เฟิงจิงเหยามองไปที่กู้ฉางชิงอย่างไม่พอใจ ห้องนอนของพวกเขา ใครจะมานอนก็ได้งั้นหรอ?
พอเห็นเขาสีหน้าไม่พอใจ กู้ฉางชิงพาดมือไปที่เขา “เธอเป็นแบบนั้นแล้ว จะทำยังไงหละ?”
และผู้หญิงด้วยกัน ก็มีเซ้นว่าที่เธอเมานะ การแสดงทั้งนั้น
กู้ฉางชิงพูดด้วยเหตุผล
พอเห็นลู่ซือยวี่ที่นอนอยู่บนเตียง เฟิงจิงเหยาเลิกคิ้วขึ้น และเลิกถือสาคนแบบนี้
เธอหันหลังไป พูดกับคนใช้ว่า “ล้างหน้าล้างตาให้เธอ พรุ่งนี้ก็เปลี่ยนผ้าปูทิ้งเลย” แล้วก็พูดต่อแบบรังเกียจว่า “ทิ้งเตียงไปด้วยเลย!”
เห็นท่าทางของเธอ คนใช้ก็ไม่กล้าส่งเสียงอะไรเลย
กู้ฉางชิงโบกมือ “กลับห้องละนะ”
คุณชายคนนี้เอาแต่ใจจริงๆ จะทิ้งเตียงอะไร ทำเกินไปจริงๆ
ที่จริงกู้ฉางชิงยังอยากจะพูดอยู่หรอก แต่เห็นหน้าบูดๆของเฟิงจิงเหยา เธอเลยไม่พูด
ทุกคนค่อยๆทยอยกลับห้องนอน
ในห้องหลัก ลู่ซือยวี่ที่นอนหลับสนิท ลุกขึ้นมานั่งบนเตียง
ขาสองข้างวงอยู่ตรงพื้น มือบีบผ้าปูแน่น
สายตาที่ดูมืดมน ไม่ได้ดูเมาเลยซักนิด
ห้องห้องนี้ เธออยากจะมาอยู่ตั้งนานแล้ว
แต่ไม่ใช่เข้ามาอยู่แบบนี้
ที่จริงเธอวางแผนไว้ตั้งแต่แรกแล้ว ใช้โอกาสของงานเลี้ยงเพื่อสลัดอีกู้ฉางชิงออก
ถึงเวลานั้น ก็จะได้นอนกับเฟิงจิงเหยา
แล้วก็มีอะไรกัน เธอไปหาน้าหมิงเพื่อที่จะให้น้าหมิงจัดการทุกอย่าง
แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรเป็นไปตามแผนเลย
พี่จิงเหยาทำเพื่อนังนั่น ถึงไปนอนที่ห้องรับแขก
เขายังจะทิ้งเตียงอีก ทิ้งเตียง!
นี่เขาจะรังเกียจที่ฉันสกปรกหรอ? ฉันยังเทียบอีกะหรี่นั่นไม่ติดอีกงั้นหรอ?
ในอกในใจเธอลุกเป็นไฟ เผาไหม้ไปถึงสมอง
อะไรกัน อะไรกัน?
ฉันไม่ยอม ไม่ยอม
“กู้ฉางชิง กู้ฉางชิง!”
ชื่อนี้เหมือนโดนมนต์สาป ลู่ซือยวี่เหมือนกับเป็นบ้าแล้วพุ่งตรงไปที่โต๊ะ ใช้แขนปัดแจกันที่อยู่บนโต๊ะลงไปที่พื้น
เพร่งงง แจกันแตกละเอียดเต็มพื้น
เธออยากจะเอาของมาเพื่อระบายอารมณ์อีก เพราะนี่มันไม่พอด้วยซ้ำไป
ใครจะรู้ว่าเธอน่ะรีบเกินไป ไฟก็มืด เธอลื่นล้มลงไป มือสองข้างไปโดนแจกันที่แตกพอดี
เธอเจ็บที่ตรงกลางฝ่ามือมาก จนเธอร้องเสียงดังออกมา
กู้ฉางชิงกับเฟิงจิงเหยาจริงๆแล้วนอนอยู่ห้องข้างๆ พอได้ยินเสียงจากห้องหลัก ก็สะดุ้งขึ้นมา
เฟิงจิงเหยาทำหน้าเซ็ง แล้วเดินกลับไปที่ห้อง
กู้ฉางชิงก็ตามไป
พอสองคนไปถึงที่ห้อง ประตูห้องนอนถูกคนใช้เปิดออกแล้ว
ทุกคนยืนห่างๆ ลูซือยวี่นั่งอยู่ตรงกลาง มองมือตัวเองจนตาค้าง
มือเธอขาว ตัดกับเลือดสีแดงอย่างชัดเจน
พอเห็นแบบนี้ เฟิงจิงเหยาพุ่งเข้าไป ดึงแขนเธอขึ้นมา “เธอเป็นยังไงบ้าง?”
เขาแรงใช้เยอะมาก ในการกดเส้นเลือดไว้ เพราะอยากจะหยุดเลือด
คนใช้ข้างๆตกใจจนอึ้ง เฟิงจิงเหยาตะคอก “ยังจะอึ้งอยู่กันทำไม? ไปเอากล่องพยาบาลมาสิ!”
“ค่ะค่ะ”คนใช้รีบไปเอากล่องยามา
ตอนที่พวกเขาเห็นลู่ซือยวี่เป็นแผล เขาก็เอากล่องยามากันแล้ว
ใครจะรู้ว่าลู่ซือยวี่ไม่ให้พวกเขาแตะ
พวกเขาถอยห่างจากเธอ เลยไม่เห็นเธอว่าจะเจ็บหนักขนาดนี้ และเมื่อเห็นเฟิงจิงเหยาเป็นแบบนี้อีก ก็รู้สึกกลัวๆกันอยู่
“ทำไมไม่ระวังขนาดนี้?” เฟิงจิงเหยากดเลือดของเธอไว้ แล้วถามเธอไปด้วย “รู้สึกยังไงบ้าง?”
ลู่ซือยวี่มองเฟิงจิงเหยาซักพัก แล้วก็ทำเสียงตกใจขึ้นมา “เจ็บมาก!พี่จิงเหยา ฉันจะไม่ตายใช่มั้ยคะ?”
เธอร้องไห้แบบเสียใจมาก ทำตัวน่าสงสารสุดๆ
เฟิงจิงเหยาขมวดคิ้ว ดึงเธอขึ้นมา “ไป พี่ส่งเธอไปโรงพยาบาล”
“ฉันไปด้วย!” กู้ฉางชิงเอาเสื้อกันหนาวมาคลุม แล้วก็รีบตามไป
เพราะยังไงก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในบ้าน
พวกเขาสองคนพึ่งส่งลู่ซือยวี่ไปที่โรงพยาบาล ยังไม่ทันได้หายใจ
ก็เห็นคุณนายเฟิงมาอย่างรีบร้อน “ซือยวี่หละ? เธอเป็นยังไงบ้างแล้ว? ทำไมอยู่ดีๆถึงได้บาดเจ็บหละหะ?”
“วันนี้ไปงานเลี้ยง เธอดื่มเยอะไป ไม่ระวังก็เลยบาดเจ็บ”
เฟิงจิงเหยาพูดไปแบบง่ายๆ
“ไม่ระวังก็เลยบาดเจ็บ?”
คุณนายเฟิงไม่ได้ไปใส่อารมณ์กับลูกชาย เมื่อเห็นกู้ฉางชิงยืนอยู่ข้างๆ เลยถาม “ซือยวี่พูดยังไงก็เป็นน้องสาวของเฟิงเหยานะ เธอเป็นพี่สะใภ้ ไม่ดูแลหน่อยหรอ?”
กู้ฉางชิงขมวดคิ้ว นี่เกี่ยวอะไรกับเธอ
ไม่ต้องถึงขั้นมาโยนความผิดให้กันก็ได้นะ
เธอพูดแบบเฉยๆ “คุณหนูลู่ไล่ฉันออกมาจากห้องนอน ไม่ได้อยากให้หนูไปดูแลค่ะ”
“เธอยังจะเถียงอีกหรอ?” คุณนายเฟิงโกรธ ยังอยากจะด่าต่ออีก
แต่ก็ถูกเฟิงจิงเหยาพูดดักไป “แม่! แม่เข้าไปดูซือยวี่ก่อนเถอะครับ”
พอฟังลูกชายพูดก็พึ่งได้สติขึ้นมา แล้วก็เดินเข้าไป
เฟิงจิงเหยากับกู้ฉางชิงตามหลังเธอไป พอเดินเข้าไป ก็เห็นลู่ซือยวี่นอนอยู่ที่เตียง พึ่งกินยาที่หมอให้ แผลที่มือก็พันไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว
ข้างๆยังมีหมอที่กำลังเก็บอุปกรณ์อยู่
“เป็นไงบ้าง? ไม่มีอะไรมากใช่มั้ย?” พอเข้าไปในประตู เฟิงจิงเหยาก็ถาม
ลู่ซือยวี่อายนิดๆ “ไม่มีอะไรแล้วค่ะ ขอบคุณพี่จิงเหยานะคะ”
“งั้นก็ดีแล้ว” จิงเหยาตอบ แล้วก็มีเสียงข้างๆพูดขึ้น
เธอไปข้างหน้าแล้วก็กอดลู่ซือยวี่ “ซือยวี่นะ ซือยวี่ ยังเจ็บมั้ยลูก มีตรงไหนที่ัยงเจ็บอยู่มั้ย?”
เฟิงจิงเหยามองไปที่แม่ตัวเอง แล้วก็ถามหมอ “หมอครับ ออกจากโรงพยาบาลได้เมื่อไหร่?”
“ไม่ได้เป็นอะไรมากครับ ไม่ต้องนอนที่นี่” หมอมองไปที่เธอด้วยหน้าจืดๆ
เฟิงจิงเหยาพูดขอบคุณ ใครจะรู้ว่าลู่ซือยวี่เอามือมากุมไว้ ” เจ็บ เจ็บ!”
“เจ็บตรงไหนอีก ? โอ้ย อย่าพึ่งรีบออกสิ ตรวจดูดีๆก่อน” คุณนายเฟิงดูเป็นห่วง
เฟิงจิงเหยากลัวแม่ตกใจจนเป็นอะไรเลยยืนอยู่ข้างหลัง
กู้ฉางชิงยืนมองเหตุการณ์อย่างเซ็งๆ ตอนนีคนตระกูลนี้ล้อมรอบเธอ
อย่างกับเธอนั่นแหละเป็นคนบ้านเดียวกัน แต่กู้ฉางชิงเป็นเหมือนคนนอนซะอย่างงั้น
ความรู้สึกแบบนี้ ทำให้เธอรู้สึกแย่นิดหน่อย
ลู่ซือยวี่มองในตา ในใจยิ่งได้ใจเข้าไปอีก “กู้ฉางชิน เธอยังอยากจะแข่งกับฉันอีกหรอ?”