ขอสายลมพารักคืนใจเธอ – บทที่ 44 คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย

ขอสายลมพารักคืนใจเธอ

  “ดารัณ!!!” มีเสียงตะโกนชื่อฉันแบบหัวร้อนมาก

ฉันไม่ได้หันหน้าไปมองเขาเลย จะโมโหก็โมโหขอวเขาไป ถ้าให้เทียบความเจ็บที่พวกเขาทำฉันมาแบบเงียบ ๆ แล้ว ยังไงฉันก็ยังถือว่าเป็นคนโปร่งใส

พูดจบ ฉันก็หนังหลังเดินออกไปจากร้าน และสวนทางกับอาธิปตรงประตูทางเข้า และเขาก็ล็อคข้อมือฉันอีกครั้ง ครั้งนี้ ฉันไม่กลัวเลย กำลังโมโหอยู่เช่นกัน ก็เลยกัดมือเขา

ทีแรกคิดว่าเขาเจ็บแล้วจะปล่อยฉัน แต่คิดไม่ถึงแล้วเขาอุ้มฉันขั้นมาเลย แล้วก็โยนฉันเข้าไปในรถ ตามด้วยสตาร์จรถ ขับรถออกไป

เขาขับรถแบบเร็วมากอย่างกับมีคนตามไล่จะฆ่าให้ตายอยู่ข้างหลัง รถโครงเครงจนฉันเคลื่อนไส้

แต่ดีที่ขับไปไม่นาน เราก็ถึงบ้านกันแล้ว แต่ฉันยังไม่ทันได้ตั้งสติ ตัวฉันก็ถูกดึงลงจากรถ และหิ้วเข้าไปในบ้าน

อาธิปเขาโกรธมาก เดินเร็วเหมือนได้ล้อได้วงล้อไฟของนาจามา ปุ๊บปั๊บก็ขึ้นมาถึงห้องแล้ว

“โป้ง!!!” เขาปิดประตูแบบแรงมาก เหมือนสั่นสะเทือยนไปทั้งบ้าน

“อาธิป ปล่อยฉัน คุณไม่แมนเลย” ฉันเริ่มหวั่นไหว และพูดก็ไม่เกรงใจ นึกได้อะไรก็พูดไปหมด

เขาก็หัวเราะ บีบคอฉันให้ฉันเงียบ เขาก็มองหน้าฉันทั้งโกรธทั้งเย็นชา และบอกว่า “ฉันไม่แมนเหรอ ฉันไม่รู้นักพอ ไปมีชู้ข้างนอกเหรอ ฉันทำให้เธอขยะแขยงใช่ไหม”

เขาเพิ่มแรงขึ้น สายตาดุเดือน และพูดต่อด้วยเสียงเย็นชาว่า “ดารัณ ไม่คิดว่าเธอจะทำได้ขนาดนี้เลยนะ”

เขาบีบคอฉันจนฉันหายใจไม่ออก ฉันก็พยายามถีบเขา ถีบแบบแรง ๆ ถึงฉันจะพูดไม่ได้ตอนนี้ แต่ฉันก็ไม่อยากยอมแพ้ ถึงจะต้องสู้จนตาย แต่ฉันก็ไม่อยากให้ใครมาเหยียบย่ำฉันอีก

เราสองคนสบสายตากัน และก็ต่อยตีกัน

สักพักใหญ่ ฉันเริ่มขาดหายใจ และสมองขาดออกซิเจน ทันใดนั้น ฉันรู้สึกกำลังจะหน้ามืด และมีอยู่ เสี้ยววินาทีนึง ฉันคิดว่าเขามาฆ่าฉันตาย

สักพัก เขาถึงปล่อยตัวฉัน ฉันเพิ่มกำลังจะหาใจให้เต็มที่ เขาก็ก้มตัวมาปิดปากฉันอีก

ณ เวลานี้ ฉันทำอะไรไม่ได้แล้ว ฉันก็โมโหจนแน่นหน้าอก ฉันบอกว่า “คุณมีแค่นี้อ่อ ผู้ชายอะไรรังแกผู้หญิง”

เขาหัวเราะ ดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความโกรธโมโห

ฉันเริ่มหวั่นไหว มองสายตาที่โหดร้ายและดุเดือนของเขา และฉันพูดจนเสียงสั่นว่า “อาธิปคะ คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้นะคะ”

อาธิปวางมือลงไว้สองข้างตัวฉัน ฝีปากของเขาก็จูบมาที่ปากฉัน

ฉันเจ็บจนต้องขมวดคิ้วตา ฉันกลัวไปหมด แล้วก็พูดแบบไม่เกรงใจว่า “อาธิป คุณจะต้องมีวันรู้สึกผิดแน่ ๆ”

เขาขยับตัวเล็กน้อย และพูดด้วยเสียงต่ำ ๆ แหบ ๆ ว่า “เธอทำตัวดี ๆ ฉันเอาเบา ๆ”

ไอเลว

ทันใดนั้น ฉันระบายความรู้สึกที่เก็บสะสมมาโดยตลอดออกมาเลยทีเดียว ฉันร้องไห้ใหญ่เลย

น้ำตาไหลลงราวกับฝนตกหนัก จากเดินร้องไห้เบา ๆ จนสุดท้ายร้องไห้เสียงดังลั่นเลย ไม่สนใจแล้วว่าอาธิปจะคิดยังไง

สุดท้ายเขาก็ต้องยอมหยุดทำ และมาปลอบใจฉันด้วยเสียงแหบ ๆ เขาก็พูด ฉันก็ยิ่งร้องไห้หนัก

แล้วเขาก็ทำอะไรไม่ถูก เลยกอดฉันไว้ และปลอบใจฉัน ไม่ว่าเขาจะปลอบด้วยความอ่อนโยนหรือจะขู่ด้วยเสียงดัง ก็ช่วยไม่ได้

ฉันก็ยังร้องไห้ไม่ยอมหยุด เขาทำอะไรไม่ได้ ก็กอดฉันไว้ในวงแขน ปล่อยให้ฉันร้องไป

สักพักใหญ่ ฉันร้องไห้นานเกินนานคอแหบ และน้ำตาก็แห้งไปหมด ฉันเลยเงียบลง

“ร้องพอแล้วเหรอ” เขาพูดขึ้นมา เสียงแหบ ๆ

ฉันไม่ตอบเขา เจ๊บตาจนลืมตาไม่ค่อยได้ เลยปิดตาไว้ไม่อยากคุยด้วยกับเขา

“สี่ปีที่แล้ว ฉันส่งอาก๋งไปหาเพื่อนที่ชายแดนตรงภาคตะวันตกเฉียงใต้ แล้วเราไปเจอพวกนักเลงกลุ่มหนึ่ง”เขากอดฉันไว้ ในเสียงเขามีความเศร้าโศกที่ฉันไม่เคยเห็น

ไม่รู้ว่าเขากำลังจะพูดอะไร ฉันเลยเงียบไว้ ปล่อยให้เขากอดไป และก็ฟังเขาเล่าต่อว่า “คนแถวชายแดนยากจนมาก ทรัพยากรไม่ค่อยมีอะไรเลย ตอนนั้นก็มีสงครามระหว่างประเทศชายแดนอยู่พอดี นักเลงพวกนั้นเข้ามาเพื่อหาที่หลบตัว เลยชิงเข้ามาบ้านเพื่อนของอาก๋ง แล้วพวกเขาก็ขู่เราให้เราพาพวกเขาข้ามมาฝั่งเรา ตอนนั้นสถานการณ์ฉุกเฉินมาก ประเทศเราห้ามไม่ให้คนไม่มีบัตรเข้าเมืองเด็ดขาด และอาก๋งก็เคยเป็นทหารมา เขาสู้รบเพื่อปกป้องประเทศชาติมาหลายสิบปี ไม่มีทางที่จะทำอะไรผิดกฎหมายแน่ ดังนั้น อาก๋งก็เลยปฏิเสธเขา ณ ตอนนั้นเลย พวกเขาเป็นนักเลงทั้งนั้น พอเห็นอาก๋งปฏิเสธ พวกเขาก็จะฆ่าพวกเราตาย และเพื่อนของอาก๋งก็ตายเพราะปกป้องฉันกับอาก๋ง

ขอสายลมพารักคืนใจเธอ

ขอสายลมพารักคืนใจเธอ

Status: Ongoing
ดารัณอวดโอ้ว่าตัวเองถือไพ่ดี แต่ไม่รู้ทำไมสุดท้ายไพ่ใบนี้ถึงทำให้เธอแพ้พ่าย ทำแท้ง เสียโฉม หน้าที่การงานพังทลาย ชื่อเสียงอื้อฉาว เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองกลายเป็นแบบนี้ คงเป็นเพราะอาธิปโผล่มา! ถึงอย่างไรความรักก็ทำลายชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งได้จริงๆ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท