วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~ – ตอนที่ 33 นี่ยังอยู่ในระหว่างการแข่งขันนะ

วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~

 

เมื่อเกรกชักดาบออกมา ทันใดนั้นเขาก็กรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด จากนั้นร่างกายของเขาก็กลายเป็นสัตว์ประหลาด

 

มีเขางอกออกมาจากหน้าผากของเขา

ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเทา

ร่างกายที่ผอมบางของเขาใหญ่โตขึ้นมาหนึ่งถึงสองเท่าด้วยมวลของกล้ามเนื้อ

 

“………ยักษ์งั้นเหรอ”

 

มันเหมือนกับก็อบลินหรืออ็อคซะมากกว่า แต่มันมีสติปัญญาและสามารถพูดได้ด้วย ดังนั้นมันจึงเหมือนกับมนุษย์มากกว่า

พวกมันมักจะถูกเรียกว่าปีศาจ

 

ทันใดนั้นดวงตาของยักษ์ก็เปล่งประกาย และปากของมันก็แสดงอารมณ์แห่งความสุขออกมา

 

“คุคุคุ…..ฮะฮะฮะฮะฮะฮะ!”

 

มันได้หัวเราะออกมาเสียงดัง ราวกับว่ามันไม่สามารถอดทนต่อไปได้อีก

 

“นานแค่ไหนแล้วนะ ที่ข้าไม่ได้ฟื้นขึ้นมา เพราะว่ามันยากมากที่จะหาคนที่มีร่างกายที่เหมาะสมกับข้า”

 

ดูเหมือนว่ายักษ์จะพูดภาษามนุษย์ออกมาจากปากของมัน

แปลว่าเราน่าจะสามารถสื่อสารกันได้

 

“ผมขอคุณหน่อยได้ไหม? เรื่องแรกเลย คุณเป็นใคร? เรื่องที่สอง ทำไมคนคนนั้นถึงได้กลายเป็นยักษ์ไปได้ เมื่อเขาชักดาบออกมา?”

 

เมื่อผมถามออกไป ยักษ์ก็ได้หันกลับมาพร้อมกับหัวเราะ *คุคุคุ*

 

และในมือของมันก็มีดาบที่เกรกชักออกมา

 

“เมื่อมันมองมาที่ผม มันก็ได้เฉยชา มันเป็นช่วงเวลาที่สงบอย่างมาก”

 

ยักษ์ตัวนั้นกำลังพึมพำบางอย่างที่น่าสงสัย

 

“ข้าคือดูเกลดา อย่างที่เห็น ข้าคือปีศาจ ครั้งหนึ่งข้าเคยดำรงตำแหน่งเป็นผู้บริหารในกองทัพราชาปีศาจ เมื่อพูดถึงดูเกลดาแล้ว ข้ามมีสมญานามว่า ‘เทพยักษ์‘ เหล่าผู้คนนั้นจะต้องสั่นสะท้านเมื่อได้ยินชื่อนั้น”

 

หืม

ผู้บริหารในกองทัพราชาปีศาจงั้นเหรอ

 

เรื่องราวเมื่อหลายร้อยปีก่อน

ในยุคมืดที่มนุษยชาติถูกคุกคามจากราชาปีศาจที่ถูกอัญเชิญมาโดยเทพผู้ชั่วร้าย โดยมีปีศาจที่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขา ช่วงนั้นเป็นยุคมืดที่มนุษย์ถูกคุกคาม

 

ผู้คนนั้นล้มตายเป็นจำนวนมาก บ้านเมืองและประเทศหลายแห่งนั้นถูกทำลาย เทพธิดาจึงได้อัญเชิญวีรบุรุษทั้งเจ็ดคนออกมาเพื่อต่อสู้กับราชาปีศาจ

 

คนเหล่านั้นสามารถพิชิตราชาปีศาจได้ หลังจากผ่านการต่อสู้อันดุเดือด จนทำให้โลกนั้นกลับคืนสู้ความสงบสุขอีกครั้ง

 

เรื่องนี้นั้นเป็นเรื่องที่แม้แต่เด็กๆก็รู้จัก

แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละสถานที่ เนื่องจากเนื้อหาของเรื่องมันจะแตกต่างกันเล็กน้อย

 

“คุคุคุ ข้าเข้าใจล่ะ ตั้งแต่ตอนนั้นมา มันก็ผ่านมาหลายร้อยปีแล้ว คนที่อยู่ในยุคนั้นคงอยู่ในหลุมกันหมดแล้ว ชีวิตของมนุษย์นั้นมันสั้นมากจริงๆ”

 

จากคำพูดของยักษ์ที่ชื่อดูเกลดา ทำให้ผู้คนในลานประลองที่กำลังสับสนกับการเปลี่ยนแปลงของเกรกเริ่มเต็มไปด้วยความโกลาหน 

 

“ย-ยักษ์ เมื่อกี้มันพูดว่าเทพยักษ์ใช่ไหม? มันเป็นผู้บริหารของราชาปีศาจที่พ่ายแพ้ให้กับเทพดาบไม่ใช่เหรอ……?”

“ว่ากันว่าเขาเป็นผู้นำยักษ์เพียงไม่กี่ร้อยตนเท่านั้น แต่เขานั้นทรงพลังมาก สามารถทำให้ช่วงเวลานั้นพังทลายจนย่อยยับได้”

“อ-อย่าพูดอะไรโง่ๆสิ…! ยักษ์นั้นควรจะถูกสังหารโดยเทพดาบไปแล้ว ไม่มีทางที่สิ่งมีชีวิตแบบนั้นจะมาอยู่ในที่แห่งนี้ตอนนี้หรอก….?”

 

เมื่อได้ยินแบบนั้น ยักษ์ก็เริ่มหัวเราะออกมา *คุคุคุ*

 

“มันเป็นความจริงที่ข้าถูกสังหารโดยเทพดาบ แต่ในตอนนั้นข้าได้เข้าไปสิ่งในดาบที่สังหารข้า ด้วยเลือดของข้าเอง หรือจะบอกว่าสิ่งนี้มันเป็นคำสาปก็ได้ จากนั้นเทพดาบก็ได้ตระหนักว่ามันไปเป็นไม่ได้ที่จะลบคำสาปของข้าออก เนื่องจากความเกลียดชังที่รุนแรงของข้า จากนั้นเทพดาบก็ได้เก็บข้าลงในหีบและประตราผนึกเอาไว้”

 

แต่ตอนนี้เกรกได้ปลดผนึกออกมา และฟิ้นคืนชีพเขาขึ้นมา

 

“ทำไมเขาถึงมีดาบแบบนี้ได้นะ?”

 

ดาบปีศาจ ไม่ใช่สิ ผมควรจะเรียกมันว่าดาบต้องสาปดีกว่า

ดูเหมือนว่าวีรบุรุษในตำนานหนึ่งในนั้นจะใช้มันจริงๆ แต่ถึงอย่างนั้นมันได้กลับกลายเป็นสิ่งที่แตกต่างจากที่เกรกคาดหวังเอาไว้มาก

 

เมื่อผมรู้สึกตัว ยักษ์นั้นก็ได้เอากำปั้นทุบลงบนพื้น

 

ซูโกกกกก!!!

 

เสียงคำรามดังกึกก้อง เวทีที่แข็งแรงและทำจากวัสดุพิเศษก็ได้พังทลายลงอย่างรวดเร็ว

 

ในทางตรงกันข้าม ผู้คนที่เห็นเหตุการณ์ก็

 

“อ-อ๊ากกกกกกก~!”

“วิ่งงงงงงง~!”

“นั่นมันเทพยักษ์ เทพยักษ์ฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้ว”

 

ผู้คนโดยรอบตกอยู่ในความตื่นตระหนก

เสียงกรีดร้องดังก้องไปทั่วทุกที่ เหล่าผู้ชมพยายามที่จะหลบหนีออกไป

 

ในทางกลับกันก็มีผู้ชมที่เข้าใกล้เวทีที่ถูกทำลายอย่างกล้าหาญ

คนเหล่านั้นคือผู้เข้าร่วมรอบชิงชนะเลิศ

 

“ฉันไม่รู้ว่าเทพยักษ์คืออะไร แต่ฉันจะไม่ให้แกมารบกวนงานแข่งศึกชิงถ้วยเทพดาบ”

“โชคดีมากที่มีนักดาบชั้นนำมายมากมารวมตัวกันที่นี่ ในเวลานี้”

 

พวกเขาชักดาบออกมาพร้อมกันและกระโดดเข้าไปหาเทพยักษ์

 

“ช-ใช่แล้ว มีนักดาบแรงค์ A มากมายอยู่ที่นี่!”

“แม้ว่าจะเป็นเทพยักษ์ พวกเขาก็จะ…….”

 

ผู้ชมบางคนที่ได้ตกอยู่ในความสิ้นหวังได้หยุดดู ราวกับว่ามีความหวังอยู่ตรงหน้า

แต่ในเวลาถัดมา ความหวังของพวกเขาก็ได้พังทลายลง

 

“อ่อนจริงๆ”

“!?”

 

ยักษ์ได้เหวี่ยงแขนขวาไปด้านข้าง

ในเวลาเดียวกัน นักดาบแรงค์ A ทั้งหมดก็ถูกเป่ากระเด็นไปชนกับกำแพงที่กันระหว่างสนามประลองกับผู้ชม

 

“อ๊ากกกกกกกกกกกก~!?”

 

ผู้คนรอบข้างกลับเข้าสู่ความสิ้นหวังมากกว่าเดิม

 

“คุคุคุ เป็นเสียงที่ดีจริงๆ เสียงร้องแห่งความกลัวและความสิ้นหวังช่างไพเราะจริงๆ อย่างไรก็ตามดูเหมือนสำหรับข้าแล้ว นักดาบในช่วงเวลานี้นั้นไม่ต่างกับลูกปลาตัวเล็กๆ”

 

ยักษ์นั้นได้เยอะเย้ยอย่างโหดร้าย

 

“ป-เป็นไปไม่ได้….มันชนะได้อย่างง่ายดาย…”

“นี่คือเทพยักษ์…”

 

เอาชนะนักดาบได้อย่างง่ายดาย ทำให้ผู้คนรอบข้างคนอื่นๆที่จะเข้าร่วมต่อสู้ด้วย ถึงกับตะลึงไม่หยุด

บางคนคร่ำครวญถึงชีวิตและก็หนีไป

 

“อ-อาเรล! นายรีบออกมาจากตรงนั้นเร็ว!”

 

เสียงกรีดร้องนั้นดังมาจากไรนะ

 

“? ทำไมผมต้องวิ่งหนีด้วยล่ะ?”

“อ-อย่าบอกนะว่านายจะสู้กับมัน!?”

“แน่นอนสิ ก่อนอื่นเลยนี่มันยังอยู่ในระหว่างการแข่งขันนะ”

 

การที่นักดาบคนอื่นเข้ามาแทรกแซงการต่อสู้โดยไม่ได้รับอนุญาต มันผิดกฎนะ

 

“น-นั่นมันใช่ปัญหาซะที่ไหน!? คู่ต่อสู้คือปีศาจในตำนานนายรู้ไหม!? มันไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะจัดการได้ง่ายๆ!”

 

“……..หืม? แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ได้พ่ายแพ้ต่อเทพดาบที่เป็นมนุษย์น่ะจริงไหม? ถ้าเป็นแบบนั้น ผมก็สามารถชนะมันได้”

“…”

 

เมื่อได้ยินคำพูดของผม ยักษ์ก็ได้ตะโกนออกมา

 

ฮืม ช่างเป็นเด็กที่กล้าหาญและเย่อหยิ่งจริงๆ ไม่เป็นไรหรอกถ้าแกจะหนีไป อย่างไรก็ตาม ข้าตั้งใจจะฆ่าทุกคนอยู่แล้ว ไอ้เจ้าเทพดาบบ้านั่นมันได้ตายไปแล้ว และก็ไม่มีเทพดาบอยู่ในโลกนี้แล้ว คุคุคุ นั่นมันหมายความว่าตอนนี้ข้าสามารถฆ่าคนได้ โดยไม่มีใครมารบกวน”

“หืม แกเข้าใจผิดอยู่สองเรื่องนะ”

“….?”

“เรื่องแรกเลย เทพดาบนั้นมีตัวตนอยู่ในโลกนี้ เรื่องที่สอง ถึงจะไม่มีเทพดาบผมก็สามารถเอาชนะแกได้”

“อะไรนะ?……….!?”

 

จากนั้นผมก็พุ่งเข้าไปโดยใช้ย่างก้าวศักดิ์สิทธิ์ และโจมตีใส่ยักษ์

 

“ทลายไรขีดจำกัด”

”อักกก!?”

 

Note : ถ้าใครต้องการสนับสนุนค่าไฟหรือค่ากาแฟสามารถโดเนทได้ตามด้านล่างครับ

วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~

วีรบุรุษไร้อาชีพ ~ถึงจะไม่มีสกิลก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร~

Status: Ongoing
“อาชีพ” จะได้รับเมื่ออายุครบ 10 ขวบ และการที่มีหรือไม่มี “ทักษะ” จะส่งผลต่อชีวิตอย่างมาก อาเรลลูกชายของ “เจ้าหญิงดาบ” ฟาร่า และ “ราชาแห่งเวทมนตร์” ลีออน ถูกตราหน้าว่าเป็น “ไร้อาชีพ”… แต่ถึงแม้จะไม่มีงานทำหรือทักษะใดๆ อาเรลเชื่อว่าเขาสามารถได้ทักษะเหล่านั้นผ่านความพยายามได้

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท