สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา – บทที่ 27 จุดอ่อนของเขา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

กู้หงเซินคิดจะทำการใหญ่แบบนี้ แผนที่วางไว้คงไม่ใช่เล็กๆแล้ว

กู้ฉางชิงย่นคิ้วถาม “คุณต้องการหุ้นส่วนเท่าไหร่?”

พอเขาถาม กู้หงเซินก็วางตะเกียบลง “สามสิบเปอร์เซ็นต์”

“สามสิบเปอร์เซ็นต์?”

กู้ฉางชิงพูดซ้ำประโยคอย่างไม่อยากจะเชื่อ ส่วนแบ่งเยอะขนาดนี้ เฟิงจิงเหยาจะเห็นด้วยได้อย่างไร

ไม่พูดถึงเฟิงจิงเหยา พูดถึงตัวเขาเองลำบากลำบนสร้างงานขึ้นมา

จู่ๆก็มีคนนอกเข้ามา บอกว่าต้องการเค้กชิ้นใหญ่ เขานั้นคงไม่ให้อย่างแน่นอน

กู้หงเซิน เขาคิดมาได้ยังไง

กู้หงเซินไม่ได้ใสใจคำพูดของเขา กลับถามต่อ “ได้ยินมาว่าเธอออกแบบเป็น? เฟิงจิงเหยายังให้เธอเข้าทำงานที่บริษัทอีก รับตำแหน่งเป็นดีไซเนอร์?”

ในสายตานั้นมีความไม่สบายใจอยู่ อาจจะเป็นเพราะว่ากู้ฉางชิงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับเขา

“แล้วยังไงต่อล่ะ?”

กู้ฉางชิงถามเสียงเบา เขาไม่ได้รู้สึกว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับกู้หงเซินตรงไหน

เรื่องนี้เปิดเผยต่อสาธารณะอย่างมากก็กลายเป็นเรื่องของเมื่อวาน

แต่ว่านะเรื่องความลับส่วนตัวแบบนี้ กู้หงเซินกลับรู้

นี่มันไม่ง่ายเลย หรือว่าเขายังส่งคนไปสอดแนมที่ตระกูลเฟิงอยู่?

ดูแล้วเขาก็คงไม่ไว้ใจตนเองเท่าไหร่นี่

คิดถึงตรงนี้ กู้ฉางชิงย่นคิ้วอย่างอดไม่ได้

ความรู้สึกที่โดนเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดนี่รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย โดยเฉพาะตอนที่เธอไม่รู้ว่าคนๆนั้นอยู่ที่ไหน

กู้หงเซินไม่ได้สนใจท่าทีแปลกไปของเขาเลยแม้แต่นิด พูดต่อว่า “ในเมื่อเธอออกแบบเป็น งั้นก็สามารถใช้พรสวรรค์ของเธอไปช่วงชิงมา ฉันเชื่อว่าเฟิงจิงเหยาต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน ยิ่งไปกว่านั้นนี่ก็แค่เป็นการแบ่งหุ้นส่วนก็เท่านั้นเอง”

เขาพูดอย่างสบายๆ กู้ฉางชิงเหลือบตาขึ้นมอง ก็เห็นว่าเขาไม่ได้สะทกสะท้านอะไร

แต่ว่าสายตาที่ลึกซึ้งคู่นั้นกลับปิดความบ้าคลั่งไม่มิด

เฟิงจิงเหยาเป็นอัจฉริยะของตระกูลเฟิง ธุรกิจยักษ์ใหญ่ชื่อเสียงโด่งดังในเมืองหลวง

ในเมื่อเขาต้องการสร้างบริษัท นั่นคงเป็นการลงทุนโดยไม่เสียกำไรอย่างแน่นอน

ยิ่งไปกว่านั้นงานออกแบบมีความชัดเจน ต้นทุนต่ำ รายได้สูง

ได้พึ่งพิงเฟิงซื่อกรุ๊ปอีก ไม่ว่าจะคิดยังไงก็เป็นธุรกิจซื้อขายที่คุ้มเกินคุ้ม

ในใจกู้ฉางชิงยิ้มเยาะ อายุเยอะขนาดนี้แล้วความคิดยังแปลกใหม่ได้ขนาดนี้อีก?

เขาคิดว่าแบบนี้จะสามารถหลอกคนโดยวิธีต้มตุ๋นและไม่ลงทุนใดๆได้?

เห็นว่ากู้หงเซินไม่มีอะไรจะพูดแล้ว เธอก็ไม่อยากจะเสแสร้งแกล้งทำอยู่ที่นี่ต่อกับเขา ก็เลยหยิบกระเป๋าเตรียมตัวจะออกจากที่นี่

พอมือวางบนที่จับประตูเท่านั้นล่ะ กู้หงเซินก็เรียกไว้ กู้ฉางชิงหันกลับมามองไปยังเขา “คุณยังมีเรื่องอะไรอีก?”

“ไม่มีอะไร ในเมื่อมาแล้ว อย่างน้อยก็ทานข้าวมื้อนี้ก่อน ค่อยกลับสิ”

“ตอนที่ฉางซินอยู่ เขาอยู่ทานข้าวเป็นเพื่อนฉันบ่อยๆ”

กู้หงเซินพูดแล้วมองไปทางกู้ฉางชิง ดวงตาแคบยาวคู่นั้นไม่มีความรู้สึกใดๆ

กู้ฉางชิงหัวเราะเยาะ “ฉันไม่ใช่กู้ฉางซิน ไม่มีความจำเป็นจะต้องอยู่ที่นี่เพื่อเล่นละครความสัมพันธ์พ่อลูกอะไรนี่กับคุณ อีกอย่างที่นี่ไม่มีคนนอก คุณก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีใครเห็นอะไรเข้า”

ทานข้าวกับกู้หงเซิน เธอก็ยังแอบกลัวว่าเขาจะวางยาพิษตนเอง

กู้ฉางชิงพูดจบก็ดึงประตูออกจากห้องที่นั่งพิเศษ ถ้าอยู่ที่นี่นานกว่านี้เขาคงอึดอัดหายใจไม่ออกกันพอดี

กู้หงเซิน กู้หงเซินใช้ประโยชน์จากเขา ให้ช่วยกู้ฉางซินรักษาตำแหน่งของเขาในตระกูลเฟิงนั้นไม่ว่า กลับยังต้องการให้เขาช่วยเรียกร้องเงินหุ้นส่วนจากบริษัทของเฟิงจิงเหยา

เรื่องนี้จะให้เขาพูดได้อย่างไร อย่างนี้คนอื่นจะมองว่าเขาเป็นคนยังไง?

มาหวังอะไรจากพ่อที่เลือดเย็นแบบนี้ไม่ได้จริงๆสินะ

ก็แค่เสียดาย ตอนนี้เพื่อแม่แล้ว จำเป็นต้องอดกลั้นกับความอยากได้ของเขา

หายใจไม่ทั่วท้อง ช่วงอกเหมือนกับว่ามีพืชเติบโตขึ้นมา ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ในใจกู้ฉางชิงร้อนรุ่มเหลือจะทน

ใบหน้าของแม่นั้นปรากฏขึ้นมาในใจฉันอย่างไม่ขาดสาย

ไม่มีเวลาไหนที่ไม่เตือนให้เขาอดทน และอดทนอีก

บนถนนใหญ่เต็มไปด้วยรถยนต์แล่นไปแล่นมาไม่หยุดหย่อน กู้ฉางชิงยกมือขึ้นลูบตรงหน้าผาก พูดกับคนขับรถว่า “ส่งฉันที่โรงพยาบาล”

อีกฝ่ายขานรับแล้วก็เห็นด้วย แต่ภายในใจนั้นรู้สึกประหลาดใจ คุณนายรองยังดีๆอยู่เลย จะไปโรงพยาบาลทำไมกัน?

กู้ฉางชิงไม่ได้เจอแม่มานานมากแล้ว

โรงพยาบาลที่กู้หงเซินจัดการให้แม่ ยังนับว่าเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ระดับสูงที่อยู่ภายในตัวเมือง หาเจอง่ายมาก

ลงรถแล้ว กู้ฉางชิงก็เดินเข้าไปเลย

ถึงแม้ว่าทำแบบนี้จะถูกคนเห็นได้ง่าย แต่ในใจกู้ฉางชิงมักจะรู้สึกเป็นห่วง

กู้ฉางชิงคุ้นทางเป็นอย่างดี เข้าไปในห้องผู้ป่วย แต่ผลักประตูออก ก็ต้องเดินเข้าไปข้างในอีก

“คุณมาหาใคร?”ญาติของผู้ป่วยฝ่ายตรงข้ามเดินออกมาจากข้างใน มองกู้ฉางชิงด้วยสีหน้าประหลาดใจ

กู้ฉางชิงถอยหลังไปไม่กี่ก้าว มองดูป้ายหน้าห้องผู้ป่วย หางคิ้วบีบเข้าด้วยกันอย่างอดไม่ได้

คุณแม่ก็พักอยู่ที่ห้องนี้นี่นา มองเห็นว่าฝ่ายตรงข้ามกำลังรอเขาอธิบาย

กู้ฉางชิงพูดอย่างรู้สึกผิด “ขอโทษค่ะ ฉันมาผิดห้อง คือฉันมาหาผู้ป่วยห้องนี้ก่อนหน้านี้ค่ะ เขาเป็นญาติฉัน”

“พวกเราไม่รู้จักผู้ป่วยก่อนหน้านี้หรอก”

คนนั้นพูด “แต่ได้ยินมาว่าห้องผู้ป่วยวีไอพีของตึกนี้เป็นผู้ป่วยของคุณหมอหลี่หมดเลย หรือไม่คุณก็ลองไปถามดู”

“ขอบคุณค่ะ” หลังจากออกมากู้ฉางชิงก็ไปหาคุณหมอหลี่คนนั้น

คนๆนี้ไม่ใช่คนแปลกหน้า เมื่อก่อนกู้หงเซินเคยพูดไว้ว่าคุณหมอที่หาให้แม่ก็คือคุณหมอหลี่

กู้ฉางชิงใจร้อน รีบถามห้องทำงานของคุณหมอหลี่จากพยาบาลที่นั่น

“เวลานี้ คุณหมอหลี่ยังไม่ออกมาจากห้องผ่าตัดนะ”

พยาบาลคนหนึ่งขวางกู้ฉางชิงเอาไว้ “ถ้าต้องการเจอเขา ให้นัดมาพรุ่งนี้เถอะ”

“ฉันมีธุระกับคุณหมอหลี่จริงๆ”

กู้ฉางชิงดันพยาบาลคนนั้นออก เขาไม่เจอตัวแม่ ยังจะให้เขารออีก “ฉันเป็นลูกสาวของกู้หงเซิน คุณหมอหลี่ต้องรู้จักฉันแน่”

เสียงเอะอะโวยวายที่โถงทางเดินดังมาก กู้ฉางชิงก็ใจร้อนดั่งไฟ

“ให้เขาเข้ามาเถอะ” เสียงผู้ชายดูมีความรู้ดังออกมาจากห้องตรวจ

“แต่ว่าคุณหมอหลี่ คุณเพิ่งออกมาจากห้องผ่าตัดนะคะ”

ด้านหลังคุยอะไรกันนั้นกู้ฉางชิงเริ่มฟังไม่ชัดแล้ว พอหลุดพ้นออกมาจากผู้หญิงคนนั้น เขาก็พุ่งเข้าไป

คุณหมอหลี่งานยุ่งมาก ตอนที่กู้ฉางชิงเข้าไปเขากลับมาที่ห้องตรวจพอดี

“คุณคือ?”คุณหมอหลี่ขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าไม่ชอบใจการแวะมาอย่างไม่มีการนัดล่วงหน้า

“ฉันคือกู้ฉางชิง ลูกสาวติงเซียงหลานผู้ป่วยของคุณ ฉันมาหาคุณแม่ของฉัน แต่ในห้องผู้ป่วยกลับไม่มีคนของเขา” กู้ฉางชิงพูดอย่างร้อนรนใจมาก

คุณหมอหลี่ขมวดคิ้ว พยาบาลด้านข้างเขาคนหนึ่งตอบแทน “อ๋อ ที่แท้ก็เป็นคุณ แต่ว่าแม่ของคุณย้ายโรงพยาบาลไปนานแล้วไม่ใช่เหรอ?”

“นี่เป็นไปได้ยังไง? แม่ฉันย้ายโรงพยาบาล ทำไมฉันไม่รู้ล่ะ?”

กู้ฉางชิงทั้งตกใจทั้งโกรธ “ทำไมพวกคุณทำแบบนี้ ย้ายผู้ป่วยโดยพลการ แล้วยังไม่รู้จักบอกคนในครอบครัวของพวกเราอีก”

พยาบาลคนนั้นโดนเขาต่อว่าก็เริ่มอยู่ไม่สุข พูดด้วยความโกรธ “โรงพยาบาลของเราผู้ป่วยเยอะขนาดนั้นทุกวัน จะให้มาสนใจแต่พวกคุณอย่างเดียวก็คงไม่ได้หรอก อีกอย่างนะ พ่อของคุณเป็นคนย้าย พวกเราไม่มีอำนาจในการปฏิเสธความต้องการของคนในครอบครัวผู้ป่วยหรอก”

“ไม่ ไม่มีทาง ทำไมเขาต้องทำแบบนี้?”

ไฟร้อนรุ่มที่อยู่ช่วงอกก็พุ่งขึ้นมา

แม่ของเขาเป็นจุดอ่อนของเขามาโดยตลอด

คุณหมอหลี่เห็นสถานการณ์แล้วมองเขาอย่างแปลกใจ พูดอย่างจริงจัง “เป็นคุณพ่อของคุณจริงๆที่สั่งย้าย คุณสามารถโทรถามเขาได้ บางทีเขาคงยังไม่ทันได้บอกคุณ”

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

สะใภ้เศรษฐี กับสามีผู้หลงภรรยา

Status: Ongoing
ก่อนแต่งงานแทนน้องสาวเข้าไปในตระกูลเฟิง กู้ฉางชิงได้ยินว่าเฟิงจิ่งเหยาเป็นคนที่เฉยเมย ต่อมาถึงได้รู้ว่าข่าวลือล้วนเป็นเรื่องโกหก คุณเฟิงไม่เพียงแต่ไม่เย็นชา กลับเป็นคนที่อบอุ่น แต่กระตือรือร้นเป็นพิเศษในการมีทายาท มีคนพูดเป่าหูต่อหน้าเขา “คุณเฟิง ก่อนคุณจะกลับประเทศ ในทุกๆคืนภรรยาของคุณจะไม่กลับบ้าน เพราะออกไปเมาข้างนอก” เฟิงจิ่งเหยา “หลังจากฉันกลับประเทศ ตอนค่ำภรรยาของฉันจะมาอยู่ที่ห้องฉัน ปรนนิบัติฉันไม่นอนทั้งคืน” มีคนพูดอีกว่า “ก่อนคุณจะกลับมา ภรรยาของคุณช้อปปิ้งทั้งวัน เปลี่ยนรถยี่ห้อหรูไม่หยุด แถมยังมีหนุ่มคอยอยู่เธอตลอดเวลา” เฟิงจิ่งเหยา พูดต่อว่า “หลังจากฉันกลับประเทศ บัตรเครดิตทุกใบของฉัน ฉันก็อยากให้ภรรยาฉันใช้ แต่เธอไม่ต้องการ ไปกลับจากที่ทำงานก็ให้ฉันไปรับแค่คนเดียว” สำหรับคนที่เย็นชา เมื่อมีภรรยาจะคลั่งรักเป็นพิเศษ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท