อาธิปขมวดคิ้วตา มองดูอาหารที่สั่งมาที่ยังไม่ทันได้กิน แล้วบอกว่า “กินข้าวเสร็จแล้วค่อยไป”
อย่างที่คิดไว้ ในการต่อสู้โดยเงียบ ๆ ครั้งนี้ ไม่มีใครสังเกตว่าฉันโดนโจ๊กร้อนลวกแล้ว ยิ่งไม่มีใครสังเกตุว่ามีคนทำโจ๊กหกมาใส่ที่ตัวฉัน
ฉันยืนอยู่ข้าง ๆ รู้สึกว่าตัวเองเป็นตัวตลกที่น่าสมเพช
“ฉันไปก่อนนะคะ” พูดแค่สั้น ๆ แล้วฉันก็หันตัวเดินออกจากร้านอาหารไป หัวใจเจ็บเหมือนโดยมีดแทง ดึงมีดออกไม่ได้ เจ็บจนหายใจไม่ออก
พระเจ้าก็ไม่ได้ยุติธรรมเสมอ ตอนที่ท่านมอบของขวัญ ท่านให้หญิงสาวบางคนเป็นขนมลูกอมหวาน ๆ ความสุข และความสมปรารถนา แต่สิ่งที่แต่หญิงสาวบางคนก็มีแค่ความทุกข์ทรมาน
“ดารัณ” ข้างหลังนั้นมีเสียงตะโกนด้วยอารมณ์โกรธส่งมา ฉันหันหน้าไปเห็นอาธิปตามฉันออกมา
เขามองหน้าฉัน ขมวดคิ้วตา และพยายามเก็บอารมณ์โกรธไว้ บอกว่า “เธอจะทำอะไร”
ทำอะไรเหรอ เขากำลังว่าฉันใช่ไหม ว่าฉันไปชนนัชชาเหรอ
“ฉันกินไม่ลง อยากกลับบ้านแล้วค่ะ” ฉันกำลังเสียใจอยู่ ไม่อยากพูดอะไรมาก กลัวว่าจะทนไม่ไหวแล้วจะระบายความน้อยใจออกมา
เขาเดินเข้าใกล้ฉัน ทำหน้าบึ้ง บอกว่า “ดารัณ นี่อ่ะเหรอ มารยาทที่มีในตัวเธอ”
เขาจับข้อมือฉันไว้ และเหลือบตามองเขา เห็นแต่สีหน้าเย็นชาของเขา เราสองคนสบสายตากัน แล้วฉันก็หัวเราะขึ้นมาแบบกะทันหัน ฉันบอกว่า “มารยาทเหรอ อาธิปคะ มารยาทที่คุณว่านั้นคือแบบไหนคะ แบบที่ผู้ชายแต่งงานแล้วยังไปดูแลผู้หญิงข้างนอกแบบทะนุถนอม ไม่เคยแคร์ความรู้สึกของภรรยาตัวเอง แบบคุณหรือเปล่าคะ”
ฉันไม่สนใจใบหน้าที่บึ้ง ๆ ของเขา และก็หัวเราะอีกว่า “นัชชามีมารยาทมากใช่ไหมคะ มาเป็นชู้แบบต่อหน้าต่อตาคนอื่น แย่งสามีคนอื่นแบบหน้าด้าน ๆ อาธิปคะ คุณไปรับการศึกษาอะไรมา คุณถึงมีความเช้าใจต่อคำว่ามารยาทที่แต่งกันขนาดนี้อ่ะคะ”
“ดารัณ!!!” เขาจับข้อมือฉันแน่นขึ้น เสนเลือดหน้าผากโนนโป่งขึ้นมา กัดฟันพูดออกมาทีละคำว่า “เธอควรจะดีใจนะ ที่ฉันไม่ตบผู้หญิง”
ฉันหัวเราะ พยายามอดทนกับความเจ็บจากข้อมือที่ถูกเขาจับไว้อย่างรุนแรงนั้นไว้ และมองหน้าเขา บอกว่า “คุณอาธิปเป็นคนดีจริง ๆ เลยค่ะ ว่าแต่ขอปล่อยข้อมือฉันก่อนได้ไหมคะ คุณจับข้อมือผู้หญิงรุนแรงขนาดนี้ มีผลเท่ากันกับตบผู้หญิงแหละค่ะ”
อาธิปโกรธจนเส้นเลือดหน้าผากนูนโปร่งขึ้นมาและกระตุก แต่ดีที่เขาปล่อยมือฉันแล้ว เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงโกรธและเย็นชาว่า “เธอไม่มีสิทธิ์ว่านัชชา เธอยังไม่ถึงขั้นนี้”
และเขาก็หันตัวเดินไป
ฉันยังไม่ถึงขั้นนั้นเหรอ ความน้อยใจและความโกรธเสียคอนโทรลเพราะคำพูดของเขา ฉันเดินตามไปและดึงเขาไว้ และมองหน้าเขาด้วยแบบยิ้มปลอม ๆ บอกเขาว่า “ก็ใช่สิ ฉันไม่มีสิทธิ์ ถ้าเทียบกับความดัดจริตของนัชชาแล้ว ฉันยังไม่ถึงขั้นนั้นจริง ๆ ฉันยังไม่ถึงขั้นฝีมือการเล่นงานลับหลังคนอื่นของพวกคุณ ขยะแขยงตัวเองไม่พอ ยังจะมาขยะแขยงคนอื่นอีก”
พูดจบ ฉันก็ไม่ได้สนใจความโกรธของเขา แล้วก็กลับเข้าไปในร้าน นัชชากับเฉียวจิ่นเหยนยังนั่งอยู่ที่เดิม
เห็นฉันกลับเข้ามาใหม่ นัชชายังทำหน้ายิ้มแบบปลอม ๆ ทำตัวดีอีกว่า “พี่ดารัณคะ…..”
ฉันเหลือตามองเขาแบบเย็นชา ฉันเอาอาหารและโจ๊กที่ยังมีเหลืออยู่บนโต๊ะ เทใส่หัวเธอแบบไม่สนใจใคร
เธอยังไม่ทันได้ตั้งตัว ฉันก็พูดอีกว่า “คุณนัชชา ฉันไม่รู้ว่าเธอถูกสั่งสอนมายังไง ถึงได้ชอบมาแย่งของของคนอื่น ชอบทำตัวน่าสงสาร และชอบเล่นงานคนอื่นแบบนี้ ฉันขอบอกไว้เลยนะคะ ทำบาปอะไรไว้ กรรมตามเธอทันแน่”
“ในเมื่อเธอชอบผู้ชายมือสองนัก งั้นฉันก็ทำให้เธอได้สมหวังเลยแล้วกัน พูดตามจริง ฉันรักอาธิปก็จริง แต่สำหรับผู้ชายที่ไปมีชู้ข้างนอกแบบเขาเนี่ยนะ ตอนนี้ ฉันรู้สึกหมั่นไส้ที่สุด ช่วงนี้ก็รบกวนเธอดูแลเขาให้ดีด้วยนะ เผื่อกินไม่อิ่มแล้วจะออกไปหากินข้างนอกอีก น่าขยะแขยงจริง ๆ เลย”��