วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~ – ตอนที่ 15 ถ้าเราชนะศึกนี้ เราก็จะหมดหนี้แล้ว

วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~

 

การแข่งขันที่จัดขึ้นทั้งหมดในเมืองนี้นั้นจะมีการเดิมพันทั้งหมด

ซึ่งในการแข่งขันใหญ่ๆ  จะมีเงินหมุนเวียนเป็นจำนวนมาก

 

“ในตอนนี้ดูเหมือนว่าจะมีเงินจำนวนมาก ที่ใช้ในการเดิมพันระหว่างกิลด์ระดับท็อปของสมัยเก่าและสมัยใหม่”

 

ในห้องพักก่อนการประลอง ลิเลียพูดออกมาด้วยความกังวล

ดูเหมือนว่าจำนวนเงินเดิมพันที่ได้จะขึ้นอยู่กับจำนวนเงินที่วางเดิมพันลงไป

 

แต่ว่ามันก็ยังไม่พอที่จะจ่ายชำระหนี้

 

“อัตราส่วนของกิลด์เขี้ยวมังกรนั้นมากกว่า 20 เท่า… ถ้าหากว่าเราชนะการแข่งครั้งนี้ หนี้ก็จะหมดแล้วล่ะ…”

(Note : ถ้าชนะก็จะได้ 20 เท่าของเงินที่ลง ถ้าแพ้ก็จะเสียเงินที่ลงทั้งหมด)

 

ดูเหมือนว่าผู้เข้าแข่งสามารถลงเดิมพันข้างตัวเองได้ และดูเหมือนว่าลิเลียจะลงเดิมพันกับกิลด์เขี้ยวมังกรด้วยเงินก้อนใหญ่เลย

ถ้าเราแพ้กิลด์ก็จะล่มสลาย

บางทีนี่อาจจะเป็นศึกใหญ่ครั้งสุดท้าย

 

“อ๊ะ มันน่าประทับใจจริงๆเลย เด็กผู้หญิงที่พยายามอย่างหนักเพื่อปกป้องกิลด์ของพ่อเธอ”                                                                                                                 

 

มีเสียงดังออกมาจากหน้าประตูทางเข้า

เมื่อผมมองไป มีลุงคนหนึ่งที่ท่าทางเหมือนตั๊กแต่ตำข้าว

ผอม สูง และทรงผมยุ่งเหยิง

เขายิ้มเยาะ และดวงตาของเขาเฉียบคมเหมือนสัตว์ป่า

 

“เกรก…!”

“ฉันได้ยินมาว่าเธอรับเอาคนไร้อาชีพเข้ามาเป็นสมาชิกสินะ แย่หน่อยนะ! พอดีฉันเป็นคนจัดการผู้เข้าแข่งขันน่ะ”

 

เขามองมาที่ผมอยู่ครู่หนึ่ง

 

“ลิเลีย คนรู้จักของเธอเหรอ?”

“…ไม่ เขาไม่ใช่คนรู้จักของฉัน เขาเป็นผู้นำของกิลด์ดาบทมิฬ”

 

อาฮะ

 

ผมคิดว่าผมได้ยินไม่ผิดหรอก แสดงว่าเขาคือหัวหน้าของกิลด์ที่แข็งแกร่งที่สุดภายในเมืองนี้สินะ

 

ลิเลียจ้องไปเขาด้วยสายตาที่แสดงความเป็นศัตรู

 

“โอ๊ะโอ๋ ไม่ต้องมองฉันด้วยสายตาเกลียดชังแบบนั้นก็ได้ อย่างไรก็ตาม เธอควรขอบคุณฉันนะที่เธอได้รับโอกาสสุดท้าย แน่นอน ฉันรู่ว่าเธอเข้าใจมันดี ฉันคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้เลย สำหรับกิลด์ที่ตกต่ำขนาดนั้น ที่จะมาแข่งกับกิลด์ของฉันได้”

 

ความแตกต่างระหว่างกิลด์ระดับท็อปสมัยเก่าและสมัยใหม่นั้นแตกต่างกันอย่างชัดเจน

 

ตอนแรกผมคิดว่ามันจะเป็นการแข่งขันที่ดี แต่ดูเหมือนว่าคนๆนี้จะมีจุดประสงค์อื่นอยู่

 

“ฉันไม่ต้องการที่จะแพ้ให้กับกิลด์ที่เป็นคู่แข่งอย่างเป็นทางการหรอกนะ ฉันคงต้องทำอะไรซักอย่างหน่อยแล้ว”

 

ไม่ใช่เจตนาที่ดีอย่างแน่นอน

ถ้าคุณเห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของคนๆนี้คุณจะเข้าใจ ขนาดผมที่เพิ่งเจอเขาครั้งแรกยังเข้าใจเลย

เขาเป็นพวกที่ชอบทำลายผู้ที่อ่อนแอกว่า

 

“ไม่ว่าเธอจะชำระหนี้ได้หรือไม่ก็ช่าง อ้อใช่แล้ว เพื่อความแน่ใจ ถ้าเธอไม่สามารถชำระหนี้ได้และกลายไปเป็นทาสล่ะก็ ฉันจะไปซื้อเธอเอง”

“…”

 

ภายใต้การจ้องมองของชายคนนั้น ลิเลียเอามือทั้งสองข้างมาบังร่ายการเอาไว้

 

ไม่มีทางหรอกย่ะ ขอโทษด้วยล่ะกัน

 

“หึหึหึหึ~”

 

หลังจากที่เธอปฏิเสธด้วยความรังเกียจ ชายคนนั้นก็หันกลับไป

 

“แต่ว่า ฉันไม่ประมาทหรอกนะ ไม่เหมือนใครบางคนที่เสียแขนไปอย่างน่าสังเวช”

 

เขาจากไปพร้อมกับทิ้งคำพูดเอาไว้

เมื่อได้ยินคำนั้น ลิเลียก็หันไปจ้องที่เขา

 

“อะไรกันย่ะ….! เพราะแขนของพ่อกลายเป็นแบบนั้น แกก็เลยกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองนี้ พอใจไหมล่ะ…!”

 

[งานหลักของวันนี้จะเริ่มแล้วนะครับ ระหว่าง ‘กิลด์ดาบทมิฬ’ ปะทะ ‘กิลด์เขี้ยวมังกร’]

 

เสียงดังสนั่นไปทั่วลานประลอง

 

ด้วยสายของที่จับจ้องของผู้ชมจำนวนมาก พวกเราเดินเข้าไปในสนาม

ที่นั่นมีสนามทรงสี่เหลี่ยมตั้งอยู่ และการประลองจะเริ่มขึ้นที่นั่น

 

“เฮ้ย ดูนั่นสิ! พวกเขี้ยวมังกรมีกันแค่สามคนเอง”

“จริงเหรอ! ฉันได้ยินมาว่ากิลด์พวกเขาล่มสลายไปแล้ว เป็นไปได้ว่าพวกเขามีคนอยู่แค่นั้น”

 

ผู้ชมต่างบ่นพึมพัมเมื่อเห็นว่าพวกเขามีสมาชิกเพียงแค่สามคน

และฝั่งตรงข้ามของพวกเขาก็มีนักดาบจากกิลด์ดาบทมิฬจำนวนสิบคนอยู่ในสนาม

 

“โอ้วว! ดูเหมือนในนั้นจะมีนักดาบแรงค์ A อยู่ตั้งสี่คนแหนะ”

“ที่เหลืออีกหกคนนั้นเป็นแรงค์ B ทั้งหมดเลย”

 

“เป็นอย่างที่คิด ไม่มีสุดยอดนักดาบอย่างเกรก แต่ว่ามันก็ยังยากสำหรับพวกนั้นอยู่ดี!”                                                                                                                  

 

ลิเลียที่อยู่ถัดจากผมแก้มกระตุก

 

“มีแรงค์ A สี่คนอยู่ในนั้น…”

 

เพราะไม่มีแรงค์ A ในฝั่งของเราเลย ฝั่งเราคงโชคร้ายล่ะนะ

 

“นี่มันเหมือนกับการล่ากระต่ายชัดๆ เพราะว่าหมอนั่นเป็นพวกที่ชอบเล่นกับเหยื่อล่ะนะ เอาเถอะ ฉันดีใจที่ได้เจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งล่ะน่ะ”

“นั่นเป็นคำพูดที่เยี่ยมไปเลย งั้นพวกเรารีบไปจัดการพวกเขากันเถอะ”

“อืม นั่นก็จริง แต่ว่านี้มันอะไรกันนะ”

 

ถึงแม้ว่านี่จะเป็นกิลด์ที่แม่ของผมเคยอยู่ก็ตาม แต่ผมก็ไม่ได้รู้อะไรเกี่ยวกับมันมากนัก

แม้ว่าจะบอกให้ผมเอาใจใส่ก็เถอะ แต่มันก็ยากสำหรับผมอยู่ดี

 

“จริงสิ ไรนะสบายดีไหม”

“อย่ามาเรียกชื่อกันง่ายๆแบบนั้นนะ!”

 

เมื่อผมพยายามเรียกเด็กหญิงสาวที่มาจากบ้านเกิดเดียวกัน ซึ่งเธอเงียบไปพักใหญ่ เธอก็ตะโกนออกมาแบบนั้น

 

“ทำไมเธอถึงโกรธล่ะ?”

“เงียบไปเลย! ไม่ได้โกรธสักหน่อย!”

 

ดูเหมือนว่าเธอจะยังคิดถึงเรื่องที่ผ่านมาอยู่

ลิเลียพูดขอร้อง

 

“ไรนะจัง…ได้โปรด… ฉันเข้าใจว่าเธอยังคงหงุดหงิดที่แพ้ให้กับอาเรลซังอยู่ แต่ตอนนี้เราต้องตั้งใจกับการแข่งนะ…”

“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว! และก็ฉันไม่ได้หงุดหงิดซักหน่อย!?”

 

[เอาล่ะ เรามาเริ่มรอบแรกกัน จากกิลด์ดาบทมิฬ ‘กลาดิเอเตอร์’ กิโอ! และฝั่งตรงข้ามจากกิลด์เขี้ยวมังกร…เอ๋?…ระ ‘ไรอาชีพ’ อาเรล!]

 

Note : ถ้าใครต้องการสนับสนุนค่าไฟหรือค่ากาแฟสามารถโดเนทได้ตามด้านล่างครับ

วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~

วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~

Status: Ongoing
“อาชีพ” จะได้รับเมื่ออายุครบ 10 ขวบ และการที่มีหรือไม่มี “ทักษะ” จะส่งผลต่อชีวิตอย่างมาก อาเรลลูกชายของ “เจ้าหญิงดาบ” ฟาร่า และ “ราชาแห่งเวทมนตร์” ลีออน ถูกตราหน้าว่าเป็น “ไร้อาชีพ”… แต่ถึงแม้จะไม่มีงานทำหรือทักษะใดๆ อาเรลเชื่อว่าเขาสามารถได้ทักษะเหล่านั้นผ่านความพยายามได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท