากแน่นอน แต่หลังจากที่เขาดีใจแล้วก็ต้องร่วงจากสวรรค์ลงไปสู่เหวลึก
หากปู่รู้ว่าหลานชายตายไปด้วยน้ำมือขององค์กรโลกาวินาศ เขาก็คงจะไม่อาจให้อภัยตัวเองได้
ดังนั้นโคลจึงเก็บความลับเรื่องนี้ไว้ลึกในใจและเจ็บปวดจากผลของการกระทำเลวร้ายนั้นไว้เอง
โชคดีที่ทั้งปู่และพ่อต่างก็ไม่ถามอะไรมากเรื่องของตระกูลอาเรสในช่วงที่ผ่านมา
สเปนเซอร์หรี่ตาและจ้องโคลเขม็ง โคลดูเหมือนกำลังดิ้นรนและเจ็บปวดซึ่งทำให้สเปนเซอร์นิ่วหน้า
“อย่าบอกนะว่าแองเจลีนมีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลอาเรสน่ะ?” สเปนเซอร์ตระหนักได้ว่าต้องมีบางอย่างไม่ถูกต้องจากสีหน้าของลูกชายเขา
โคลยกนิ้วก้อยที่โดนตัดจนกุดไปขึ้นมาแล้วบอกว่า “ลูกสะใภ้ของตระกูลอาเรสควรต้องโดนฆ่า แต่ผมปล่อยเธอไปแลกกับนิ้วก้อยของผม”
สีหน้าสเปนเซอร์มืดครึ้ม ดวงตาสีดำของเขาเย็นเยียบ
“ทำไมแกถึงได้หัวทึบขนาดนี้โคล? แกไม่รู้หรือไงว่าถ้าเราไม่แก้ปัญหาที่ต้นเหตุแล้วจัดการให้มันจบเรื่องไป สุดท้ายปัญหามันก็จะกลับมาอีก?”