พวกเขาเห็นฉันนั่งไว้เรียบร้อยแล้ว เขาก็เดินมาที่โต๊ะฉัน นัชชาเห็นฉัน แล้วสีหน้าเปลี่ยนเลย จากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรมาก โต๊ะเป็นโต๊ะสี่ที่นั่ง
เพราะว่าฉันนั่งลงก่อนแล้ว นัชชาก็รีบเดินมานั่งข้างๆ ฉันก่อน และทำหน้าน่ารักพูดกับฉันว่า “พี่ดารัณคะ หนูขอนั่งข้าง ๆ พี่นะคะ พี่ไม่ถือสานะคะ”
ฉันจะไปถือสาได้ไหมล่ะ
ไม่ได้!!!
ฉันเลยเงียบ
“สั่งอะไรไปแล้วบ้างอ่ะ” อาธิปถามฉันในขณะที่รับเมนูจากพนักงานเสิร์ฟมา
ฉันบอกว่า “ของทานเล่นสองสามอย่างกับโจ๊กที่หนึ่ง”
เขาพยักหน้า แล้วก็ก้มหัวดูเมนู แล้วสั่งเพิ่มไปอีกหลายอย่าง เฉียวจิ่นเหยนเบะปาก และบอกว่า “พี่อาธิปครับ ไม่ต้องสั่งเผื่อผมนะครับ ผมกินไม่ลง”
อาธิปพยักหน้า แล้วก็คืนเมนูให้พนักงานเสิร์ฟ
แล้วเขาสามคนก็คุยกันอย่างสนิทสนม สิ่งที่เขาคุยกันฉันก็ไม่รู้เรื่องอะไรกับเขา ฉันก็เลยอยู่เงียบ ๆ ดีกว่า
พนักงานเสิร์ฟยกโจ๊กออกมา เป็นโจ๊กฟักทอง เด็กเสิร์ฟเพิ่งวางลง อาธิปก็ขยับไปให้นัชชาอย่างเป็นธรรมชาติ และพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำและอ่อนโยนว่า “นี่ สั่งมาให้หนู กินไปจ๊ะ จะได้หายปวดท้อง”
นัชชาดีใจใหญ่ ยิ้มเบิกบาน และบอกว่า “พี่อาธิปรู้ใจหนูที่สุดเลย รู้ว่าหนูชอบกินโจ๊กฟักทอง”
ฉากนี้ทำให้ฉันเจ็บมาก
เพราะรักด้วยใจ ถึงจำได้ว่าเธอชอบอะไรไม่ชอบอะไร มันเป็นความรักความเอ็นดูที่มีจากใจจริง ๆ ซึ่งเป็นอะไรที่ฉันใฝ่ไปตลอดชีวิตก็ไม่สามารถได้ความรักแบบนั้นได้
“พี่ดารัณสั่งโจ๊กอะไรไว้เหรอคะ พี่แบ่งกินกับหนูได้นะคะ โจ๊กฟักทองของร้านนี้อร่อยมากเลยนะ แต่ก่อนพี่อาธิปพาหนูมากินร้านนี้บ่อย” ระหว่างที่เธอพูด เธอก็ขยับชามมาไว้ข้างหน้าฉัน
ฉันส่ายหัว แล้วก็ขยับชามกลับไปที่เดิม และบอกว่า “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันก็สั่งมาแล้ว เดี๋ยวก็มาแล้วค่ะ”
เห็นฉันปฏิเสธ เธอก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ แล้วก็ไปคุยเรื่องราวต่าง ๆ นาๆ ที่ฉันเข้ากันไม่ได้กับผู้ชายสองคนต่อ
รอไม่นานเท่าไร ของทางเล่นและโจ๊กก็ออกมาครบแล้ว เห็นฉันก็สั่งโจ๊กฟักทองมา นัชชาก็หัวเราะอย่างเป็นเด็ก และบอกว่า “พี่ดารัณสั่งโจ๊กฟักทองมาด้วยเหรอคะ หนูจะบอกอะไรให้ โจ๊กที่พี่อาธิปทำก็อร่อยมากเลยนะคะ”
ในขณะที่เธอพูดคุยกับฉัน เธอก็ยื่นตัวมาเข้าใกล้ฉัน และชิดหัวมาข้าง ๆ หูฉัน ฉันไม่ชอบให้คนเข้าใกล้ฉัน ฉันเลยขมวดคิ้วตาแล้วขยับตัวห่างออกไปนิดหน่อย
“อ้า!” ไม่รู้ว่าทำไมอยู่ ๆ โจ๊กร้อน ๆ ที่วางอยู่ข้างหน้าฉันหกแล้วกระเด็นมาที่ตัวฉันได้อย่างไร
เพราะว่ามันร้อนมากจริง ๆ ฉันเลยลุกขึ้นมาโดยสัญชาตญาณของคน แต่คิดไม่ถึงว่าฉันจะไปชนกับนัชชาที่กำลังยื่นตัวมาเข้าใกล้ฉันได้ เธอเจ็บแล้วร้องจ๊าก
ฉันไม่ทันได้ขอโทษ ก็รีบไปหยิบทิชชู่มาเช็กโจ๊กที่กระเด็นมาใส่บนขาของฉัน ตอนที่ฉันจะออกมาจากบ้าน อาธิปก็เร่งฉันให้รีบ ๆ ฉันเลยหยิบกระโปรงบาง ๆ มาใส่แบบง่าย ๆ ผิวฉันโดนโจ๊กลวกจนแดงไปเป็นแผ่นใหญ่
สงสัยเมื่อกี้ตอนที่ฉันลุกขึ้น ลุกขึ้นมาแบบกะทันหัน แล้วไปชนจมูกของนัชชา ก็เลย……
เฉียวจิ่นเหยนไปหาทิชชู่มา แล้วยื่นให้อาธิป และจ้องห้าฉันบอกว่า “คุณดารัณไม่ได้พบตามาด้วยเหรอครับ”
ฉันตะลึงใจ ทันใดนั้น ไม่รู้ว่าจะพูดอะไรดีเลย
ฉันมองดูดวงตาแดง ๆ เพราะร้องไห้ และจมูกที่เช็ดเลือดไปเกือบเรียบร้อยของนัชชานั้น ฉันพยายามห้ามความเสียใจของตัวเองไว้ และบอกว่า “คุณนัชชา ฉันขอโทษนะคะ”
โจ๊กฟักทองที่หกมาเมื่อกี้ ฉันไม่ได้เตะมันเลย นอกนอกนัชชาที่นั่งข้าง ๆ ฉันแล้ว คงไม่มีใครจะไปทำโจ๊กหก ซึ่งเป็นอะไรที่ร้ายสาระแบบนี้
“ไม่เป็นไรค่ะพี่ดารัณ คราวหน้าพี่ระวังหน่อยแล้วกันนะคะพี่” นัชชาพูดจบก็มองหน้าอาธิปด้วยดวงตาแดง ๆ และบอกว่า “พี่อาธิปคะ โจ๊กหกแล้ว ฉันก็ไม่อยากกินแล้ว พี่อาธิปพาหนูไปเดินเที่ยวหน่อยนะคะ”