วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~ – ตอนที่ 14 ฉันไม่ได้ร้องไห้นะ

วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~

 

“……………………………….นาย”

“นาย?”

“แงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง~!”

 

จู่ๆเธอก็ร้องไห้ออกมาเหมือนเด็ก

 

“ฉันแพ้อีกแล้ว แงงงงงงงงงงงงงงงงง~! ฉันอุตส่าห์ฝึกอย่างหนักแล้วนะ แต่ฉันก็ยังแพ้อีก แงงงงงงงงงงงงงงงงง~!”

 

จากนั้นเธอก็ลุกขึ้น และวิ่งออกไปด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ

 

“…เอ่อ ดูเหมือนผมจะทำเธอร้องไห้สินะ”

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมทำผู้หญิงร้องไห้

ผมมักจะทำให้พี่สาวร้องไห้อยู่บ่อยๆ

 

“ไม่ ฉันไม่ได้ร้องไห้นะ!”

 

ดูเหมือนเธอจะได้ยินเสียงที่ผมพึมพำเลย

ไรนะตะโกนออกมาขณะที่วิ่งออกไป

 

“เป็นไปไม่ได้ เขาสามารถเอาชนะไรนะที่อยู่แรงค์ B ได้…? อีกอย่าง ความเร็วนั่นมันอะไรกัน…! นะ-นายไร้อาชีพจริงๆเหรอ……..?”

 

ลิเลียยืนขึ้นด้วยความตกตะลึง

และผมก็รู้สึกตัวว่า มีคนกำลังดูอยู่

 

“…ยินดีต้อนรับสู่กิลด์เขี้ยวมังกรนะอาเรลซัง! พวกเรายินดีต้อนรับนายในฐานะสมาชิกใหม่!”

 

มันเป็นการต้อนรับที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ราวกับก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

“เปลี่ยนท่าทีไวจังนะ”

“ฮะๆๆๆๆ ไม่หรอกน่า? ฉันเชื่อในตัวอาเรลซังมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วแหละ”

“หึหึ ตลกมากนะ ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนตะโกนออกมาเองว่า ‘มันเป็นความผิดของนาย บ้าเอ้ย’ หรอกเหรอ?”

“อาจจะเป็นแค่ภาพติดตาของฉันล่ะมั้ง?”

 

ตามที่ฉันคิด ไม่มีทางที่ภาพติดตาจะพูดได้

 

“ช่างเถอะ ผมเซ็นต์มันไปแล้ว”

“ใช่แล้ว ใช่แล้ว!”

“แล้ว ที่บอกว่ากิลด์นี้จะเสียฐานที่มั่นไปมันคือยังไง?”

“…เอ่อ เรื่องนั้นคือ…”

 

เมื่อผมถามเธอ เธอก็เล่าเกี่ยวกับสถานการณ์ที่กิลด์กำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้ให้ฟัง

 

สรุปง่ายๆก็คือ กิลด์นี้มีหนี้สินจำนวนมาก

 

และถ้าพวกเขาไม่หาเงินมาจากภายในเดือนนี้ พวกเขาก็ต้องนำฐานนี้ไปปล่อยขาย และถ้าหากเสียฐานนี้ไป พวกเขาก็จะสูญเสียสถานะกิลด์ด้วยเช่นกัน

แน่นอนว่าสามารถย้ายไปฐานใหม่ได้… แต่ถ้าหากยังมีหนี้อยู่มันก็ลำบากล่ะนะ

 

อืม

ดูเหมือนสถาณการณ์ค่อยข้างจะบีบคั้นพอตัวนะ

 

“มีทางไหนบ้างที่จะหาเงินมาจ่ายหนี้ได้?”

 

“หนึ่งสัปดาห์ข้างหน้า พวกเรามีแผนจะเข้าร่วมกิลด์วอร์ ถ้าหากพวกเราชนะได้…”       

 

แต่ว่ามันต้องมีอย่างน้อยสามคนในการเข้าร่วม

 

“…เพราะอย่างนั้น ฉันเลยต้องหาสมาชิกใหม่อย่างเอาเป็นเอาตายยังไงล่ะ”

“หรือก็คือ ถ้ารวมผมแล้วกิลด์นี้มีเพียงแค่สามคนสินะ”

 

“…ชะ-ใช่แล้ว พ่อก็อยู่ในสภาพนั้นด้วยล่ะนะ…”

 

ก็สมเหตุสมผลดี แม้ว่าฐานนี้จะเป็นอาคารใหญ่ แต่ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากพวกเรา

                      

“กะ-ก่อนหน้านี้มีเยอะกว่านี้นะ! แต่เพราะพ่อกลายเป็นแบบนั้น ทุกคนก็เลยลาออกกันหมด…”

“งั้นตอนนั้น ก็เหลือเธออยู่คนเดียวเหรอ?”

“ไรนะด้วย ไรนะเป็นเด็กที่ดี ดูเหมือนเธอจะมาที่เมืองแห่งนี้ตอนอายุเพียงสิบขวบ เธอจึงถูกทุกกิลด์ปฏิเสธ ตอนนั้นพ่อของฉันก็เลยพาเธอมาที่กิลด์แห่งนี้… ฉันดีใจมากเลย ที่เธอบอกว่าจะอยู่ที่นี่จนถึงตอนสุดท้าย”

 

เธอเป็นคนดีจริงๆ

 

“เอาเถอะ โดยรวมแล้วก็คือ พวกเราต้องชนะการแข่งขันนี้ให้ได้”

“……ใช่แล้ว”

“เป็นอะไรไป? ยอมแพ้ก่อนการแข่งขันอีกเหรอ?”

“ไม่ ไม่! ไม่มีทาง? ใช่แล้ว! พวกเราจะชนะ พวกเราจะชนะแน่นอน”

 

เข้าใจง่ายดี

 

“คู่ต่อสู้แข็งแกร่งมากมั๊ย?”

“…ก-ก็แค่ตอนนี้แหละ”

 

ลิเลียลังเลก่อนที่จะพูดต่อ

 

“ก็กิลด์ดาบทมิฬ…ตอนนี้ถูกเรียกว่าเป็นกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดในเมือง”

 

เข้าใจแล้ว กิลด์นั้นนั่นเอง

 

นั่นเป็นกิลด์แรกที่ไล่ผมออกมา

 

“…ยิ่งไปกว่านั้น อาจจะมีคู่ต่อสู้ถึงสิบคน แต่ฝั่งเรามีกันแค่สามคน”

 

หรือก็คือการแข่งขันเป็นแบบชนะแล้วสู้ต่อ

ดังนั้นคนสามคนจะต้องจัดการคู่ต่อสู้ทั้งสิบคนให้ได้

“แล้วก็ มีนักดาบแรงค์A แปดคนอยู่ในกิลด์ดาบทมิฬ”

“แล้วมันคืออะไร ไอ้แรงค์A และแรงค์B ที่พูดมา?”

“สรุปสั้นๆเลยก็คือสิ่งที่ใช้วัดความแข็งแกร่งของนักดาบ ในการแข่งขันทัวร์นาเมนต์ใหญ่ๆ ยิ่งนักดาบระดับสูงเท่าไหร่โอกาสที่จะผ่านเข้ารอบก็จะมากขึ้นเท่านั้น”

 

แรงค์มีอยู่ 4 ระดับ ได้แก่ A,B,C และ D และแรงค์ A คือแรงค์ที่ดีที่สุด

ยิ่งแรงค์สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีจำนวนคนน้อยลงเท่านั้น และในเมืองนี้มีนักดาบแรงค์ A อยู่ 20 คนเท่านั้น

จากนักดาบ 500 คนในเมืองนี้ พวกเขาคือคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุด

 

อย่างไรก็ตาม ไรนะและลิเลียนั้นก็เป็นนักดาบแรงค์ B

 

“ไม่มีทางที่นักดาบแรงค์ A ทั้งหมดจะถูกส่งมาเข้าแข่งขัน… แต่นอกจากแรงค์ A แล้ว ก็ยังมีนักดาบแรงค์ B บางคนที่แข็งแกร่งกว่าพวกเราอีก แต่ฉันไม่คิดว่าพวกเราจะแพ้ตั้งแต่เริ่มหรอกนะ”

 

วันประลองใกล้เข้ามา

 

มีลานประลองมากมายในเมืองนี้ และเกือบทุกวันจะมีการต่อสู้

นอกจากการต่อสู้ของนักดาบแล้ว ยังมีการต่อสู้ของนักดาบกับมอนสเตอร์ขนาดยักษ์แบบทีมอีกด้วย

ที่ทั้งหมดนั้นเป็นที่สำหรับการเดิมพัน แม้แต่การแข็งขันของเราก็ไม่ต่างกัน

 

Note : ถ้าใครต้องการสนับสนุนค่าไฟหรือค่ากาแฟสามารถโดเนทได้ตามด้านล่างครับ

วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~

วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~

Status: Ongoing
“อาชีพ” จะได้รับเมื่ออายุครบ 10 ขวบ และการที่มีหรือไม่มี “ทักษะ” จะส่งผลต่อชีวิตอย่างมาก อาเรลลูกชายของ “เจ้าหญิงดาบ” ฟาร่า และ “ราชาแห่งเวทมนตร์” ลีออน ถูกตราหน้าว่าเป็น “ไร้อาชีพ”… แต่ถึงแม้จะไม่มีงานทำหรือทักษะใดๆ อาเรลเชื่อว่าเขาสามารถได้ทักษะเหล่านั้นผ่านความพยายามได้

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท